เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
  
หนังสือพุทธวจนออนไลน์   ดูหนังสือทั้งหมด
90 90 90 90 90
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์  
 
ค้นหาคำที่ต้องการ       

  อริยวินัย พุทธวจน   ดาวน์โหลดหนังสือ(ไฟล์ PDF)
  
  13 of 13    
ออกไปหน้าสารบาญ

หน้า1  : หน้า2  :  หน้า3  : หน้า4  : หน้า5  :  หน้า6  :  หน้า7  : หน้า8  : หน้า9  : หน้า10  : หน้า11  : หน้า12  : หน้า13
 
 

ที่มา : http://watnapp.com/book

หน้า 1064
ภิกขุปาติโมกข์

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ. ยะทิ สังฆัสสะ ปัตตะกัลลัง, สังโฆ
อุโปสะถัง กะเรยยะ, ปาติโมกขัง อุทิเสยยะ.
กิง สังฆัสสะ ปุพพะกิจจัง, ปาริสุทธิง อายัส๎มันโต อาโรเจถะ,
ปาติโมกขัง อุททิสิสสามิ. ตัง สัพเพวะ สันตา สาธุกัง สุโณมะ
มะนะสิกะโรมะ. ยัสสะ สิยา อาปัตติ, โส อาวิกะเรยยะ, อะสันติยา
อาปัตติยา ตุณ๎หี ภะวิตัพพัง. ตุณ๎หี ภาเวนะ โข ปะนายัส๎มันเต
ปะริสุทธาติ เวทิสสามิ. ยะถา โข ปะนะ ปัจเจกะปุฏฐัสสะ เวยยากะระณัง
โหติ, เอวะเมวัง เอวะรูปายะ ปะริสายะ ยาวะตะติยัง อะนุสสาวิตัง โหติ.
โย ปะนะ ภิกขุ ยาวะตะติยัง อะนุสสาวิยะมาเน สะระมาโน สันติง อาปัตติง
นาวิกะเรยยะ, สัมปะชานะมุสาวาทัสสะ โหติ, สัมปะชานะมุสาวาโท โข
ปะนายสั ๎มนั โต อันตะรายิโก ธมั โม วุตโต ภะคะวะตา; ตสั ๎มา สะระมาเนนะ
ภิกขุนา อาปันเนนะ วิสุทธาเปกเขนะ สันตี อาปัตติ อาวิกาตัพพา.
อาวิกะตา หิสสะ ผาสุ โหติ.

                              นิทานัง นิฏฐิตัง.

          ตัต๎ริเม จัตตาโร ปาราชิกา ธัมมา อุทเทสัง อาคัจฉันติ.

          1. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขูนัง สิกขาสาชีวะสะมาปันโน สิกขัง
อัปปัจจักขายะ ทุพพัล๎ยัง อะนาวิกัต๎วา เมถุนัง ธัมมัง ปะฏิเสเวยยะ
อันตะมะโส ติรัจฉานะคะตายะปิ, ปาราชิโก โหติ อะสังวาโส.

          2. โย ปะนะ ภิกขุ คามา วา อะรัญญา วา อะทินนัง เถยยะสังขาตัง
อาทิเยยยะ, ยะถารูเป อะทินนาทาเน ราชาโน โจรัง คะเหต๎วา หะเนยยุง
วา พันเธยยุง วา ปัพพาเชยยุง วา “โจโรสิ พาโลสิ มุฬ๎โหสิ เถโนสีติ;
ตะถารูปัง ภิกขุ อะทินนัง อาทิยะมาโน, อะยัมปิ ปาราชิโก โหติ
อะสังวาโส.

          3. โย ปะนะ ภิกขุ สัญจิจจะ มะนุสสะวิคคะหัง ชีวิตา โวโรเปยยะ,
สัตถะหาระกัง วาสสะ ปะริเยเสยยะ, มะระณะวัณณัง วา สังวัณเณยยะ,
มะระณายะ วา สะมาทะเปยยะ “อัมโภ ปุริสะ กิง ตุยหิมินา ปาปะเกนะ
ทุชชีวิเตนะ, มะตันเต ชีวิตา เสยโยติ; อิติ จิตตะมะโน จิตตะสังกัปโป
อะเนกะปะริยาเยนะ มะระณะวัณณัง วา สังวัณเณยยะ, มะระณายะ วา
สะมาทะเปยยะ; อะยัมปิ ปาราชิโก โหติ อะสังวาโส.
          
          4. โย ปะนะ ภิกขุ อะนะภิชานัง อุตตะริมะนุสสะธัมมัง
อัตตูปะนายิกัง อะละมะริยะญาณะทัสสะนัง สะมุทาจะเรยยะ “อิติ
ชานามิ อิติ ปัสสามีติ; ตะโต อะปะเรนะ สะมะเยนะ สะมะนุคคาหิยะมาโน
วา อะสะมะนุคคาหิยะมาโน วา อาปันโน วิสุทธาเปกโข เอวัง วะเทยยะ
“อะชานะเมวัง อาวุโส อะวะจัง ‘ชานามิ’ อะปัสสัง ‘ปัสสามิ’ ตุจฉัง มุสา
วิละปินติ, อัญญัต๎ระ อะธิมานา; อะยัมปิ ปาราชิโก โหติ อะสังวาโส.
           อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต จัตตาโร ปาราชิกา ธัมมา, เยสัง ภิกขุ
อัญญะตะรัง วา อัญญะตะรัง วา อาปัชชิต๎วา นะ ละภะติ ภิกขูหิ
สัทธิงสังวาสัง, ยะถา ปุเร; ตะถา ปัจฉา; ปาราชิโก โหติ อะสังวาโส.
          ตัตถายัส๎มันเต ปุจฉามิ:      กัจจิตถะ ปะริสุทธา
          ทุติยัมปิ ปุจฉามิ:              กัจจิตถะ ปะริสุทธา
          ตะติยัมปิ ปุจฉามิ:             กัจจิตถะ ปะริสุทธา
          ปะริสุทเธตถายัส๎มันโต; ตัส๎มา ตุณ๎หี, เอวะเมตัง ธาระยามิ.
                    ปาราชิกุทเทโส นิฏฐิโต.

          อิเม โข ปะนายัส๎มันโต เตระสะ สังฆาทิเสสา ธัมมา อุทเทสัง
อาคัจฉันติ.
           1. สัญเจตะนิกา สุกกะวิสัฏฐิ, อัญญัต๎ระ สุปินันตา สังฆาทิเสโส.
           2. โย ปะนะ ภิกขุ โอติณโณ วิปะริณะเตนะ จิตเตนะ มาตุคาเมนะ
สัทธิง กายะสังสัคคัง สะมาปัชเชยยะ, หัตถะคาหัง วา เวณิคาหัง วา
อัญญะตะรัสสะ วา อัญญะตะรัสสะ วา อังคัสสะ ปะรามะสะนัง,
สังฆาทิเสโส.
           3. โย ปะนะ ภิกขุ โอติณโณ วิปะริณะเตนะ จิตเตนะ มาตุคามัง
ทุฏฐุลลาหิ วาจาหิ โอภาเสยยะ, ยะถาตัง ยุวา ยุวะติง เมถุนูปะสัญหิตาหิ;
สังฆาทิเสโส.
           4. โย ปะนะ ภิกขุ โอติณโณ วิปะริณะเตนะ จิตเตนะ มาตุคามัสสะ
สันติเก อัตตะกามะปาริจะริยายะ วัณณัง ภาเสยยะ “เอตะทัคคัง ภะคินิ
ปาริจะริยานัง, ยา มาทิสัง สีละวันตัง กัล๎ยาณะธัมมัง พ๎รัหมะจาริง
เอเตนะ ธัมเมนะ ปะริจะเรยยาติ เมถุนูปะสัญหิเตนะ, สังฆาทิเสโส.
           5. โย ปะนะ ภิกขุ สัญจะริตตัง สะมาปัชเชยยะ อิตถิยา วา
ปุริสะมะติง ปุริสัสสะ วา อิตถีมะติง ชายัตตะเน วา ชารัตตะเน วา
อันตะมะโส ตัง ขะณิกายะปิ, สังฆาทิเสโส.
           6. สัญญาจิกายะ ปะนะ ภิกขุนา กุฏิง การะยะมาเนนะ อัสสามิกัง
อัตตุทเทสัง ปะมาณิกา กาเรตัพพา; ตัต๎ริทัง ปะมาณัง: ทีฆะโส
ทะวาทะสะ วิทัตถิโย สุคะตะวิทัตถิยา, ติริยัง สัตตันตะรา. ภิกขู อะภิเนตัพพา
วัตถุเทสะนายะ; เตหิ ภิกขูหิ วัตถุง เทเสตัพพัง อะนารัมภัง สะปะริกกะมะนัง.
สารัมเภ เจ ภิกขุ วัตถุส๎มิง อะปะริกกะมะเน สัญญาจิกายะ กุฏิง กาเรยยะ,
ภิกขู วา อะนะภิเนยยะ วัตถุเทสะนายะ, ปะมาณัง วา อะติกกาเมยยะ,
สังฆาทิเสโส.
           7. มะหัลละกัมปะนะ ภิกขุนา วิหารัง การะยะมาเนนะ สัสสามิกัง
อัตตุทเทสัง ภิกขู อะภิเนตัพพา วัตถุเทสะนายะ; เตหิ ภิกขูหิ วัตถุง
เทเสตัพพัง อะนารัมภัง สะปะริกกะมะนัง. สารัมเภ เจ ภิกขุ วัตถุส๎มิง
อะปะริกกะมะเน มะหัลละกัง วิหารัง กาเรยยะ, ภิกขู วา อะนะภิเนยยะ
วัตถุเทสะนายะ, สังฆาทิเสโส.
           8. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง ทุฏโฐ โทโส อัปปะตีโต อะมูละเกนะ
ปาราชิเกนะ ธัมเมนะ อะนุทธังเสยยะ “อัปเปวะ นามะ นัง อิมัมหา
พ๎รัหมะจะริยา จาเวยยันติ. ตะโต อะปะเรนะ สะมะเยนะ
สะมะนุคคาหิยะมาโน วา อะสะมะนุคาหิยะมาโน วา, อะมูละกัญเจวะ
ตัง อะธิกะระณัง โหติ, ภิกขุ จะ โทสัง ปะติฏฐาติ, สังฆาทิเสโส.
           9. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง ทุฏโฐ โทโส อัปปะตีโต อัญญะภาคิยัสสะ
อะธิกะระณัสสะ กิญจิ เทสัง เลสะมัตตัง อุปาทายะ ปาราชิเกนะ
ธัมเมนะ อะนุทธังเสยยะ “อัปเปวะ นามะ นัง อิมัมหา พ๎รัหมะจะริยา
จาเวยยันติ. ตะโต อะปะเรนะ สะมะเยนะ สะมะนุคคาหิยะมาโน วา
อะสะมะนคุ คาหยิ ะมาโน วา, อัญญะภาคิยัญเจวะ ตัง อะธิกะระณัง โหติ,
โกจิ เทโส เลสะมัตโต อุปาทินโน ภิกขุ จะ โทสัง ปะติฏฐาติ, สังฆาทิเสโส.
           10 . โย ปะนะ ภิกขุ สะมัคคัสสะ สังฆัสสะ เภทายะ ปะรักกะเมยยะ
เภทะนะสังวัตตะนิกัง วา อะธิกะระณัง สะมาทายะ ปัคคัยหะ ติฏเฐยยะ.
โส ภกิ ขุ ภิกขูหิ เอวะมัสสะ วะจะนีโย “มา อายัส๎มา สะมัคคัสสะ สังฆัสสะ
เภทายะ ปะรักกะมิ, เภทะนะสังวัตตะนิกัง วา อะธิกะระณัง สะมาทายะ
ปัคคัยหะ อัฏฐาสิ; สะเมตายัส๎มา สังเฆนะ, สะมัคโค หิ สังโฆ สัมโมทะมาโน
อะวิวะทะมาโน เอกุทเทโส ผาสุ วิหะระตีติ. เอวัญจะ โส ภิกขุ ภิกขูหิ
วุจจะมาโน ตะเถวะ ปัคคัณเหยยะ, โส ภิกขุ ภิกขูหิ ยาวะตะติยัง
สะมะนุภาสิตัพโพ ตัสสะ ปะฏินิสสัคคายะ; ยาวะตะติยัญเจ
สะมะนุภาสิยะมาโน ตัง ปะฏินิสสัชเชยยะ, อิจเจตัง กุสะลัง; โน เจ
ปะฏินิสสัชเชยยะ, สังฆาทิเสโส.
           11 . ตัสเสวะ โข ปะนะ ภิกขุสสะ ภิกขู โหนติ อะนุวัตตะกา
วัคคะวาทะกา, เอโก วา เท๎ว วา ตะโย วา, เต เอวัง วะเทยยุง, “มา อายัส๎มันโต
เอตงั ภกิ ขงุ กญิ จิ อะวะจตุ ถะ ธมั มะวาที เจโส ภกิ ข,ุ วนิ ะยะวาที เจโส ภกิ ข,ุ
อัมหากัญเจโส ภิกขุ, ฉันทัญจะ รุจิญจะ อาทายะ โวหะระติ, ชานาติ
โน ภาสะติ, อัมหากัมเปตัง ขะมะตีติ. เต ภิกขู ภิกขูหิ เอวะมัสสุ วะจะนียา
“มา อายัส๎มันโต เอวัง อะวะจุตถะ, นะ เจโส ภิกขุ ธัมมะวาที, นะ เจโส
ภิกขุ วินะยะวาที, มา อายัส๎มันตานัมปิ สังฆะเภโท รุจิตถะ,
สะเมตายัส๎มันตานัง สังเฆนะ, สะมัคโค หิ สังโฆ สัมโมทะมาโน
อะวิวะทะมาโน เอกุทเทโส ผาสุ วิหะระตีติ. เอวัญจะ เต ภิกขู ภิกขูหิ
วุจจะมานา ตะเถวะ ปัคคัณเหยยุง. เต ภิกขู ภิกขูหิ ยาวะตะติยัง
สะมะนุภาสิตัพพา ตัสสะ ปะฏินิสสัคคายะ; ยาวะตะติยัญเจ
สะมะนุภาสิยะมานา ตัง ปะฏินิสสัชเชยยุง อิจเจตัง กุสะลัง, โน เจ
ปะฏินิสสัชเชยยุง; สังฆาทิเสโส.
           12. ภิกขุ ปะเนวะ ทุพพะจะชาติโก โหติ, อุทเทสะปะริยาปันเนสุ
สิกขาปะเทสุ ภิกขูหิ สะหะธัมมิกัง วุจจะมาโน อัตตานัง อะวะจะนียัง
กะโรติ “มา มัง อายัส๎มันโต กิญจิ อะวะจุตถะ กัล๎ยาณัง วา ปาปะกัง วา,
อะหัมปายัส๎มันเต นะ กิญจิ วักขามิ กัล๎ยาณัง วา ปาปะกัง วา,
วิระมะถายัส๎มันโต มะมะ วะจะนายาติ, โส ภิกขุ ภิกขูหิ เอวะมัสสะ
วะจะนีโย “มา อายัส๎มา อัตตานัง อะวะจะนียัง อะกาสิ, วะจะนียะเมวะ
อายสั ม๎ า อัตตานัง กะโรตุ, อายัส๎มาปิ ภิกขู วะเทตุ สะหะธัมเมนะ, ภิกขูปิ
อายัส๎มันตัง วักขันติ สะหะธัมเมนะ, เอวัง สังวัฑฒา หิ ตัสสะ ภะคะวะโต
ปะริสา, ยะทิทัง อัญญะมัญญะวะจะเนนะ อัญญะมัญญะวุฏฐาปะเนนาติ.
เอวัญจะ โส ภิกขุ ภิกขูหิ วุจจะมาโน ตะเถวะ ปัคคัณเหยยะ, โส ภิกขุ ภิกขูหิ
ยาวะตะติยัง สะมะนุภาสิตัพโพ ตัสสะ ปะฏินิสสัคคายะ, ยาวะตะติยัญเจ
สะมะนุภาสิยะมาโน ตัง ปะฏินิสสัชเชยยะ.

