เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่ พุทธวจน คำสอนของพระศาสดา คำสอนตถาคต รวมพระสูตรสำคัญ อนาคามี เว็บไซต์เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ค้นหาคำที่ต้องการ       

  ชุด (3) มีเรื่อง  
   1. พระพุทธเจ้าวิปัสสี ๔ เรื่อง  6. มหานิทานสูตร  ๕ พระสูตร
   2. พระราหุล ๔ เรื่อง  7. มหานิทเทส (โดยพระสารีบุตร) ๕๗ เรื่อง
   3. อริยะวินัย ๗ พระสูตร  8. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ๒๓ เรื่อง
   4. มารผู้มีบาป ๖ พระสูตร  9. การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ  ๑๔ ครั้ง
   5. ธรรม ๔ ประการ บุคคล ๔ จำพวก ๑๐ พระสูตร  10. เรื่องพระเทวทัต  ๑๑ ตอน

  1) พระพุทธเจ้าวิปัสสี
901 พระพุทธเจ้าวิปัสสีจุติจากชั้นดุสิต(ย้้อนไป ๙๑ กัป)โลกธาตุนับหมื่นสว่างไสวสะท้านสะเทือน แม้ในที่มึดมิดที่แสงไม่เคยปรากฏ
902 พระวิปัสสีราชกุมาร เสด็จอุทยาน ทรงเห็นคนชรา คนเจ็บ ตนตาย และบรรพชิต จากนั้นทรงตัดสินใจปลงผมและหนวด
903 พระวิปัสสีโพธิสัตว์ผู้เสด็จหลีกออกเร้น พิจารณาความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ (สายเกิด) พิจารณาความดับ ตามสายปฏิจจสมุปบาท
904 อรหันตสัมมาสัมพุทธ  วิปัสสี ตรัสรู้ธรรม ทรงเห็นว่า ธรรมที่บรรลุนี้เป็นธรรม ลึกซึ้ง เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก รู้ได้เฉพาะบัณฑิต
 
  2) เรื่องพระราหุล
910 เรื่องพระราหุล (จูฬราหุโลวาทสูตร) อุปมา1 เรื่องน้ำน้อยในภาชนะ.. อุปมา2 เรื่องงวงช้าง..
911 เรื่องพระราหุล (จูฬราหุโลวาทสูตร) ชำระกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม กายกรรมนี้เป็นอกุศลมีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก
912 เรื่องพระราหุล (มหาราหุโลวาทสูตร) ดูกรราหุล รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอดีต เป็นอนาคต และเป็นปัจจุบัน นั่นไม่ใช่ของเรา
913 เรื่องพระราหุล (มหาราหุโลวาทสูตร) ภาวนาเสมอด้วยธาตุ ๕ การเจริญภาวนาธรรม ๖ อย่าง อานาปานสติภาวนา
 
  3) อริยะวินัย จากพระโอษฐ์
920 อริยะวินัย จากพระโอษฐ์ ลาภสักการะ.. อันตรายทารุณเผ็ดแสบ หมือนสุนัขขี้เรื้อน เต่าติดชนัก ปลากลืนเบ็ด ผู้กินคูถ ดูดีสัตว์
920-2 อริยะวินัย จากพระโอษฐ์ ผู้ชี้ขุมทรัพย์..เราจักชี้โทษแล้วชี้โทษอีก ภิกษุนกแก้ว นกขุนทอง ..ผู้รู้ธรรมไม่ทั่วถึง ผู้หล่นจากศาสนา
920-3 อริยะวินัย จากพระโอษฐ์ ไม่รู้ปฏิจจไม่ได้เป็นสมณะ ผู้ตกเหวสมณะผู้ไม่รู้ตามความเป็นจริงในทุกข์ ผู้ที่ควรเข้าใกล้ ผู้มีศีลสมาธิปัญญา
920-4 อริยะวินัย จากพระโอษฐ์ ผู้มีศีลไม่สะสม ไม่ดูการเล่น ไม่ดูการฟ้อน ฟังขับ ฟังนิยาย ฟังเพลง ปรบมือไม่ประดับตกแต่ง ปลุกเสก
920-5 อริยะวินัย จากพระโอษฐ์ เรียกร้องหาศาสดาเพื่อความเป็นศัตรู เรียกร้องหาศาสดาเพื่อความเป็นมิตร สมณสากยปุตติยะที่แท้
920-6 อริยะวินัย จากพระโอษฐ์ เถระดี เถระที่ไม่ต้องระวัง อาเนญชาสมาธิ เนื้อนาบุญของโลก พระโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์
920-7 อริยะวินัย จากพระโอษฐ์ เรื่องอื่นๆ
 
