ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๐ สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค หน้าที่ ๕๐ – ๖๔
๒. มหานิทานสูตร (๑๕)
สมุทัย ปัจจัย แห่งเวทนา แห่งผัสสะ แห่งนามรูป
ดูกรอานนท์ ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง ด้วยประการดังนี้แล ฯ
ก็คำนี้ว่า เพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา เรากล่าว อธิบายดังต่อ ไปนี้ ดูกรอานนท์ เธอพึงทราบความข้อนี้โดยปริยายแม้นี้ เหมือนที่เรา ได้กล่าว ไว้ว่าเพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา
ดูกรอานนท์ ก็ถ้าผัสสะมิได้มีแก่ ใครๆ ในภพไหนๆ ทั่วไปทุกแห่งหน คือ จักษุสัมผัส โสตสัมผัส ฆานสัมผัส ชิวหา สัมผัส กายสัมผัส มโนสัมผัส เมื่อไม่มี ผัสสะ โดยประการทั้งปวง เพราะ ดับผัสสะเสียได้เวทนา จะพึงปรากฏได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน* สมุทัย ปัจจัยแห่งเวทนา ก็คือ ผัสสะ นั่นเองฯ ก็คำนี้ว่า เพราะนามรูปเป็นปัจจัยจึงเกิดผัสสะ เรากล่าวอธิบาย ดังต่อไปนี้ ดูกรอานนท์ เธอพึงทราบความข้อนี้โดยปริยายแม้นี้ เหมือนที่เราได้กล่าว ไว้ ว่า เพราะ นามรูปเป็นปัจจัยจึงเกิดผัสสะ
* นิทาน แปลว่า เหตุเกิด (นิทาน สมุทัย ชาตกะ เหมือนๆกัน)
------------------------------------------------------------------------------------
นามกาย รูปกาย นามรูป ไม่อาจปรากฎขึ้นได้ ถ้าไม่มีการสัมผัส(จากวิญญาณ)
ดูกรอานนท์ การบัญญัติ นามกาย ต้องพร้อมด้วย อาการ (กิริยา) เพศ(ลักษณะ) นิมิต(เครื่องหมาย) อุเทศ(อ้างอิง) เมื่ออาการ เพศ นิมิต และอุเทศ นั้นๆ ไม่มีการสัมผัส เพียงแต่ชื่อ ในรูปกาย จะพึงปรากฏได้บ้างไหมฯ....
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
ดูกรอานนท์ การบัญญัติ รูปกาย ต้องพร้อมด้วยอาการ เพศ นิมิต อุเทศ
เมื่ออาการ เพศ นิมิต อุเทศนั้นๆ ไม่มีการสัมผัส โดยการกระทบ จะพึงปรากฏใน นามกาย ได้บ้างไหมฯ....
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
ดูกรอานนท์ การบัญญัติ นามก็ดี รูปกายก็ดี ต้องพร้อมด้วยอาการ เพศ
นิมิต อุเทศเมื่ออาการ เพศ นิมิต อุเทศนั้นๆ ไม่มีการสัมผัส เพียงแต่ชื่อ ก็ดี การสัมผัส โดยการกระทบก็ดี จะพึงปรากฏได้บ้างไหมฯ...
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
ดูกรอานนท์ การบัญญัติ นามรูป ต้องพร้อมด้วยอาการ เพศ นิมิต อุเทศ เมื่ออาการเพศ นิมิต อุเทศนั้นๆ ไม่มีผัสสะ จะพึงปรากฏได้บ้างไหมฯ...