             อิจเจตัง กุสะลัง, โน เจ ปะฏินิสสัชเชยยะ, สังฆาทิเสโส.

          13. ภิกขุ ปะเนวะ อัญญะตะรัง คามัง วา นิคะมัง วา อุปะนิสสายะ
วิหะระติ กุละทูสะโก ปาปะสะมาจาโร, ตัสสะ โข ปาปะกา สะมาจารา
ทิสสันติ เจวะ สุยยันติ จะ, กุลานิ จะ เตนะ ทุฏฐานิ ทิสสันติ เจวะ
สุยยันติ จะ. โส ภิกขุ ภิกขูหิ เอวะมัสสะ วะจะนีโย “อายัส๎มา โข กุละทูสะโก
ปาปะสะมาจาโร, อายัส๎มะโต โข ปาปะกา สะมาจารา ทิสสันติ
เจวะ สุยยันติ จะ. กุลานิ จายัส๎มะตา ทุฏฐานิ ทิสสันติ เจวะ สุยยันติ จะ;
ปักกะมะตายัส๎มา อิมัมหา อาวาสา, อะลันเต อิธะ วาเสนาติ. เอวัญจะ โส
ภิกขุ ภิกขูหิ วุจจะมาโน เต ภิกขู เอวัง วะเทยยะ “ฉันทะคามิโน จะ ภิกขู;
โทสะคามิโน จะ ภิกขู, โมหะคามิโน จะ ภิกขู, ภะยะคามิโน จะ ภิกขู,
ตาทิสิกายะ อาปัตติยา เอกัจจัง ปัพพาเชนติ, เอกัจจัง นะ ปัพพาเชนตีติ.
โส ภิกขุ ภิกขูหิ เอวะมัสสะ วะจะนีโย “มา อายัส๎มา เอวัง อะวะจะ,
นะ จะ ภิกขู ฉันทะคามิโน, นะ จะ ภิกขู โทสะคามิโน, นะ จะ ภิกขู
โมหะคามิโน, นะ จะ ภิกขู ภะยะคามิโน, อายัส๎มา โข กุละทูสะโก
ปาปะสะมาจาโร, อายัส๎มะโต โข ปาปะกา สะมาจารา ทิสสันติ เจวะ
สุยยันติ จะ, กุลานิ จายัส๎มะตา ทุฏฐานิ ทิสสันติ เจวะ สุยยันติ จะ,
ปักกะมะตายัส๎มา อิมัมหา อาวาสา, อะลันเต อิธะ วาเสนาติ. เอวัญจะ
โส ภิกขุ ภิกขูหิ วุจจะมาโน ตะเถวะ ปัคคัณเหยยะ, โส ภิกขุ ภิกขูหิ
ยาวะตะติยัง สะมะนุภาสิตัพโพ ตัสสะ ปะฏินิสสัคคายะ; ยาวะตะติยัญเจ
สะมะนุภาสิยะมาโน ตัง ปะฏินิสสัชเชยยะ, อิจเจตัง กุสะลัง; โน เจ
ปะฏินิสสัชเชยยะ, สังฆาทิเสโส.
          อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต เตระสะ สังฆาทิเสสา ธัมมา: นะวะ
ปะฐะมาปัตติกา, จัตตาโร ยาวะตะติยะกา; เยสัง ภิกขุ อัญญะตะรัง วา
อัญญะตะรัง วา อาปัชชิต๎วา ยาวะติหัง ชานัง ปะฏิจฉาเทติ; ตาวะติหัง
เตนะ ภิกขุนา อะกามา ปะริวัตถัพพัง, ปะริวุตถะปะริวาเสนะ ภิกขุนา
อุตตะริง ฉารัตตัง ภิกขุมานัตตายะ ปะฏิปัชชิตัพพัง, จิณณะมานัตโต
ภิกขุ, ยัตถะ สิยา วีสะติคะโน ภิกขุสังโฆ, ตัตถะ โส ภิกขุ อัพเภตัพโพ;
เอเกนะปิ เจ อูโน วีสะติคะโณ ภิกขุสังโฆ, ตัง ภิกขุง อัพเภยยะ, โส จะ
ภิกขุ อะนัพภิโต, เต จะ ภิกขู คารัย๎หา: อะยัง ตัตถะ สามีจิ.
      ตัตถายัส๎มันเต   ปุจฉามิ:          กัจจิตถะ ปะริสุทธา
      ทุติยัมปิ          ปุจฉามิ:           กัจจิตถะ ปะริสุทธา
      ตะติยัมปิ         ปุจฉามิ:           กัจจิตถะ ปะริสุทธา
ปะริสุทเธตถายัส๎มันโต, ตัส๎มา ตุณ๎หี, เอวะเมตัง ธาระยามิ.
สังฆาทิเสสุทเทโส นิฏฐิโต.
อิเม โข ปะนายัส๎มันโต เท๎ว อะนิยะตา ธัมมา อุทเทสัง อาคัจฉันติ.

1. โย ปะนะ ภิกขุ มาตุคาเมนะ สัทธิง เอโก เอกายะ ระโห
ปะฏิจฉันเน อาสะเน อะลังกัมมะนิเย นิสัชชัง กัปเปยยะ; ตะเมนัง
สัทเธยยะวะจะสา อุปาสิกา ทิส๎วา ติณณัง ธัมมานัง อัญญะตะเรนะ
วะเทยยะ ปาราชิเกนะ วา สังฆาทิเสเสนะ วา ปาจิตติเยนะ วา,
นิสัชชัง ภิกขุ ปะฏิชานะมาโน ติณณัง ธัมมานัง อัญญะตะเรนะ
กาเรตัพโพ ปาราชิเกนะ วา สังฆาทิเสเสนะ วา ปาจิตติเยนะ วา;
เยนะ วา สา สัทเธยยะวะจะสา อุปาสิกา วะเทยยะ, เตนะ โส ภิกขุ
กาเรตัพโพ; อะยัง ธัมโม อะนิยะโต.