  4) มารผู้มีบาป
925 มารผู้มีบาป : ขัดขวางพระผู้มีพระภาค ๑๐พระสูตร มารกลิ้งหิน เข้าไปใกล้พระผู้มีพระภาค มารใช้คาถาบังตาพราหมณ์คหบดี
926 มารผู้มีบาป : มารปลอมตัว เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค
927 มารผู้มีบาป : (อรรถกถา) มารธิดา แปลงร่างเป็นมนุษย์ ขอบำเรอพระบาทพระผู้มีพระภาค พระองค์ก็มิได้ทรงใส่พระทัยถึงเลย
928 มารผู้มีบาป : มารรังควานภิกษุณี ให้บังเกิดความกลัว ความหวาดเสียว ความขนพองสยองเกล้า และใคร่จะให้เคลื่อนจากวิเวก
929 มารผู้มีบาป : โต้วาทะกับพระผู้มีพระภาค10 พระสูตร
930

คารวสูตรที่ ๒ แรกตรัสรู้ ทรงเห็นว่าไม่มีใครมีศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัศนะเท่า จึงทรงเคารพในธรรมที่ตรัสรู้

 
  5) ธรรม ๔ ประการ บุคคล ๔ จำพวก มีปรากฎในโลก
935 ๑. อนุพุทธสูตร ธรรม ๔ ประการ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ ที่เป็นอริยะ เราได้ตรัสรู้แล้ว ถอนตัณหาได้แล้ว ตัณหาสิ้นไปแล้ว
936 ๒. ปปติตสูตร ผู้ประกอบด้วย และผู้ไม่ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ เรียกว่าผู้ตกไปจากธรรมวินัยนี้
937 ๓. ขตสูตรที่ ๑ ธรรม ๔ ประการ ไม่ใคร่ครวญสืบสวนให้รอบคอบแล้วกล่าวสรรเสริญคุณของผู้ไม่ควร สรรเสริญ
938 ๔. ขตสูตรที่ ๒ ผู้ปฏิบัติชอบใน บุคคล ๔ จำพวก ถือเป็นบัณฑิต เป็นสัตบุรุษ คือปฏิบัติต่อ มารดา บิดา ตถาคต สาวกตถาคต
939 ๕. อนุโสตสูตร บุคคล ๔ จำพวก มีปรากฏอยู่ในโลก ผู้ไปตามกระแส ผู้ไปทวนกระแส ผู้มีตนตั้งอยู่แล้ว ผู้เป็นพราหมณ์ข้ามถึงฝั่ง
940 ๖. อัปปสุตสูตร บุคคล ๔ จำพวก มีสุตะน้อยไม่เข้าถึงสุตะ ผู้มีสุตะน้อยเข้าถึงสุตะ ..สุตะมากไม่เข้าถึงสุตะ..สุตะมากเข้าถึงสุตะ
941 ๗. สังฆโสภณสูตร : บุคคลผู้ยังหมู่ให้งามคือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาที่เฉียบแหลม ผู้แกล้วกล้า เป็นพหูสูต เป็นผู้ทรงธรรม
942 ๘. เวสารัชชสูตร พรหมจักรเวสา รัชชญาณ มี ๔ ประการ ธรรมของตถาคตไม่มีใครคัดง้างได้ ไม่ว่าจะเป็น สมณะ มาร พรหม ..
943 ๙. ตัณหาสูตร ตัณหา ๔ ประการ ตัณหาเกิดแก่ที่ใด ที่นั้นให้ชื่อว่าเป็นที่เกิดแห่งตัณหา ผู้มีตัณหาเป็นเพื่อนสองไม่ล่วงพ้นสงสาร
944 ๑๐. โยคสูตร โยคะ ๔ ประการ คือ กามโยคะ,ภวโยคะ,ทิฏฐิโยคะ,อวิชชาโยคะ.. ผู้พรากจาก อกุศลธรรม เรียกว่าผู้เกษมจากโยคะ
 