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งผัสสะ ก็คือ นามรูป นั่นเอง ก็คำนี้ว่า เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยจึงเกิดนามรูป เรากล่าวอธิบาย ดังต่อไปนี้ ดูกรอานนท์ เธอพึงทราบความข้อนี้โดยปริยายแม้นี้ เหมือนที่เราได้กล่าว ไว้ว่า เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยจึงเกิดนามรูป
------------------------------------------------------------------------------------
การปรากฏขึ้นแห่ง นามรูป เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย
ดูกรอานนท์ ก็วิญญาณจักไม่หยั่งลง ในท้องแห่งมารดา นามรูปจักขาด ในท้องแห่งมารดาได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
ดูกรอานนท์ ก็ถ้าวิญญาณหยั่งลงในท้องแห่งมารดา แล้วจักล่วงเลยไป นามรูป จักบังเกิดเพื่อความเป็นอย่างนี้ได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
ดูกรอานนท์ ก็ถ้าวิญญาณ ของกุมารก็ดี ของกุมาริกาก็ดี ผู้ยังเยาว์วัยอยู่
จักขาดความสืบต่อ นามรูปจักถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ ได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งนามรูป ก็คือ วิญญาณนั่นเอง ฯ ก็คำนี้ว่าเพราะนามรูปเป็นปัจจัยจึงเกิดวิญญาณ เรากล่าวอธิบาย ดังต่อไปนี้ ดูกรอานนท์ เธอพึงทราบความข้อนี้โดยปริยายแม้นี้ เหมือนที่เราได้กล่าว ไว้ว่า เพราะนามรูปเป็นปัจจัยจึงเกิดวิญญาณ
------------------------------------------------------------------------------------
ดูกรอานนท์ ก็ถ้าวิญญาณจักไม่ได้อาศัยใน นามรูปแล้ว ความเกิดขึ้นแห่ง ชาติ ชรา มรณะ และกองทุกข์ พึงปรากฏ ต่อไปได้บ้าง ไหม ฯ ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งวิญญาณ ก็คือ นามรูปนั่นเอง ด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้แหละ อานนท์ วิญญาณและนามรูป จึงยังเกิด แก่ ตาย จุติหรืออุปบัติ ทางแห่งชื่อ ทางแห่งนิรุติ ทางแห่งบัญญัติ ทางที่กำหนดรู้ ด้วยปัญญาและวัฏฏสังสารย่อมเป็นไปด้วยเหตุเพียงเท่านี้ๆ ความเป็นอย่างนี้ ย่อมมี เพื่อบัญญัติ คือนามรูปกับวิญญาณฯ
อธิบายเพิ่ม
นามกาย คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และ วิญญาณขันธ์
รูปกาย คือ รูปขันธ์
เพราะธาตุมีประการต่างๆ (๑๘ ธาตุ) การแปรเปลี่ยนหมุนเวียนของวิญญาณ ที่มีในธาตุต่างๆ นั้น ซึ่งการเกิดขึ้นของวิญญาณต้องถึงความประมวลพร้อม ของธรรม ๒ อย่าง เช่น
อาศัยรูปทั้งหลายด้วย จักขุด้วย จึงเกิด จักขุวิญญาณ (เป็นต้น) การประชุมพร้อม ของธรรม ๓ ประการนี้ เรียกจักขุสัมผัส (ผัสสะทางตา) แต่เพราะความแตกต่างกันของธาตุ จึงมีความ แตกต่างกันของผัสสะ
จึงทำให้เกิด ผัสสายตนะ ๖ ช่องทางอย่างนี้ จึงเป็นทางมา แห่งเพราะ อาศัยนามรูป จึงมีผัสสะ
อาการ หมายถึง กิริยา ที่จะพึงปรากฏมีขึ้นในขันธ์แต่ละอย่าง
เพศ หมายถึง ลักษณะ ที่บ่งบอกคือ ความเป็นจำเพาะของขันธ์แต่ละอย่าง
นิมิต หมายถึง เครื่องหมาย แสดงถึงลักษณะเฉพาะของขันธ์แต่ละอย่าง
อุทเทส หมายถึง คำอธิบายเกี่ยวกับขันธ์แต่ละอย่าง เช่น
รูป คือ มหาภูตรูป และ รูปที่อาศัย มหาภูตรูป (นิมิต) เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง (เพศ)
กิริยาที่แตกสลายได้มีอยู่ ในสิ่งนั้น ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า รูป (อาการ)
สิ่งนั้น แตกสลายได้ เพราะอะไร ?
สิ่งนั้น แตกสลายได้เพราะความเย็นบ้าง แตกสลายได้ เพราะความร้อนบ้าง แตกสลายได้
เพราะความหิวบ้าง แตกสลายได้ เพราะความกระหายบ้าง
แตกสลายได้ เพราะถูกต้องกับ เหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานบ้าง (อุทเทส)
ที่มา :
http://webboard.watnapp.com/forum.php?mod=viewthread&tid=5504 |