2. นะ เหวะ โข ปะนะ ปะฏิจฉันนัง อาสะนัง โหติ
นาลังกัมมะนิยัง, อะลัญจะ โข โหติ มาตุคามัง ทุฏฐุลลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุง;
โย ปะนะ ภิกขุ ตะถารูเป อาสะเน มาตุคาเมนะ สัทธิง เอโก เอกายะ
ระโห นิสัชชัง กัปเปยยะ; ตะเมนัง สัทเธยยะวะจะสา อุปาสิกา ทิส๎วา
ท๎วินนัง ธัมมานัง อัญญะตะเรนะ วะเทยยะ สังฆาทิเสเสนะ วา
ปาจิตติเยนะ วา, นิสัชชัง ภิกขุ ปะฏิชานะมาโน ท๎วินนัง ธัมมานัง
อัญญะตะเรนะ กาเรตัพโพ สังฆาทิเสเสนะ วา ปาจิตติเยนะ วา, เยนะ
วา สา สัทเธยยะวะจะสา อุปาสิกา วะเทยยะ, เตนะ โส ภิกขุ กาเรตัพโพ;
อะยัมปิ ธัมโม อะนิยะโต.
อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต เท๎ว อะนิยะตา ธัมมา.
ตัตถายัส๎มันเต ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา
ทุติยัมปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา
ตะติยัมปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา
ปะริสุทเธตถายัส๎มันโต, ตัส๎มา ตุณ๎หี, เอวะเมตัง ธาระยามิ.
อะนิยะตุทเทโส นิฏฐิโต.
อิเม โข ปะนายัส๎มันโต ติงสะ นิสสัคคิยา ปาจิตติยา ธัมมา อุทเทสัง
อาคัจฉันติ.
          1. นิฏฐิตะจีวะรัส๎มิง ภิกขุนา อุพภะตัส๎มิง กะฐิเน, ทะสาหะปะระมัง
อะติเรกะจีวะรัง ธาเรตัพพัง, ตัง อะติกกามะยะโต, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           2. นิฏฐิตะจีวะรัส๎มิง ภิกขุนา อุพภะตัส๎มิง กะฐิเน, เอกะรัตตัมปิ เจ
ภิกขุ ติจีวะเรนะ วิปปะวะเสยยะ, อัญญัต๎ระ ภิกขุสัมมะติยา, นิสสัคคิยัง
ปาจิตติยัง.
           3. นิฏฐิตะจีวะรัส๎มิง ภิกขุนา อุพภะตัส๎มิง กะฐิเน, ภิกขุโน ปะเนวะ
อะกาละจีวะรัง อุปปัชเชยยะ, อากังขะมาเนนะ ภิกขุนา ปะฏิคคะเหตัพพัง,
ปะฏิคคะเหต๎วา ขิปปะเมวะ กาเรตัพพัง; โน จัสสะ ปาริปูริ,
มาสะปะระมันเตนะ ภิกขุนา ตัง จีวะรัง นิกขิปิตัพพัง อูนัสสะ ปาริปูริยา 
สะติยา ปัจจาสายะ, ตะโต เจ อุตตะริง นิกขิเปยยะ สะติยาปิ ปัจจาสายะ,
นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           4. โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาติกายะ ภิกขุนิยา ปุราณะจีวะรัง
โธวาเปยยะ วา ระชาเปยยะ วา อาโกฏาเปยยะ วา, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           5. โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาติกายะ ภิกขุนิยา หัตถะโต จีวะรัง
ปะฏิคคัณเหยยะ อัญญัต๎ระ ปาริวัฏฏะกา, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           6. โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาตะกัง คะหะปะติง วา คะหะปะตานิง วา
จีวะรัง วิญญาเปยยะ อัญญัต๎ระ สะมะยา, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง. ตัตถายัง
สะมะโย: อัจฉินนะจีวะโร วา โหติ ภิกขุ นัฏฐะจีวะโร วา, อะยัง ตัตถะ
สะมะโย.
           7. ตัญเจ อัญญาตะโก คะหะปะติ วา คะหะปะตานี วา พะหูหิ จีวะเรหิ
อะภิหัฏฐุมปะวาเรยยะ, สันตะรุตตะระปะระมันเตนะ ภิกขุนา ตะโต
จีวะรัง สาทิตัพพัง, ตะโต เจ อุตตะริง สาทิเยยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           8. ภิกขุง ปะเนวะ อุททิสสะ อัญญาตะกัสสะ คะหะปะติสสะ วา
คะหะปะตานิยา วา จีวะระเจตาปะนัง อุปักขะฏัง โหติ. “อิมินา
จีวะระเจตาปะเนนะ จีวะรัง เจตาเปต๎วา อิตถันนามัง ภิกขุง จีวะเรนะ
อัจฉาเทสสามีติ, ตัต๎ระ เจโส ภิกขุ ปุพเพ อัปปะวาริโต อุปะสังกะมิต๎วา
จีวะเร วิกัปปัง อาปัชเชยยะ “สาธุ วะตะ มัง อายัส๎มา อิมินา
จีวะระเจตาปะเนนะ เอวะรูปัง วา เอวะรูปัง วา จีวะรัง เจตาเปต๎วา
อัจฉาเทหีติ กัล๎ยาณะกัม๎ยะตัง อุปาทายะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           9. ภิกขุง ปะเนวะ อุทิสสะ อุภินนัง อัญญาตะกานัง คะหะปะตีนัง วา
คะหะปะตานีนัง วา ปัจเจกะจีวะระเจตาปะนา อุปักขะฏา โหนติ “อิเมหิ
มะยัง ปัจเจกะจีวะระเจตาปะเนหิ ปัจเจกะจีวะรานิ เจตาเปต๎วา
อิตถันนามัง ภิกขุง จีวะเรหิ อัจฉาเทสสามาติ, ตัต๎ระ เจ โส ภิกขุ ปุพเพ
อัปปะวาริโต อุปะสังกะมิต๎วา จีวะเร วิกัปปัง อาปัชเชยยะ “สาธุ วะตะ มัง
อายัส๎มันโต อิเมหิ ปัจเจกะจีวะระเจตาปะเนหิ เอวะรูปัง วา เอวะรูปัง วา
จีวะรัง เจตาเปต๎วา อัจฉาเทถะ อุโภวะ สันตา เอเกนาติ กัล๎ยาณะกัม๎ยะตัง
อุปาทายะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           10 . ภิกขุง ปะเนวะ อุททิสสะ ราชา วา ราชะโภคโค วา พราหมะโณ
วา คะหะปะติโก วา ทูเตนะ จีวะระเจตาปะนัง ปะหิเณยยะ “อิมินา
จีวะระเจตาปะเนนะ จีวะรัง เจตาเปต๎วา อิตถันนามัง ภิกขุง จีวะเรนะ
อัจฉาเทหีติ; โส เจ ทูโต ตัง ภิกขุง อุปะสังกะมิต๎วา เอวัง วะเทยยะ “อิทัง
โข ภันเต อายัส๎มันตัง อุททิสสะ จีวะระเจตาปะนัง อาภะตัง, ปะฏิคคัณหาตุ
อายัส๎มา จีวะระเจตาปะนันติ, เตนะ ภิกขุนา โส ทูโต เอวะมัสสะ วะจะนีโย
“นะ โข มะยัง อาวุโส จีวะระเจตาปะนัง ปะฏิคคัณหามะ, จีวะรัญจะ โข
มะยัง ปะฏิคคัณหามะ กาเลนะ กัปปิยันติ; โส เจ ทูโต ตัง ภิกขุง เอวัง
วะเทยยะ “อัตถิ ปะนายัส๎มะโต โกจิ เวยยาวัจจะกะโรติ, จีวะรัตถิเกนะ
ภิกขะเว ภิกขุนา เวยยาวัจจะกะโร นิททิสิตัพโพ อารามิโก วา อุปาสะโก
วา “เอโส โข อาวุโส ภิกขูนัง เวยยาวัจจะกะโรติ; โส เจ ทูโต ตัง
เวยยาวัจจะกะรัง สัญญาเปต๎วา ตัง ภิกขุง อุปะสังกะมิต๎วา เอวัง วะเทยยะ

“ยัง โข ภันเต อายัส๎มา เวยยาวัจจะกะรัง นิททิสิ, สัญญัตโต โส มะยา;
อุปะสังกะมะตุ อายัส๎มา กาเลนะ จีวะเรนะ ตัง อัจฉาเทสสะตีติ,
จีวะรัตถิเกนะ ภิกขะเว ภิกขุนา เวยยาวัจจะกะโร อุปะสังกะมิต๎วา
ท๎วิตติกขัตตุง โจเทตัพโพ สาเรตัพโพ “อัตโถ เม อาวุโส
จีวะเรนาติ; ท๎วิตติกขัตตุง โจทะยะมาโน สาระยะมาโน ตัง จีวะรัง
อะภินิปผาเทยยะ, อิจเจตัง กุสะลัง; โน เจ อะภินิปผาเทยยะ, จะตุกขัตตุง
ปัญจักขัตตุง ฉักขัตตุปะระมัง ตุณ๎หีภูเตนะ อุททิสสะ ฐาตัพพัง;
จะตุกขัตตุง ปัญจักขัตตุง ฉักขัตตุปะระมัง ตุณ๎หีภูโต อุททิสสะ
ติฏฐะมาโน ตัง จีวะรัง อะภินิปผาเทยยะ, อิจเจตัง กุสะลัง; โน เจ
อะภินิปผาเทยยะ, ตะโต เจ อุตตะริง วายะมะมาโน ตัง จีวะรัง
อะภินิปผาเทยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง; โน เจ อะภินิปผาเทยยะ,
ยะตัสสะ จีวะระเจตาปะนัง อาภะตัง, ตัตถะ สามัง วา คันตัพพัง, ทูโต วา
ปาเหตัพโพ “ยัง โข ตุมเห อายัส๎มันโต ภิกขุง อุททิสสะ จีวะระเจตาปะนัง
ปะหิณิตถะ, นะ ตันตัสสะ ภิกขุโน กิญจิ อัตถัง อะนุโภติ, ยุญชันตายัส๎มันโต
สะกัง, มาโว สะกัง วินัสสีติ: อะยัง ตัตถะ สามีจิ.
จีวะระวัคโค ปะฐะโม.
           11 . โย ปะนะ ภิกขุ โกสิยะมิสสะกัง สันถะตัง การาเปยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           12. โย ปะนะ ภิกขุ สุทธะกาฬะกานัง เอฬะกะโลมานัง สันถะตัง การาเปยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           13. นะวัมปะนะ ภิกขุนา สันถะตัง การะยะมาเนนะ เท๎ว ภาคา
สุทธะกาฬะกานัง เอฬะกะโลมานัง อาทาตัพพา, ตะติยัง โอทาตานัง,
จะตุตถัง โคจะริยานัง; อะนาทา เจ ภิกขุ เท๎ว ภาเค สุทธะกาฬะกานัง
เอฬะกะโลมานงั ตะตยิ งั โอทาตานัง จะตุตถัง โคจะริยานัง นะวัง สันถะตัง
การาเปยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           14. นะวัมปะนะ ภิกขุนา สันถะตัง การาเปต๎วา ฉัพพัสสานิ ธาเรตัพพัง.
โอเรนะ เจ ฉันนัง วัสสานัง ตัง สันถะตัง วิสสัชเชต๎วา วา อะวิสสัชเชต๎วา
วา อัญญัง นะวัง สันถะตัง การาเปยยะ อัญญต๎ระ ภิกขุสัมมะติยา,
นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           15 . นิสีทะนะสันถะตัมปะนะ ภิกขุนา การะยะมาเนนะ
ปุราณะสันถะตัสสะ สามันตา สุคะตะวิทัตถิ อาทาตัพพา
ทุพพัณณะกะระณายะ, อะนาทา เจ ภิกขุ ปุราณะสันถะตัสสะ
สามันตา สุคะตะวิทัตถิง นะวัง นิสีทะนะสันถะตัง การาเปยยะ,
นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           16 . ภิกขุโน ปะเนวะ อัทธานะมัคคะปะฏิปันนัสสะ เอฬะกะโลมานิ
อปุ ปชั เชยยงุ , อากงั ขะมาเนนะ ภกิ ขนุ า ปะฏคิ คะเหตพั พานิ,ปะฏิค คะเหตว๎ า
ติโยชะนะปะระมัง สะหัตถา หาเรตัพพานิ, อะสันเต หาระเก, ตะโต เจ
อุตตะริง หะเรยยะ อะสันเตปิ หาระเก, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           17 . โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาติกายะ ภิกขุนิยา เอฬะกะโลมานิ
โธวาเปยยะ วา ระชาเปยยะ วา วิชะฏาเปยยะ วา, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           18 . โย ปะนะ ภิกขุ ชาตะรูปะระชะตัง อุคคัณเหยยะ วา
อุคคัณหาเปยยะ วา อุปะนิกขิตตัง วา สาทิเยยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           19 . โย ปะนะ ภิกขุ นานัปปะการะกัง รูปิยะสังโวหารัง สะมาปัชเชยยะ,
นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           20. โย ปะนะ ภิกขุ นานัปปะการะกัง กะยะวิกกะยัง สะมาปัชเชยยะ,
นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.