  6) มหานิทานสูตร
946 มหานิทานสูตร (๑๕) อานนท์ เธออย่าพูดอย่างนั้น อานนท์ ปฏิจจสมุบาทนี้ ลึกซึ้งสุดประมาณและปรากฏเป็นของลึก
947 มหานิทานสูตร (๑๕) เหตุเกิด-เหตุดับ ของอกุศลธรรมอันชั่วช้าลามก อาศัยตัณหา
948 มหานิทานสูตร (๑๕) สมุทัย ปัจจัย แห่งเวทนา แห่งผัสสะ แห่งนามรูป, นามกาย รูปกาย นามรูป
949 มหานิทานสูตร (๑๕) อัตตา (ความถือว่าตัวตน) บุคคลเมื่อไม่บัญญัติอัตตา
950 มหานิทานสูตร (๑๕) วิญญาณฐิติ ๗, อายตนะ ๒, วิโมกข์ ๘ : อายตนะ ๒ คือ อสัญญีสัตตายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ
 
  7) มหานิทเทส : ขยายความคำสอนตถาคต (โดยพระสารีบุตร)
957

มหานิทเทส (1) ขยายความคำสอนตถาคต (โดยพระสารีบุตร)

 

(1) ว่าด้วยกาม ๒ อย่าง : วัตถุกามเป็นไฉน กิเลสกามเป็นไฉน
(2) ผู้ปราถนากามเปรียบเหมือนถูกแทงด้วยลูกศร : เมื่อใคร่ อยากได้ ยินดี ปรารถนา มุ่งหมาย ชอบใจ
(3) กามเสื่อมไปได้อย่างไร : เสื่อม เสียหาย กระจัดกระจาย รั่วไหล อันตรธาน
(4) ว่าด้วยการเว้นขาดกามด้วยเหตุ ๒ ประการ โดยการข่มไว้ เช่นเจริญกายคตาสติ ..โดยการตัดขาด ปฏิบัติเพื่อความเป็นอริยบุคคล
(5) ว่าด้วยทาส ๔ จำพวก
(6) ว่าด้วยอันตราย ๒ อย่าง
(7) ว่าด้วยผู้มีสติทุกเมื่อ
(8) ว่าด้วยนรชนเป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำคือกาย

958

มหานิทเทส (2) ขยายความคำสอนตถาคต (โดยพระสารีบุตร)

  (1) ว่าด้วยวิเวก ๓ อย่าง
(2) ว่าด้วยกาม ๒ อย่าง
(3) ว่าด้วยกาม ๒ อย่าง
(4) ว่าด้วยตระหนี่ ๕ ประการ
(5) ความสงสัยในอนาคต ๑๕ ประการ
(6) ว่าด้วยสิกขา ๓
(7) ชีวิตน้อยด้วยเหตุ ๒ ประการ
(8) ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยอย่างนี้
(9) ว่าด้วยปัญญาที่เรียกว่าธี
(10) สัตว์ดิ้นรนอยู่ในโลกเพราะตัณหา
(11) ว่าด้วยภพน้อยภพใหญ่
(12) ว่าด้วยความยึดถือ ๒ อย่าง
(13) ว่าด้วยภพน้อยภพใหญ่
959

มหานิทเทส (3) ขยายความคำสอนตถาคต (โดยพระสารีบุตร)

  (1) ว่าด้วยความยึดถือ ๒ อย่าง
(2) ว่าด้วยผัสสะต่างๆ
(3) ว่าด้วยปริญญา ๓ ประการ
(4) ว่าด้วยเดียรถีย์กับมุนี
(5) ว่าด้วยกิเลสเครื่องตรึงจิต ๓
(6) ว่าด้วยทิฏฐิ
(7) ว่าด้วยศีลและวัตร
(8) ผู้ได้ชื่อว่าภิกษุ
(9) ว่าด้วยผู้มีอริยธรรม
(10) ว่าด้วยทิฏฐิธรรม
(11) ว่าด้วยสันติ ๓
(12) ว่าด้วยการถือมั่น
960

มหานิทเทส (4) ขยายความคำสอนตถาคต (โดยพระสารีบุตร)