                              โกสิยะวัคโค ทุติโย.

           21. ทะสาหะปะระมัง อะติเรกะปัตโต ธาเรตัพโพ, ตัง อะติกกามะยะโต,
นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           22. โย ปะนะ ภิกขุ อูนะปัญจะพันธะเนนะ ปัตเตนะ อัญญัง นะวัง
ปัตตัง เจตาเปยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง. เตนะ ภิกขุนา โส ปัตโต
ภิกขุปะริสายะ นิสสัชชิตัพโพ; โย จะ ตัสสา ภิกขุปะริสายะ ปัตตะปะริยันโต,
โส จะ ตัสสะ ภิกขุโน ปะทาตัพโพ “อะยันเต ภิกขุ ปัตโต, ยาวะ เภทะนายะ
ธาเรตัพโพติ: อะยัง ตัตถะ สามีจิ.
           23. ยานิ โข ปะนะ ตานิ คิลานานัง ภิกขูนัง ปะฏิสายะนียานิ เภสัชชานิ,
เสยยะถีทัง; สัปปิ นะวะนีตัง เตลัง มะธุ ผาณิตัง, ตานิ ปะฏิคคะเหต๎วา
สัตตาหะปะระมัง สันนิธิการะกัง ปะริภุญชิตัพพานิ, ตัง อะติกกามะยะโต
นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           24. “มาโส เสโส คิมหานันติ ภิกขุนา วัสสิกะสาฏิกะจีวะรัง
ปะริเยสิตัพพัง, “อัฑฒะมาโส เสโส คิมหานันติ กัต๎วา นิวาเสตัพพัง;
“โอเรนะ เจ มาโส เสโส คิมหานันติ วัสสิกะสาฏิกะจีวะรัง ปะริเยเสยยะ.
“โอเรนัฑฒะมาโส เสโส คิมหานันติ กัต๎วา นิวาเสยยะ; นิสสัคคิยัง
ปาจิตติยัง.
           25. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุสสะ สามัง จีวะรัง ทัต๎วา กุปิโต อะนัตตะมะโน
อัจฉินเทยยะ วา อัจฉินทาเปยยะ วา, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           26. โย ปะนะ ภิกขุ สามัง สุตตัง วิญญาเปต๎วา ตันตะวาเยหิ จีวะรัง
วายาเปยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           27. ภิกขุง ปะเนวะ อุททิสสะ อัญญาตะโก คะหะปะติ วา คะหะปะตานี
วา ตันตะวาเยหิ จีวะรัง วายาเปยยะ, ตัต๎ระ เจ โส ภิกขุ ปุพเพ อัปปะวาริโต
ตันตะวาเย อุปะสังกะมิต๎วา จีวะเร วิกัปปัง อาปัชเชยยะ “อิทัง โข อาวุโส
จีวะรัง มัง อทุ ทิสสะ วียะต,ิ อายะตัญจะ กะโรถะ, วิตถะตญั จะ อัปปติ ญั จะ
สุวิตัญจะ สุปะวายิตัญจะ สุวิเลกขิตัญจะ สุวิตัจฉิตัญจะ กะโรถะ;
อัปเปวะนามะ มะยัมปิ อายัส๎มันตานัง กิญจิมัตตัง อะนุปะทัชเชยยามาติ,
เอวัญจะ โส ภิกขุ วัต๎วา กิญจิมัตตัง อะนุปะทัชเชยยะ อันตะมะโส
ปิณฑะปาตะมัตตัมปิ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           28. ทะสาหานาคะตัง กัตติกะเตมาสิปุณณะมัง, ภิกขุโน ปะเนวะ
อัจเจกะจีวะรัง อุปปัชเชยยะ, อัจเจกัง มัญญะมาเนนะ ภิกขุนา
ปะฏิคคะเหตัพพัง ปะฏิคคะเหต๎วา ยาวะจีวะระกาละสะมะยัง
นิกขิปิตัพพัง, ตะโต เจ อุตตะริง นิขิเปยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           29. อุปะวัสสัง โข ปะนะ กัตติกะปุณณะมัง, ยานิ โข ปะนะ ตานิ
อารัญญะกานิ เสนาสะนานิ สาสังกะสัมมะตานิ สัปปะฏิภะยานิ,
ตะถารูเปสุ ภิกขุ เสนาสะเนสุ วิหะรันโต อากังขะมาโน ติณณัง จีวะรานัง
อัญญะตะรัง จีวะรัง อันตะระฆะเร นิกขิเปยยะ, สิยา จะ ตัสสะ ภิกขุโน
โกจิเทวะ ปัจจะโย เตนะ จีวะเรนะ วิปปะวาสายะ, ฉารัตตะปะระมันเตนะ
ภิกขุนา เตนะ จีวะเรนะ วิปปะวะสิตัพพัง, ตะโต เจ อุตตะริง
วิปปะวะเสยยะ อัญญัต๎ระ ภิกขุสัมมะติยา, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.
           30. โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง สังฆิกัง ลาภัง ปะริณะตัง อัตตะโน
ปะริณาเมยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง.

                    ปัตตะวัคโค ตะติโย.

          อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต ติงสะ นิสสัคคิยา ปาจิตติยา ธัมมา.
          ตัตถายัส๎มันเต  ปุจฉามิ:      กัจจิตถะ      ปะริสุทธา
          ทุติยัมปิ          ปุจฉามิ:      กัจจิตถะ      ปะริสุทธา
          ตะติยัมปิ         ปุจฉามิ:      กัจจิตถะ      ปะริสุทธา
          ปะริสุทเธตถายัส๎มันโต, ตัส๎มา ตุณ๎หี, เอวะเมตัง ธาระยามิ.
          นิสสัคคิยา ปาจิตติยา ธัมมา นิฏฐิตา.

อิเม โข ปะนายัส๎มันโต เท๎วนะวุติ ปาจิตติยา ธัมมา อุทเทสัง อาคัจฉันติ.

          1. สัมปะชานะมุสาวาเท ปาจิตติยัง.
          2. โอมะสะวาเท ปาจิตติยัง.
          3. ภิกขุเปสุญเญ ปาจิตติยัง.
          4. โย ปะนะ ภิกขุ อะนุปะสัมปันนัง ปะทะโส ธัมมัง วาเจยยะ, ปาจิตติยัง.
          5. โย ปะนะ ภิกขุ อะนุปะสัมปันเนนะ อุตตะริท๎วิรัตตะติรัตตัง สะหะเสยยัง กัปเปยยะ, ปาจิตติยัง.
          6. โย ปะนะ ภิกขุ มาตุคาเมนะ สะหะเสยยัง กัปเปยยะ, ปาจิตติยัง.
          7. โย ปะนะ ภิกขุ มาตุคามัสสะ อุตตะริฉัปปัญจะวาจาหิ ธัมมัง เทเสยยะ อัญญัต๎ระ วิญญุนา ปุริสะวิคคะเหนะ, ปาจิตติยัง.
          8. โย ปะนะ ภิกขุ อะนุปะสัมปันนัสสะ อุตตะริมะนุสสะธัมมัง อาโรเจยยะ, ภูตัส๎มิง ปาจิตติยัง.
          9. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุสสะ ทุฏฐุลลัง อาปัตติง อะนุปะสัมปันนัสสะ อาโรเจยยะ, อัญญัต๎ระ ภิกขุสัมมะติยา, ปาจิตติยัง.
          10 . โย ปะนะ ภิกขุ ปะฐะวิง ขะเณยยะ วา ขะณาเปยยะ วา, ปาจิตติยัง.

                    มุสาวาทะวัคโค ปะฐะโม.

          11 . ภูตะคามะปาตัพ๎ยะตายะ ปาจิตติยัง.
          12. อัญญะวาทะเก วิเหสะเก ปาจิตติยัง.
          13. อุชฌาปะนะเก ขิยยะนะเก ปาจิตติยัง.
          14. โย ปะนะ ภิกขุ สังฆิกัง มัญจัง วา ปีฐัง วา ภิสิง วา โกจฉัง วา อัชโฌกาเส สันถะริต๎วา วา สันถะราเปต๎วา วา, ตัง ปักกะมันโต เนวะ อุทธะเรยยะ นะ อุทธะราเปยยะ อะนาปุจฉัง วา คัจเฉยยะ, ปาจิตติยัง.
          15 . โย ปะนะ ภิกขุ สังฆิเก วิหาเร เสยยัง สันถะริต๎วา วา สันถะราเปต๎วา วา, ตัง ปักกะมันโต เนวะ อุทธะเรยยะ นะ อุทธะราเปยยะ อะนาปุจฉัง วา คัจเฉยยะ, ปาจิตติยัง.
          16 . โย ปะนะ ภิกขุ สังฆิเก วิหาเร ชานัง ปุพพูปะคะตัง ภิกขุง อะนูปะขัชชะ เสยยัง กัปเปยยะ “ยัสสะ สัมพาโธ ภะวิสสะติ, โส ปักกะมิสสะตีติ; เอตะเทวะ ปัจจะยัง กะริต๎วา อะนัญญัง, ปาจิตติยัง.
          17 . โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง กุปิโต อะนัตตะมะโน สังฆิกา วิหารา นิกกัฑเฒยยะ วา นิกกัฑฒาเปยยะ วา, ปาจิตติยัง.
          18 . โย ปะนะ ภิกขุ สังฆิเก วิหาเร อุปะริเวหาสะกุฏิยา อาหัจจะปาทะกัง มัญจัง วา ปีฐัง วา อะภินิสีเทยยะ วา อะภินิปัชเชยยะ วา, ปาจิตติยัง.
          19 . มะหัลละกัมปะนะ ภิกขุนา วิหารัง การะยะมาเนนะ ยาวะ ท๎วาระโกสา อัคคะลัฏฐะปะนายะ อาโลกะสันธิปะริกัมมายะ ท๎วิตติจฉะทะนัสสะ ปะริยายัง อัปปะหะริเต ฐิเตนะ อะธิฏฐาตัพพัง, ตะโต เจ อุตตะริง อัปปะหะริเตปิ ฐิโต อะธิฏฐะเหยยะ, ปาจิตติยัง.
          20. โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง สัปปาณะกัง อุทะกัง ติณัง วา มัตติกัง วา สิญเจยยะ วา สิญจาเปยยะ วา, ปาจิตติยัง.

                    ภูตะคามะวัคโค ทุติโย.

          21. โย ปะนะ ภิกขุ อะสัมมะโต ภิกขุนิโย โอวะเทยยะ, ปาจิตติยัง.
          22. สัมมะโตปิ เจ ภิกขุ อัตถังคะเต สุริเย ภิกขุนิโย โอวะเทยยะ, ปาจิตติยัง.
          23. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุนูปัสสะยัง อุปะสังกะมิต๎วา ภิกขุนิโย โอวะเทยยะ, อัญญัต๎ระ สะมะยา, ปาจิตติยัง. ตัตถายัง สะมะโย; คิลานา  โหติ ภิกขุนี, อะยัง ตัตถะ สะมะโย.
          24. โย ปะนะ ภิกขุ เอวัง วะเทยยะ “อามิสะเหตุ ภิกขู ภิกขุนิโย โอวะทันตีติ, ปาจิตติยัง.
          25. โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาติกายะ ภิกขุนิยา จีวะรัง ทะเทยยะ อัญญัต๎ระ ปาริวัฏฏะกา, ปาจิตติยัง.
          26. โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาติกายะ ภิกขุนิยา จีวะรัง สิพเพยยะ วา สิพพาเปยยะ วา, ปาจิตติยัง.
          27. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุนิยา สัทธิง สังวิธายะ เอกัทธานะมัคคัง ปะฏิปัชเชยยะ อันตะมะโส คามันตะรัมปิ อัญญัต๎ระ สะมะยา, ปาจิตติยัง. ตัตถายัง สะมะโย: สัตถะคะมะนีโย โหติ มัคโค สาสังกะสัมมะโต สัปปะฏิภะโย, อะยัง ตัตถะ สะมะโย.
          28. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุนิยา สัทธิง สังวิธายะ เอกัง นาวัง อะภิรูเหยยะ อุทธะคามินิง วา อะโธคามินิง วา อัญญัต๎ระ ติริยันตะระณายะ, ปาจิตติยัง.
          29. โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง ภิกขุนีปะริปาจิตัง ปิณฑะปาตัง ภุญเชย ยะอัญญัต๎ระ ปุพเพ คิหิสะมารัมภา, ปาจิตติยัง.
          30. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุนิยา สัทธิง เอโก เอกายะ ระโห นิสัชชัง กัปเปยยะ, ปาจิตติยัง.

                    โอวาทะวัคโค ตะติโย.

          31. อะคิลาเนนะ ภิกขุนา เอโก อาวะสะถะปิณโฑ ภุญชิตัพโพ; ตะโต เจ อุตตะริง ภุญเชยยะ, ปาจิตติยัง.
          32. คะณะโภชะเน อัญญัต๎ระ สะมะยา ปาจิตติยัง. ตัตถายัง สะมะโย: คิลานะสะมะโย จีวะระทานะสะมะโย จีวะระการะสะมะโย อัทธานะคะมะนะสะมะโย นาวาภิรูหะนะสะมะโย มะหาสะมะโย สะมะณะภัตตะสะมะโย, อะยัง ตัตถะ สะมะโย.
          33. ปะรัมปะระโภชะเน อัญญัต๎ระ สะมะยา ปาจิตติยัง. ตัตถายัง สะมะโย คิลานะสะมะโย จีวะระทานะสะมะโย จีวะระการะสะมะโย; อะยัง ตัตถะ สะมะโย.
          34. ภิกขุง ปะเนวะ กุลัง อุปะคะตัง ปูเวหิ วา มันเถหิ วา อะภิหัฏฐุมปะวาเรยยะ, อากังขะมาเนนะ ภิกขุนา ท๎วิตติปัตตะปูรา ปะฏิคคะเหตัพพา; ตะโต เจ อุตตะริง ปะฏิคคัณเหยยะ, ปาจิตติยัง.ท๎วิตติปัตตะปูเร ปะฏิคคะเหต๎วา ตะโต นีหะริต๎วา ภิกขูหิ สัทธิง สังวิภะชิตัพพัง, อะยัง ตัตถะ สามีจิ.
          35. โย ปะนะ ภิกขุ ภุตตาวี ปะวาริโต อะนะติริตตัง ขาทะนียัง วาโภชะนียัง วา ขาเทยยะ วา ภุญเชยยะ วา, ปาจิตติยัง.
          36. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง ภุตตาวิง ปะวาริตัง อะนะติริตเตนะ ขาทะนีเยนะ วา โภชะนีเยนะ วา อะภิหัฏฐุมปะวาเรยยะ “หันทะ ภิกขุ ขาทะ วา ภุญชะ วาติ ชานัง อาสาทะนาเปกโข, ภุตตัส๎มิง ปาจิตติยัง.
          37. โย ปะนะ ภิกขุ วิกาเล ขาทะนียัง วา โภชะนียัง วา ขาเทยยะ วา ภุญเชยยะ วา, ปาจิตติยัง.
          38. โย ปะนะ ภิกขุ สันนิธิการะกัง ขาทะนียัง วา โภชะนียัง วา ขาเทยยะ วา ภุญเชยยะ วา, ปาจิตติยัง.
          39. ยานิ โข ปะนะ ตานิ ปะณีตะโภชะนานิ, เสยยะถีทัง; สัปปิ นะวะนีตัง เตลัง มะธุ ผาณิตัง มัจโฉ มังสัง ขีรัง ทะธิ, โย ปะนะ ภิกขุ เอวะรูปานิ ปะณีตะโภชะนานิ อะคิลาโน อัตตะโน อัตถายะ วิญญาเปต๎วา ภุญเชยยะ, ปาจิตติยัง.
          40. โย ปะนะ ภิกขุ อะทินนัง มุขะท๎วารัง อาหารัง อาหะเรยยะ อัญญัต๎ระ อุทะกะทันตะโปณา, ปาจิตติยัง.

                    โภชะนะวัคโค จะตุตโถ.

          41. โย ปะนะ ภิกขุ อะเจละกัสสะ วา ปะริพพาชะกัสสะ วา ปะริพาชิกายะ วา สะหัตถา ขาทะนียัง วา โภชะนียัง วา ทะเทยยะ, ปาจิตติยัง.
          42. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง เอวัง วะเทยยะ “เอหาวุโส คามัง วา นิคะมัง วา ปิณฑายะ ปะวิสิสสามาติ. ตัสสะ ทาเปต๎วา วา อะทาเปต๎วา วา อุยโยเชยยะ “คัจฉาวุโส, นะ เม ตะยา สัทธิง กะถา วา นิสัชชา วา ผาสุ โหติ, เอกะกัสสะ เม กะถา วา นิสัชชา วา ผาสุ โหตีติ, เอตะเทวะ ปัจจะยัง กะริต๎วา อะนัญญัง, ปาจิตติยัง.
          43. โย ปะนะ ภิกขุ สะโภชะเน กุเล อะนูปะขัชชะ นิสัชชัง กัปเปยยะ, ปาจิตติยัง.
          44. โย ปะนะ ภิกขุ มาตุคาเมนะ สัทธิง ระโห ปะฏิจฉันเน อาสะเน นิสัชชัง กัปเปยยะ, ปาจิตติยัง.
          45. โย ปะนะ ภิกขุ มาตุคาเมนะ สัทธิง เอโก เอกายะ ระโห นิสัชชัง กัปเปยยะ, ปาจิตติยัง.
          46. โย ปะนะ ภิกขุ นิมันติโต สะภัตโต สะมาโน, สันตัง ภิกขุง อะนาปุจฉา ปุเรภัตตัง วา ปัจฉาภัตตัง วา กุเลสุ จาริตตัง อาปัชเชยยะ อัญญัต๎ระ สะมะยา, ปาจิตติยัง. ตัตถายัง สะมะโย: จีวะระทานะสะมะโย จีวะระการะสะมะโย, อะยัง ตัตถะ สะมะโย.
          47. อะคิลาเนนะ ภิกขุนา จาตุมาสะปัจจะยะปะวะระณา สาทิตัพพา อัญญัต๎ระ ปุนะปะวาระณายะ, อัญญัต๎ระ นิจจะปะวาระณายะ, ตะโต เจ อุตตะริง สาทิเยยยะ, ปาจิตติยัง.
          48. โย ปะนะ ภิกขุ อุยยุตตัง เสนัง ทัสสะนายะ คัจเฉยยะ อัญญัต๎ระ ตะถารูปะปัจจะยา, ปาจิตติยัง.
          49. สิยา จะ ตัสสะ ภิกขุโน โกจิเทวะ ปัจจะโย เสนัง คะมะนายะ, ท๎วิรัตตะติรัตตัง เตนะ ภิกขุนา เสนายะ วะสิตัพพัง. ตะโต เจ อุตตะริง วะเสยยะ, ปาจิตติยัง.
          50 . ท๎วิรัตตะติรัตตัญเจ ภิกขุ เสนายะ วะสะมาโน อุยโยธิกัง วา พะลัคคัง วา เสนาพ๎ยูหัง วา อะนีกะทัสสะนัง วา คัจเฉยยะ, ปาจิตติยัง.

                    อะเจละกะวัคโค ปัญจะโม.

          51 . สุราเมระยะปาเน ปาจิตติยัง.
          52. อังคุลิปะโตทะเก ปาจิตติยัง.
          53. อุทะเก หัสสะธัมเม ปาจิตติยัง.
          54. อะนาทะริเย ปาจิตติยัง.
          55 . โย ปะเน ภิกขุ ภิกขุง ภิงสาเปยยะ, ปาจิตติยัง.
          56 . โย ปะนะ ภิกขุ อะคิลาโน วิสีวะนาเปกโข โชติง สะมาทะเหย ยะ วา สะมาทะหาเปยยะ วา อัญญัต๎ระ ตะถารูปะปัจจะยา, ปาจิตติยัง.
          57 . โย ปะนะ ภิกขุ โอเรนัฑฒะมาสัง นะหาเยยยะ อัญญัต๎ระ สะมะยา,
ปาจิตติยัง. ตัตถายัง สะมะโย: ทิยัฑโฒ มาโส เสโส คิมหานันติ วัสสานัสสะ
ปะฐะโม มาโส อิจเจเต อัฑฒะเตยยะมาสา อุณหะสะมะโย
ปะริฬาหะสะมะโย คิลานะสะมะโย กัมมะสะมะโย อัทธานะคะมะนะสะมะโย
วาตะวุฏฐิสะมะโย. อะยัง ตัตถะ สะมะโย.
           58 . นะวัมปะนะ ภิกขุนา จีวะระลาเภนะ ติณณัง ทุพพัณณะกะระณานัง อัญญะตะรัง ทุพพัณณะกะระณัง อาทาตัพพัง นีลัง วา กัททะมัง วา กาฬะสามัง วา, อะนาทา เจ ภิกขุ ติณณัง ทุพพัณณะกะระณานังอัญญะตะรัง ทุพพัณณะกะระณัง นะวัง จีวะรัง ปริภุญเชยยะ, ปาจิตติยัง.
           59 . โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุสสะ วา ภิกขุนิยา วา สิกขะมานายะ วา สามะเณรัสสะ วา สามะเณริยา วา สามัง จีวะรัง วิกัปเปต๎วา อะปัจจุทธาระกัง ปะริภุญเชยยะ, ปาจิตติยัง.
           60 . โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุสสะ ปัตตัง วา จีวะรัง วา นิสีทะนัง วา สูจิฆะรัง วา กายะพันธะนัง วา อะปะนิเธยยะ วา อะปะนิธาเปยยะ วา อันตะมะโส หัสสาเปกโขปิ, ปาจิตติยัง.

                    สุราปานะวัคโค ฉัฏโฐ.