  (1) ว่าด้วยผู้มีปัญญา
(2) เพราะเหตุไร ปัญญาจึงเรียกว่าโธนา
(3) ว่าด้วยมารยาและมานะ
(4) ว่าด้วยกิเลสเครื่องเข้าถึง ๒ อย่าง
(5) ว่าด้วยทิฏฐิ
(6) ว่าด้วยผู้พิจารณาเห็นความหมดจด
(7) ว่าด้วยความหมดจดเป็นต้น
(8) ว่าด้วยการเชื่อถือว่าเป็นมงคล ไม่เป็นมงคล
(9) ว่าด้วยความหมดจดด้วยศีลและวัตร
(10) ว่าด้วยการละบุญบาป
(11) ว่าด้วยการละตน
(12) ว่าด้วยการจับๆ วางๆ พ้นกิเลสไม่ได้
(13) ว่าด้วยการดำเนินผิดๆ ถูกๆ
(14) ผู้รู้ธรรม ๗ ประการ
961

มหานิทเทส (5) ขยายความคำสอนตถาคต (โดยพระสารีบุตร)

  (1) ว่าด้วยมารเสนา
(2) ว่าด้วยคุณลักษณะของสัตบุรุษ
(3) ว่าด้วยพระอรหันต์
(4) ว่าด้วยผู้ยึดถืออยู่ในทิฏฐิ
(5) ว่าด้วยอานิสงส์ในทิฏฐิ
(6) ว่าด้วยทัศนะของผู้ฉลาด
(7) ว่าด้วยภูมิธรรมของพระอรหันต์
(8) ว่าด้วยพระอรหันต์ได้ชื่อว่าพราหมณ์
(9) พระอรหันต์ได้ชื่อต่างๆ
 
  8) พุทธเจ้าแรกตรัสรู้ ทรงแสดง ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์
973 1) โพธิกถาปฏิจจสมุปบาทมนสิการ : ทรงพิจารณาปฏิจจ(สายเกิด-ดับ)ตลอด ๗ วัน เป็นอนุโลม+ปฏิโลม(ทบทวน)ตลอดปฐมยาม
  2) พุทธอุทานคาถาที่ ๑ : ทรงพิจารณาปฏิจจ (สายเกิด-ดับ) ตลอด ๗ วัน เป็นอนุโลมและปฏิโลม(ทบทวน)ตลอดมัชฌิมยาม
  3) พุทธอุทานคาถาที่ ๒ (ทบทวนปฏิจ)เมื่อธรรมทั้งหลายปรากฎ ความสงสัยย่อมสิ้นไป เพราะได้รู้ความสิ้นแห่งปัจจัย ทั้งหลาย
  4) พุทธอุทานคาถาที่ ๓ : (ทบทวน)เมื่อธรรมทั้งหลายปรากฏ เมื่อนั้นย่อมกำจัดมาร เสียได้ ดุจพระอาทิตย์อุทัย ทำอากาศให้สว่าง
  5) เรื่องพราหมณ์หุหุกชาติ : พราหมณ์ทูลถามว่า คำว่าพราหมณ์ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ ธรรมเหล่าไหนทำบุคคลให้เป็นพราหมณ์
  6) พุทธอุทานคาถา : พราหมณ์ใดมีบาปอันลอยเสียแล้ว ไม่มีกิเลสในอารมณ์ มีพรหมจรรย์อยู่จบแล้วควรกล่าวว่า ตนเป็นพราหมณ์
  7) เรื่องมุจจลินทนาคราช : นาคราชพันล้อมกายพระพุทธเจ้า ๗ รอบ แผ่แม่เบี้ยเหนือพระเศียร ครบ ๗ วันแปลงร่างเป็นคน ก้มกราบ
  8) พุทธอุทานคาถา : ความสงัดเป็นสุขของผู้สันโดษ.. ความไม่พยาบาทเป็นสุขในโลก.. การกำจัดอัสมิมานะเสียได้ เป็นสุขอย่างยิ่ง
   