          61 . โย ปะนะ ภิกขุ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปยยะ, ปาจิตติยัง.
          62. โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง สัปปาณะกัง อุทะกัง ปะริภุญเชยยะ,ปาจิตติยัง.
          63. โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง ยะถาธัมมัง นีหะตาธิกะระณัง ปุนะกัมมายะ อุกโกเฏยยะ, ปาจิตติยัง.
          64. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุสสะ ชานัง ทุฏฐุลลัง อาปัตติง ปะฏิจฉาเทยยะ, ปาจิตติยัง.
          65 . โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง อูนะวีสะติวัสสัง ปุคคะลัง อุปะสัมปาเทยยะ, โส จะ ปุคคะโล อะนุปะสัมปันโน, เต จะ ภิกขู คารัย๎หา, อิทัง ตัส๎มิง ปาจิตติยัง.
          66 . โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง เถยยะสัตเถนะ สัทธิง สังวิธายะ เอกัทธานะมัคคัง ปะฏิปัชเชยยะ อันตะมะโส คามันตะรัมปิ, ปาจิตติยัง.
          67 . โย ปะนะ ภิกขุ มาตุคาเมนะ สัทธิง สังวิธายะ เอกัทธานะมัคคัง ปะฏิปัชเชยยะ อันตะมะโส คามันตะรัมปิ, ปาจิตติยัง.
          68 . โย ปะนะ ภิกขุ เอวัง วะเทยยะ “ตะถาหัง ภะคะวะตา ธัมมัง เทสิตัง อาชานามิ; ยะถา เยเม อันตะรายิกา ธัมมา วุตตา ภะคะวะตา, เต
ปะฏิเสวะโต นาลัง อันตะรายายาติ, โส ภิกขุ ภิกขูหิ เอวะมัสสะ วะจะนีโย
“มา อายัส๎มา เอวัง อะวะจะ, มา ภะคะวันตัง อัพภาจิกขิ; นะ หิ สาธุ
ภะคะวะโต อัพภักขานัง, นะ หิ ภะคะวา เอวัง วะเทยยะ;
อะเนกะปะริยาเยนะ อาวุโส อันตะรายิกา ธัมมา วุตตา ภะคะวะตา
อะลัญจะ ปะนะ เต ปะฏิเสวะโต อันตะรายายาติ เอวัญจะ โส ภิกขุ
ภิกขูหิ วุจจะมาโน ตะเถวะ ปัคคัณเหยยะ, โส ภิกขุ ภิกขูหิ ยาวะตะติยัง
สะมะนุภาสิตัพโพ ตัสสะ ปะฏินิสสัคคายะ; ยาวะตะติยัญเจ
สะมะนุภาสิยะมาโน ตัง ปะฏินิสสัชเชยยะ, อิจเจตัง กุสะลัง, โน เจ
ปะฎินิสสัชเชยยะ, ปาจิตติยัง.
           69 . โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง ตะถาวาทินา ภิกขุนา อะกะฏานุธัมเมนะ ตัง
ทิฏฐิง อัปปะฏินิสสัฏเฐนะ สัทธิง สัมภุญเชยยะ วา สังวะเสยยะ วา
สะหะ วา เสยยัง กัปเปยยะ, ปาจิตติยัง.
           70 . สะมะณุทเทโสปิ เจ เอวัง วะเทยยะ “ตะถาหัง ภะคะวะตา ธัมมัง
เทสิตัง อาชานามิ; ยะถา เยเม อันตะรายิกา ธัมมา วุตตา ภะคะวะตา,
เต ปะฏิเสวะโต นาลัง อันตะรายายาติ, โส สะมะณุทเทโส ภิกขูหิ เอวะมัสสะ
วะจะนีโย “มา อาวุโส สะมะณุทเทสะ เอวัง อะวะจะ, มา ภะคะวันตัง
อัพภาจิกขิ, นะ หิ สาธุ ภะคะวะโต อัพภักขานัง, นะ หิ ภะคะวา เอวัง
วะเทยยะ. อะเนกะปะริยาเยนะ อาวุโส สะมะณุทเทสะ อันตะรายิกา
ธัมมา วุตตา ภะคะวะตา, อะลัญจะ ปะนะ เต ปะฏิเสวะโต อันตะรายายาติ;
เอวัญจะ โส สะมะณุทเทโส ภิกขูหิ วุจจะมาโน ตะเถวะ ปัคคัณเหยยะ, โส
สะมะณุทเทโส ภิกขูหิ เอวะมัสสะ วะจะนีโย “อัชชะตัคเค เต อาวุโส
สะมะณุทเทสะ นะ เจวะ โส ภะคะวา สัตถา อะปะทิสิตัพโพ; ยัมปิ จัญเญ
สะมะณุทเทสา ละภันติ ภิกขูหิ สัทธิง ท๎วิรัตตะติรัตตัง สะหะเสยยัง, สาปิ
เต นัตถิ; จะระ ปิเร วินัสสาติ. โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง ตะถานาสิตัง
สะมะณุทเทสัง อุปะลาเปยยะ วา อุปัฏฐาเปยยะ วา สัมภุญเชยยะ วา
สะหะ วา เสยยัง กัปเปยยะ, ปาจิตติยัง.

                    สัปปาณะวัคโค สัตตะโม.

           71 . โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขูหิ สะหะธัมมิกัง วุจจะมาโน เอวัง วะเทยยะ
‘นะ ตาวาหัง อาวุโส เอตัส๎มิง สิกขาปะเท สิกขิสสามิ, ยาวะ นัญญัง
ภิกขุง พ๎ยัตตัง วินะยะธะรัง ปะริปุจฉามีติ, ปาจิตติยัง. สิกขะมาเนนะ
ภิกขะเว ภิกขุนา อัญญาตัพพัง ปะริปุจฉิตัพพัง ปะริปัญหิตัพพัง, อะยัง
ตัตถะ สามีจิ.
           72. โย ปะนะ ภิกขุ ปาฏิโมกเข อุททิสสะมาเน เอวัง วะเทยยะ
“กิมปะนิเมหิ ขุททานุขุททะเกหิ สิกขาปะเทหิ อุททิฏเฐหิ, ยาวะเทวะ
กุกกุจจายะ วิเหสายะ วิเลขายะ สังวัตตันตีติ, สิกขาปะทะวิวัณณะนะเก
ปาจิตติยัง.
           73. โย ปะนะ ภิกขุ อัน๎วัฑฒะมาสัง ปาฏิโมกเข อุททิสสะมาเน เอวัง
วะเทยยะ “อิทาเนวะ โข อะหัง อาชานามิ ‘อะยัมปิ กิระ ธัมโม สุตตาคะโต
สุตตะปะริยาปันโน อัน๎วัฑฒะมาสัง อุทเทสัง อาคัจฉะตีติ; ตัญเจ ภิกขุง
อัญเญ ภิกขู ชาเนยยุง “นิสินนะปุพพัง อิมินา ภิกขุนา ท๎วิตติกขัตตุง
ปาฏิโมกเข อุททิสสะมาเน โก ปะนะ วาโท ภิยโยติ, นะ จะ ตัสสะ ภิกขุโน
อัญญาณะเกนะ มุตติ อัตถิ, ยัญจะ ตัตถะ อาปัตติง อาปันโน, ตัญจะ
ยะถาธัมโม กาเรตัพโพ; อุตตะริญจัสสะ โมโห อาโรเปตัพโพ “ตัสสะ เต
อาวุโส อะลาภา, ตัสสะ เต ทุลลัทธัง; ยัง ตะวัง ปาฏิโมกเข อุททิสสะมาเน
นะ สาธุกัง อัฏฐิกัต๎วา มะนะสิกะโรสีติ; อิทัง ตัส๎มิง โมหะนะเก ปาจิตติยัง.
           74. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุสสะ กุปิโต อะนัตตะมะโน ปะหารัง ทะเทยยะ,
ปาจิตติยัง.
           75 . โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุสสะ กุปิโต อะนัตตะมะโน ตะละสัตติกัง
อุคคิเรยยะ, ปาจิตติยัง.
           76 . โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง อะมูละเกนะ สังฆาทิเสเสนะ อะนุทธังเสยยะ,
ปาจิตติยัง.
           77 . โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุสสะ สัญจิจจะ กุกกุจจัง อุปะทะเหยยะ
“อิติสสะ มุหุตตัมปิ อะผาสุ ภะวิสสะตีติ เอตะเทวะ ปัจจะยัง กะริต๎วา
อะนัญญัง, ปาจิตติยัง.
           78 . โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขูนัง ภัณฑะนะชาตานัง กะละหะชาตานัง
วิวาทาปันนานัง อุปัสสุติง ติฏเฐยยะ “ยัง อิเม ภะณิสสันติ, ตัง โสสสามีติ
เอตะเทวะ ปัจจะยัง กะริต๎วา อะนัญญัง, ปาจิตติยัง.
           79 . โย ปะนะ ภิกขุ ธัมมิกานัง กัมมานัง ฉันทัง ทัต๎วา ปัจฉา
ขิยยะนะธัมมัง อาปัชเชยยะ, ปาจิตติยัง.
           80 . โย ปะนะ ภิกขุ สังเฆ วินิจฉะยะกาถายะ วัตตะมานายะ ฉันทัง
อะทัต๎วา อุฏฐายาสะนา ปักกะเมยยะ, ปาจิตติยัง.
           81 . โย ปะนะ ภิกขุ สะมัคเคนะ สังเฆนะ จีวะรัง ทัต๎วา ปัจฉา
ขิยยะนะธัมมัง อาปัชเชยยะ “ยะถาสันถุตัง ภิกขู สังฆิกัง ลาภัง
ปะริณาเมนตีติ, ปาจิตติยัง.
           82. โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง สังฆิกัง ลาภัง ปะริณะตัง ปุคคะลัสสะ
ปะริณาเมยยะ, ปาจิตติยัง.

                    สะหะธัมมิกะวัคโค อัฏฐะโม.

           83. โย ปะนะ ภิกขุ รัญโญ ขัตติยัสสะ มุทธาภิสิตตัสสะ
อะนิกขันตะราชะเก อะนิคคะตะระตะนะเก ปุพเพ อัปปะติสังวิทิโต
อินทะขีลัง อะติกกาเมยยะ, ปาจิตติยัง.
           84. โย ปะนะ ภิกขุ ระตะนัง วา ระตะนะสัมมะตัง วา อัญญัต๎ระ
อัชฌารามา วา อัชฌาวะสะถา วา อุคคัณเหยยะ วา อุคคัณหาเปยยะ วา,
ปาจิตติยัง. ระตะนัง วา ปะนะ ภิกขุนา ระตะนะสัมมะตัง วา อัชฌาราเม
วา อัชฌาวะสะเถ วา อุคคะเหต๎วา วา อุคคัณหาเปต๎วา วา นิกขิปิตัพพัง
“ยัสสะ ภะวิสสะติ โส หะริสสะตีติ: อะยัง ตัตถะ สามีจิ.
           85 . โย ปะนะ ภิกขุ สันตัง ภิกขุง อะนาปุจฉา วิกาเล คามัง ปะวิเสยยะ,
อัญญัต๎ระ ตะถารูปา อัจจายิกา กะระณียา, ปาจิตติยัง.
           86 . โย ปะนะ ภิกขุ อัฎฐิมะยัง วา ทันตะมะยัง วา วิสาณะมะยัง วา
สูจิฆะรัง การาเปยยะ, เภทะนะกัง ปาจิตติยัง.
           87 . นะวัมปะนะ ภิกขุนา มัญจัง วา ปีฐัง วา การะยะมาเนนะ
อัฎฐังคุละปาทะกัง กาเรตัพพัง สุคะตังคุเลนะ อัญญัต๎ระ เหฏฐิมายะ
อะฏะนิยา, ตัง อะติกกามะยะโต เฉทะนะกัง ปาจิตติยัง.
           88 . โย ปะนะ ภิกขุ มัญจัง วา ปีฐัง วา ตูโลนัทธัง การาเปยยะ,
อุททาละนะกัง ปาจิตติยัง.
           89 . นิสีทะนัมปะนะ ภิกขุนา การะยะมาเนนะ ปะมาณิกัง กาเรตัพพัง;
ตัต๎ริทัง ปะมาณัง: ทีฆะโส เท๎ว วิทัตถิโย สุคะตะวิทัตถิยา, ติริยัง ทิยัฑฒัง,
ทะสา วิทัตถิ, ตัง อะติกกามะยะโต เฉทะนะกัง ปาจิตติยัง.
           90 . กัณฑุปะฏิจฉาทิง ปะนะ ภิกขุนา การะยะมาเนนะ ปะมาณิกา
กาเรตัพพา; ตัต๎ริทัง ปะมาณัง: ทีฆะโส จะตัสโส วิทัตถิโย สุคะตะวิทัตถิยา
ติริยัง เท๎ว วิทัตถิโย, ตัง อะติกกามะยะโต เฉทะนะกัง ปาจิตติยัง.
           91 . วัสสิกะสาฏิกัง ปะนะ ภิกขุนา การะยะมาเนนะ ปะมาณิกา
กาเรตัพพา; ตัต๎ริทัง ปะมาณัง: ทีฆะโส ฉะ วิทัตถิโย สุคะตะวิทัตถิยา
ติริยัง อัฑฒะเตยยา, ตัง อะติกกามะยะโต เฉทะนะกัง ปาจิตติยัง.
           92. โย ปะนะ ภิกขุ สุคะตะจีวะรัปปะมาณัง จีวะรัง การาเปยยะ
อะติเรกัง วา, เฉทะนะกัง ปาจิตติยัง. ตัต๎ริทัง สุคะตัสสะ สุคะตะจีวะรัป-
ปะมาณัง: ทีฆะโส นะวะ วิทัตถิโย สุคะตะวิทัตถิยา ติริยัง ฉะ วิทัตถิโย, อิ
ทัง สุคะตัสสะ สุคะตะจีวะรัปปะมาณัง.

                              ระตะนะวัคโค นะวะโม.

          อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต เท๎วนะวุติ ปาจิตติยา ธัมมา.
          ตัตถายัส๎มันเต   ปุจฉามิ:     กัจจิตถะ           ปะริสุทธา
          ทุติยัมปิ           ปุจฉามิ:     กัจจิตถะ           ปะริสุทธา
          ตะติยัมปิ          ปุจฉามิ:     กัจจิตถะ           ปะริสุทธา
          ปะริสุทเธตถายัส๎มันโต, ตัส๎มา ตุณ๎หี, เอวะเมตัง ธาระยามิ.

                              ปาจิตติยา นิฏฐิตา.
          อิเม โข ปะนายัส๎มันโต จัตตาโร ปาฏิเทสะนียา ธัมมา อุทเทสัง อาคัจฉันติ.

          1. โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาติกายะ ภิกขุนิยา อันตะระฆะรัง ปะวิฏฐายะ
หัตถะโต ขาทะนียัง วา โภชะนียัง วา สะหัตถา ปะฏิคคะเหต๎วา ขาเทยยะ วา
ภุญเชยยะ วา, ปะฏิเทเสตัพพัง เตนะ ภิกขุนา “คารัย๎หัง อาวุโส ธัมมัง
อาปัชชิง อะสัปปายัง ปาฏิเทสะนียัง, ตัง ปะฏิเทเสมีติ.
           2. ภิกขู ปะเนวะ กุเลสุ นิมันติตา ภุญชันติ, ตัต๎ระ เจ ภิกขุนี
โวสาสะมานะรูปา ฐิตา โหติ “อิธะ สูปัง เทถะ, อิธะ โอทะนัง เทถาติ, เตหิ
ภิกขูหิ สา ภิกขุนี อะปะสาเทตัพพา “อะปะสักกะ ตาวะ ภะคินิ, ยาวะ
ภิกขู ภุญชันตีติ: เอกัสสะปิ เจ ภิกขุโน นัปปะฏิภาเสยยะ ตัง ภิกขุนิง
อะปะสาเทตุง “อะปะสักกะ ตาวะ ภะคินิ, ยาวะ ภิกขู ภุญชันตีติ,
ปะฏิเทเสตัพพัง เตหิ ภิกขูหิ “คารัย๎หัง อาวุโส ธัมมัง อาปัชชิมหา
อะสัปปายัง ปาฏิเทสะนียัง, ตัง ปะฏิเทเสมาติ.
           3. ยานิ โข ปะนะ ตานิ เสกขะสัมมะตานิ กุลานิ, โย ปะนะ ภิกขุ
ตะถารูเปสุ เสกขะสัมมะเตสุ กุเลสุ ปุพเพ อะนิมันติโต อะคิลาโน
ขาทะนียัง วา โภชะนียัง วา สะหัตถา ปะฏิคคะเหต๎วา ขาเทยยะ วา
ภุญเชยยะ วา, ปะฏิเทเสตัพพัง เตนะ ภิกขุนา “คารัย๎หัง อาวุโส ธัมมัง
อาปัชชิง อะสัปปายัง ปาฏิเทสะนียัง, ตัง ปะฏิเทเสมีติ.
           4. ยานิ โข ปะนะ ตานิ อารัญญะกานิ เสนาสะนานิ สาสังกะสัมมะตานิ
สัปปะฏิภะยานิ, โย ปะนะ ภิกขุ ตะถารูเปสุ เสนาสะเนสุ วิหะรันโต
ปุพเพ อัปปะฏิสังวิทิตัง ขาทะนียัง วา โภชะนียัง วา อัชฌาราเม สะหัตถา
ปะฏิคคะเหต๎วา อะคิลาโน ขาเทยยะ วา ภุญเชยยะ วา, ปะฏิเทเสตัพพัง
เตนะ ภิกขุนา “คารัย๎หัง อาวุโส ธัมมัง อาปัชชิง อะสัปปายัง ปาฏิเทสะนียัง,
ตัง ปะฏิเทเสมีติ.

          อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต จัตตาโร ปาฏิเทสะนียา ธัมมา.
          ตัตถายัส๎มันเต   ปุจฉามิ:           กัจจิตถะ ปะริสุทธา
          ทุติยัมปิ           ปุจฉามิ:           กัจจิตถะ ปะริสุทธา
          ตะติยัมปิ          ปุจฉามิ:           กัจจิตถะ ปะริสุทธา
          ปะริสุทเธตถายัส๎มันโต, ตัส๎มา ตุณ๎หี, เอวะเมตัง ธาระยามิ.

                              ปาฏิเทสะนียา นิฏฐิตา.
          อิเม โข ปะนายัส๎มันโต (ปัญจะสัตตะติ) เสขิยา ธัมมา อุทเทสังอาคัจฉันติ.

1. “ปะริมัณฑะลัง นิวาเสสสามีติ สิกขา กะระณียา.
2. “ปะริมัณฑะลัง ปารุปิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
3. “สุปะฏิจฉันโน อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
4. “สุปะฏิจฉันโน อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
5. “สุสังวุโต อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
6. “สุสังวุโต อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
7. “โอกขิตตะจักขุ อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
8. “โอกขิตตะจักขุ อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
9. “นะ อุกขิตตะกายะ อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
10 . “นะ อุกขิตตะกายะ อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
11 . “นะ อุชชัคฆิกายะ อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
12. “นะ อุชชัคฆิกายะ อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
13. “อัปปะสัทโท อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
14. “อัปปะสัทโท อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
15 . “นะ กายัปปะจาละกัง อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
16 . “นะ กายัปปะจาละกัง อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
17 . “นะ พาหุปปะจาละกัง อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
18 . “นะ พาหุปปะจาละกัง อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
19 . “นะ สีสัปปะจาละกัง อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
20. “นะ สีสัปปะจาละกัง อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
21. “นะ ขัมภะกะโต อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
22. “นะ ขัมภะกะโต อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
23. “นะ โอคุณฐิโต อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
24. “นะ โอคุณฐิโต อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
25. “นะ อุกกุฏิกายะ อันตะระฆะเร คะมิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
26. “นะ ปัลลัตถิกายะ อันตะระฆะเร นิสีทิสสามีติ สิกขา กะระณียา.

                    ฉัพพีสะติ สารุปปา.

1. “สักกัจจัง ปิณฑะปาตัง ปะฏิคคะเหสสามีติ สิกขา กะระณียา.
2. “ปัตตะสัญญี ปิณฑะปาตัง ปะฏิคคะเหสสามีติ สิกขา กะระณียา.
3. “สะมะสูปะกัง ปิณฑะปาตัง ปะฏิคคะเหสสามีติ สิกขา กะระณียา.
4. “สะมะติตติกัง ปิณฑะปาตัง ปะฏิคคะเหสสามีติ สิกขา กะระณียา.
5. “สักกัจจัง ปิณฑะปาตัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
6. “ปัตตะสัญญี ปิณฑะปาตัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
7. “สะปะทานัง ปิณฑะปาตัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
8. “สะมะสูปะกัง ปิณฑะปาตัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
9. “นะ ถูปะโต โอมัททิต๎วา ปิณฑะปาตัง ภุญชิสสามีติ สิกขากะระณียา.
10 . “นะ สูปัง วา พ๎ยัญชะนัง วา โอทะเนนะ ปะฏิจฉาเทสสามิภิยโยกัม๎ยะตัง อุปาทายาติ สิกขา กะระณียา.
11 . “นะ สูปัง วา โอทะนัง วา อะคิลาโน อัตตะโน อัตถายะวิญญาเปต๎วา ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
12. “นะ อุชฌานะสัญญี ปะเรสัง ปัตตัง โอโลเกสสามีติ สิกขากะระณียา.
13. “นาติมะหันตัง กะวะฬัง กะริสสามีติ สิกขา กะระณียา.
14. “ปะริมัณฑะลัง อาโลปัง กะริสสามีติ สิกขา กะระณียา.
15 . “นะ อะนาหะเฏ กะวะเฬ มุขะท๎วารัง วิวะริสสามีติ สิกขา กะระณียา.
16 . “นะ ภุญชะมาโน สัพพัง หัตถัง มุเข ปักขิปิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
17 . “นะ สะกะวะเฬนะ มุเขนะ พ๎ยาหะริสสามีติ สิกขา กะระณียา.
18 . “นะ ปิณฑุกเขปะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
19 . “นะ กะวะฬาวัจเฉทะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
20. “นะ อะวะคัณฑะการะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
21. “นะ หัตถะนิทธูนะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
22. ”นะ สิตถาวะการะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
23. “นะ ชิวหานิจฉาระกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
24. “นะ จะปุจะปุการะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
25. “นะ สุรุสุรุการะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
26. “นะ หัตถะนิลเลหะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
27. ”นะ ปัตตะนิลเลหะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
28. “นะ โอฏฐะนิลเลหะกัง ภุญชิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
29. “นะ สามิเสนะ หัตเถนะ ปานียะถาละกัง ปะฏิคคะเหสสามีติสิกขา กะระณียา.
30. “นะ สะสิตถะกัง ปัตตะโธวะนัง อันตะระฆะเร ฉัฑเฑสสามีติ สิกขากะระณียา.

                    สะมะติงสะ โภชะนะปะฏิสังยุตตา.

1. “นะ ฉัตตะปาณิสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
2. “นะ ทัณฑะปาณิสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
3. “นะ สัตถะปาณิสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
4. “นะ อาวุธะปาณิสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
5. “นะ ปาทุการูฬ๎หัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
6. “นะ อุปาหะนารูฬ๎หัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
7. “นะ ยานะคะตัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา
8. “นะ สะยะนะคะตัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
9. “นะ ปัลลัตถิกายะ นิสินนัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติสิกขา กะระณียา.
10 . “นะ เวฏฐิตะสีสัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
11 . “นะ โอคุณฐิตะสีสัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
12. “นะ ฉะมายัง นิสีทิต๎วา อาสะเน นิสินนัสสะ อะคิลานัสสะธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
13. “นะ นีเจ อาสะเน นิสีทิต๎วา อุจเจ อาสะเน นิสินนัสสะอะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
14. “นะ ฐิโต นิสินนัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขากะระณียา.
15 . “นะ ปัจฉะโต คัจฉันโต ปุระโต คัจฉันตัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมังเทสิสสามีติ สิกขา กะระณียา.
16 . “นะ อุปปะเถนะ คัจฉันโต ปะเถนะ คัจฉันตัสสะ อะคิลานัสสะ ธัมมัง เทสิสสามีติ สิกขา กะระณียา.

                    โสฬะสะ ธัมมะเทสะนาปะฏิสังยุตตา.