974 1) เรื่องตปุสสะภัลลิกะ ๒ พ่อค้า : ล่วง ๗ วัน พ่อค้าอตปุสสะ และ ภัลลิก ถวายสัตตุผง(ข้าวผง)และสัตตุก้อน ตามที่เทวดาแนะนำ
  2) ทรงปริวิตก : ว่าธรรมที่บรรลุแล้ว เห็นได้ยาก รู้ได้เฉพาะบัณฑิต หมู่สัตว์ยังเริงรมย์ด้วยยินดี-อาลัย ในอวิชชาเป็นปัจจัยแห่งสังขาร
  3) อนัจฉริยคาถา : เรายังไม่ควรจะประกาศธรรมที่ได้บรรลุ พระทัยก็น้อมไปเพื่อความขวนขวายน้อย ไม่น้อมไปเพื่อทรงแสดงธรรม
  4) พรหมยาจนกถา : ท้าวสหัมบดีพรหม ทราบพระปริวิตกของพระผู้มีพระภาค เกิดปริวิตกว่า ชาวเราผู้เจริญ โลกจักฉิบหายหนอ
  5) สัตว์โลกเปรียบด้วยดอกบัว ๓ เหล่า: ทรงตรวจดูสัตว์โลก เห็นสัตว์ที่มีธุลีคือกิเลส อุปมาเหมือน บัวกออุบล กอปทุม กอบุณฑริก
  6) พุทธปริวิตกกถา : ทรงดำริว่าจะแสดงธรรม แก่อาฬารดาบส - อุทกดาบส แต่เทวดาบอกเสียชีวิตแล้ว จึงไปหาปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิ
  7) เรื่องอุปกาชีวก : อาชีวก เห็นผิวพรรณของ ภ.ผุดผ่องยิ่งนัก ถาม..ใครเป็นศาสดาของท่าน ท่านชอบธรรมของใคร..แล้วส่ายหน้า
   
975 1) เรื่องพระปัญจวัคคีย์ : พระองค์ยังไม่บรรลุ อุตตริมนุสสธรรม.. เป็นผู้มักมาก.. ตถาคตตรัสรู้เองโดยชอบ พวกเธอจงเงี่ยโสตสดับ
  2) ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ปฐมเทศนา: ส่วนสุดสองที่ไม่ควรเสพ คือกามสุข-ทำความลำบากแก่ตน ทางสายกลางคือมรรคมีองค์๘
  3)ดวงตา ญาณ ปัญญา วิทยา แสงสว่าง: ทุกข์-ควรกำหนดรู้..สมุทัย-ควรละ..นิโรธ-ควรทำให้แจ้ง..ปฏิปทา..ควรให้เจริญ
  4) ญาณทัศนะมี ๓ รอบ ๑๒ อาการ : โกณฑัญญะมีดวงตาเห็นธรรม เหล่าเทวดา บันลือธรรมจักรอันยอดเยี่ยม จนถึงพรหมโลก
   
976 1) ปัญจวัคคีย์ทูลขอบรรพชาอุปสมบท : พระโกณฑัญญะ บรรลุธรรมแล้ว จากนั้นวัปปะ ภัททิยะ มหานาทะ อัสสชิ ก็ตามมา
  2) ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตร : รูปเป็นอนัตตา เวทนา.. สัญญา.. สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา ขันธ์ทั้ง ๕ จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ
  3) ตรัสถามความเห็นของพระปัญจวัคคีย์ : รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง ไม่เที่ยงพระเจ้าข้า ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
  4) ตรัสให้พิจารณาโดยยถาภูตญาณทัสสนะ: เธอพึงเห็นรูปด้วยปัญญาอันชอบว่านั่นไม่ใช่ของเรานั่นไม่เป็นเรานั่นไม่ใช่ตนของเรา
 
 

9) การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ

977

คำชี้แจงเฉพาะภาคนี้
ต้องท่องเที่ยวมาแล้ว เพราะไม่รู้อริยสัจจ์
ตลอดวัฏฏสงสารของพระองค์ ไม่เคยทรงบังเกิด ในชั้นสุทธาวาส
ในวัฏฏสงสารที่ล่วงมาแล้ว เคยทรงบูชายัญญ์และบำเรอไฟแล้วอย่างมาก
ทิฏฐานุคติแห่งความดี ที่ทรงสั่งสมไว้แต่ภพก่อน ๆ
ชาติที่ ๑ ครั้งมีพระชาติเป็นโชติปาลมาณพ

978 ชาติที่ ๒ ครั้งมีพระชาติเป็นพระเจ้ามหาสุทัศน์
ชาติที่ ๓ ครั้งมีพระชาติเป็นปุโรหิต สอนการบูชายัญญ์
ชาติที่ ๔ ครั้งมีพระชาติเป็นพระเจ้ามฆเทวราช
979 ชาติที่ ๕ ครั้งมีพระชาติเป็นมหาโควินทพราหมณ์
ชาติที่ ๖ ครั้งมีพระชาติเป็นรถการ ช่างทำรถ
ชาติที่ ๗ ครั้งมีพระชาติเป็นอกิตติดาบส
ชาติที่ ๘ ครั้งมีพระชาติเป็นพระจันทกุมาร
ชาติที่ ๙ ครั้งมีพระชาติเป็นสังขพราหมณ์
ชาติที่ ๑๐ ครั้งมีพระชาติเป็นเวลามพราหมณ์
980 ชาติที่ ๑๑ ครั้งมีพระชาติเป็นพระเวสสันดร ***
ชาติที่ ๑๒ ครั้งมีพระชาติเป็นมาตังคชฎิล
ชาติที่ ๑๓ ครั้งมีพระชาติเป็นจูฬโพธิ์์
ชาติที่ ๑๔ ครั้งมีพระชาติเป็นเจ้าชายยุธัญชยะ
ที่สุดแห่งการท่องเที่ยวของพระองค์
 
  10) เรื่องพระเทวทัต
985 พระเทวทัต ตอนที่ ๑ เรื่องวัตถุ ๕ ประการ พระเทวทัต ขอให้พระองค์บัญญัติเป็นวินัยสงฆ์ แต่ทรงไม่อนุญาต.. จึงไปโพนทะนา
986 พระเทวทัต ตอนที่ ๒ พระพุทธเจ้าตำหนิสงฆ์ ที่ประพฤติตามพระเทวทัต ทรงบัญญัติ สิกขาบทวิภังค์ ให้ภิกษุดูแลกัน ให้เตือนกัน
987 พระเทวทัต ตอนที่ ๓ พระเทวทัต พร้อมหมู่สงฆ์ เที่ยวขออาหารมาฉัน ทรงติเตียน และทรงบัญญัติ ห้ามภิกษุฉันรวมกันเป็นหมู่
988 พระเทวทัต ตอนที่ ๔ พระเทวทัตสวดปาติโมกข์ในบริษัท ที่มีคฤหัสถ์ปนอยู่ด้วย พ.ห้าม รูปใดสวด ต้องอาบัติทุกกฏ
989 พระเทวทัต ตอนที่ ๕ ตระกูลศากยะออกบวช อนุรุธะ (ได้ทิพย์จักษุ) อานนท์(สำเร็จโสดาบัน) เทวทัต (สำเร็จฤทธิ์ชั้นปถุชน)
990 พระเทวทัต ตอนที่ ๖ พระเทวทัต แสดงฤทธิ์ แปลงร่างเป็นกุมารน้อย จากนั้นมีความคิด ที่จะปกครองสงฆ์ แทนพระพุทธเจ้า
991 พระเทวทัต ตอนที่ ๗ อชาตสัตตลอบปลงพระบิดา พระเทวทัตลอบปลง พ. ส่งคนมือธนู ทุ่มหิน ปล่อยช้างนาฬาคิรี
992 พระเทวทัต ตอนที่ ๘ ปกาสนียกรรม ประกาศการกระทำ(ประจาน)ของพระเทวทัต ว่าประพฤติ กาย วาจา ใจ ต่างจากเมื่อก่อน
993 พระเทวทัต ตอนที่ ๙ เทวทัตพาภิกษุใหม่ ๕๐๐ รูปไปคยาสีสะ พระสารี-พระโมคพากลับ ทำให้โลหิตพุ่งออกจากปากพระเทวทัต
994 พระเทวทัต ตอนที่ ๑๐ พระเทวทัตไปเกิดในอบายเพราะไม่เห็นธรรมขาวแม้ปลายขนทราย ต้องเกิดในอบายตลอดกัปเยียวยาไม่ได้
995 พระเทวทัต ตอนที่ ๑๑ ประวัติพระเทวทัต(จากวิกิพีเดีย) ภาพปัจจุบันที่เชื่อว่าพระเทวทัตถูกธรณีสูบ หน้าวัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
 
   
   
   


พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์