1. “นะ ฐิโต อะคิลาโน อุจจารัง วา ปัสสาวัง วา กะริสสามีติ สิกขา กะระณียา.
2. “นะ หะริเต อะคิลาโน อุจจารัง วา ปัสสาวัง วา เขฬัง วา กะริสสามีติ สิกขา กะระณียา.
3. “นะ อุทะเก อะคิลาโน อุจจารัง วา ปัสสาวัง วา เขฬัง วา กะริสสามีติ สิกขา กะระณียา.

                    ตะโย ปะกิณณะกา.
อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต (ปัญจะสัตตะติ) เสขิยา ธัมมา.

          ตัตถายัส๎มันเต    ปุจฉามิ:    กัจจิตถะ     ปะริสุทธา
          ทุติยัมปิ           ปุจฉามิ.     กัจจิตถะ     ปะริสุทธา
          ตะติยัมปิ          ปุจฉามิ.     กัจจิตถะ     ปะริสุทธา

ปะริสุทเธตถายัส๎มันโต, ตัส๎มา ตุณ๎หี, เอวะเมตัง ธาระยามิ.
เสขิยา นิฏฐิตา.

          อิเม โข ปะนายัส๎มันโต สัตตาธิกะระณะสะมะถา ธัมมา อุทเทสัง อาคัจฉันติ.
          อุปปันนุปปันนานัง อะธิกะระณานัง สะมะถายะ วูปะสะมายะ
สัมมุขาวินะโย ทาตัพโพ, สะติวินะโย ทาตัพโพ, อะมูฬ๎หะวินะโย
ทาตัพโพ, ปะฏิญญาตะกะระณัง, เยภุยยะสิกา, ตัสสะ ปาปิยะสิกา,ติณะวัตถาระโกติ.

          อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต สัตตาธิกะระณะสะมะถา ธัมมา.

          ตัตถายัส๎มันเต ปุจฉามิ:    กัจจิตถะ ปะริสุทธา
          ทุติยัมปิ ปุจฉามิ:           กัจจิตถะ ปะริสุทธา
          ตะติยัมปิ ปุจฉามิ:          กัจจิตถะ ปะริสุทธา

          ปะริสุทเธตถายัส๎มันโต, ตัส๎มา ตุณ๎หี, เอวะเมตัง ธาระยามิ.
          สัตตาธิกะระณะสะมะถา นิฏฐิตา.

อุททิฏฐัง โข อายัส๎มันโต นิทานัง.
อุททิฏฐา จัตตาโร ปาราชิกา ธัมมา.
อุททิฏฐา เตระสะ สังฆาทิเสสา ธัมมา.
อุททิฏฐา เท๎ว อะนิยะตา ธัมมา.
อุททิฏฐา ติงสะ นิสสัคคิยา ปาจิตติยา ธัมมา.
อุททิฏฐา เท๎วนะวุติ ปาจิตติยา ธัมมา.
อุททิฏฐา จัตตาโร ปาฏิเทสะนียา ธัมมา.
อุททิฏฐา (ปัญจะสัตตะติ) เสขิยา ธัมมา.
อุททิฏฐา สัตตาธิกะระณะสะมะถา ธัมมา.

เอตตะกันตัสสะ ภะคะวะโต สุตตาคะตัง สุตตะปะริยาปันนัง
อัน๎วัฑฒะมาสัง อุทเทสัง อาคัจฉะติ.

ตัตถะ สัพเพเหวะ สะมัคเคหิ สัมโมทะมาเนหิ อะวิวะทะมาเนหิ
สิกขิตัพพันติ.

                    ภิกขุปาฏิโมกขัง นิฏฐิตัง.

หน้า 1092
ปวารณา
สังฆปวารณา (มีภิกษุตั้งแต่ ๕ รูปขึ้นไป พึงตั้งญัตติ ดังนี้ว่า)1
          “สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, อัชชะ ปะวาระณา ยะทิ สังฆัสสะ ปัตตะกัลลัง, สังโฆ ปะวาเรยยะ.”
“ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า วันนี้เป็นวันปวารณา ถ้าความพรั่งพร้อมของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงปวารณา.”
           ภิกษุผู้เถระพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประคองอัญชลี
แล้วกล่าวปวารณาอย่างนี้ ว่าดังนี้
           สังฆัง อาวุโส ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา,
วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ, ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ.
           ทุติยัมปิ อาวุโส สังฆัง ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา, วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ, ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ.
           ตะติยัมปิ อาวุโส สังฆัง ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ
วา, วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ, ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ.
           ภิกษุผู้นวกะพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประคองอัญชลี
แล้วกล่าวปวารณา (เช่นเดียวกัน โดยเปลี่ยนคำว่า อาวุโส เป็น ภันเต)

คณะปวารณา (มีภิกษุ ๔ รูป หรือ ๓ รูป)
ภิกษุ ๔ รูปพึงตั้งญัตติ ดังนี้ว่า
สุณันตุ เม อายัส๎มันโต, อัชชะ ปะวาระณา ยะทายัส๎มันตานัง
ปัตตะกัลลัง, มะยัง อัญญะมัญญัง ปะวาเรยยามะ.
(ถ้ามีภิกษุ ๓ รูป ให้เปลี่ยนคำว่า อายัส๎มันโต เป็น อายัส๎มันตา)
.................................................................
1. คำบาลีที่ใช้เหล่านี้นำมาจาก คัมภีร์มหาวรรค ภาค ๑ พระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐเล่ม ๔ ข้อ ๒๒๕ หน้า ๓๑๒ -ผู้รวบรวม
.................................................................
ภิกษุผู้เถระพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประคองอัญชลีแล้วกล่าวปวารณาอย่างนี้ ว่าดังนี้
อะหัง อาวุโส อายัส๎มันเต ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา … ฯลฯ
… ปะฏิกกะริสสามิ,
ทุติยัมปิ อาวุโส อายัส๎มันเต … ปะฏิกกะริสสามิ,
ตะติยัมปิ อาวุโส อายัส๎มันเต … ปะฏิกกะริสสามิ
ภิกษุผู้นวกะพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประคองอัญชลีแล้วกล่าวปวารณา (เช่นเดียวกัน โดยเปลี่ยนคำว่า อาวุโส เป็น ภันเต)

คณะปวารณา (มีภิกษุ ๒ รูป)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุทั้งสองพึงปวารณาอย่างนี้:-
ภิกษุผู้เถระพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประคองอัญชลี
แล้วกล่าวคำปวารณาต่อภิกษุผู้นวกะอย่างนี้ ว่าดังนี้:-
อะหัง อาวุโส อายัส๎มันตัง … ฯลฯ … ปะฏิกกะริสสามิ,
ทุติยัมปิ อาวุโส อายัส๎มันตัง … ฯลฯ … ปะฏิกกะริสสามิ,
ตะติยัมปิ อาวุโส อายัส๎มันตัง … ฯลฯ … ปะฏิกกะริสสามิ,
ภิกษุผู้นวกะพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประคองอัญชลี
แล้วกล่าวคำปวารณาต่อภิกษุผู้เถระ (เช่นกัน โดยเปลี่ยนคำว่า อาวุโส
เป็น ภันเต)

อธิษฐานปวารณา (มีภิกษุรูปเดียว)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันปวารณา มีภิกษุในศาสนานี้อยู่รูปเดียว. ภิกษุนั้นพึงกวาดสถานที่เป็นที่ไปมาแห่งภิกษุทั้งหลาย คือจะเป็นโรงฉัน มณฑปหรือโคนต้นไม้ ก็ตาม แล้วจัดตั้งน้ำฉัน น้ำใช้ไว้ ปูอาสนะ ตามประทีป แล้วนั่งรออยู่. หากมีภิกษุเหล่าอื่นมาพึงปวารณาร่วมกับพวกเธอหากไม่มีมาพึง อธิษฐานว่า“อัชชะ เม ปะวาระณา. ปวารณาของเราวันนี้”
หากไม่อธิษฐาน ต้องอาบัติทุกกฏ.

หน้า 1094
กรรมวาจากฐิน

คำอุปโลกน์กฐิน
อุปโลกน์
              ท่านเจ้าข้าขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้าผ้าทั้งหลาย เหล่านี้เกิดขึ้นแล้วแก่สงฆ์ผู้อยู่จำพรรษา ถ้วนไตรมาสในเขตสีมาวัด .........(ระบุชื่อ).........               ข้าพเจ้าขอเป็นตัวแทนของคณะสงฆ์เพื่อจัดแบ่งผ้า ที่ได้รับมา จากคหบดี ผู้มีจิตศรัทธาแสดงเจตนาถวายผ้ากฐิน ที่ได้พร้อมเพรียงกันนำมาถวายนั้น มอบให้แก่ภิกขุ ผู้มีจีวรเก่าคร่ำคร่า และเป็นผู้มีศีลอันเป็นที่รักของเพื่อน ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยกัน เพื่อยังผ้านี้ให้สำเร็จประโยชน์ ในการที่จะตัดเย็บย้อมเป็นจีวรในกาลต่อไป
               หากคณะสงฆ์
พิจารณาเห็นสมควร มอบผ้า เหล่านี้ให้แก่ภิกขุใด ขอจงยินยอมอนุญาต ให้แก่ภิกขุรูปนั้น
                    (หยุดรออุปโลกน์รูปที่)

อุปโลกน์
          ท่านเจ้าข้าขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า คณะสงฆ์ได้พิจารณาแล้ว เห็นสมควรว่าภิกขุ ......... (ระบุชื่อ)......... เป็นผู้เหมาะสม ที่จะได้รับมอบผ้ากฐิน ทั้งหลายเหล่านี้
              การให้ผ้ากฐินทั้งหลายเหล่านี้แก่ภิกขุ ........... (ระบุชื่อ)........... ชอบแก่ท่านผู้ใด          ท่านผู้นั้น พึงเป็นผู้นิ่งไม่ชอบแก่ท่านผู้ใดท่านผู้นั้น พึงพูด

                    (
หยุดสักระยะหนึ่ง)

ผ้ากฐินทั้งหลายเหล่านีี้
สงฆ์ ให้แล้วแก่ภิกขุ .............(ระบุชื่อ)..............เพื่อตัดเย็บย้อมเป็นจีวรชอบแก่สงฆ์ เพราะเหตุนั้นจึงนิ่งข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.

ภิกขุรูปหนึ่งกล่าว: สังฆกรรมในการอุปโลกน์กฐิน ได้สำเร็จแล้วโดยธรรมขอคณะสงฆ์ ได้อนุโมทนาขึ้นพร้อมกันเทอญ.
  
                   (
จบแล้วให้คณะสงฆ์สาธุขึ้น โดยพร้อมเพรียงกัน)

หน้า1095
• แบบกรรมวาจาสวดให้ผ้ากฐิน

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ.

สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, อิทัง สังฆัสสะ กะฐินะทุสสัง อุปปันนัง,
ยะทิ สังฆัสสะ ปัตตะกัลลัง, สังโฆ อิมัง กะฐินะทุสสัง อายัส๎มะโต
อิตถันนามัสสะ ทะเทยยะ, กะฐินัง อัตถะริตุง, เอสา ญัตติ.

สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, อิทัง สังฆัสสะ กะฐินะทุสสัง อุปปันนัง, สังโฆ
อิมัง กะฐินะทุสสัง อายัส๎มะโต อิตถันนามัสสะ เทติ, กะฐินัง อัตถะริตุง,
ยัสสายัส๎มะโต ขะมะติ, อิมัสสะ กะฐินะทุสสัสสะ, อายัส๎มะโตอิตถันนามัสสะ ทานัง, กะฐินัง อัตถะริตุง, โส ตุณ๎หัสสะ, ยัสสะนักขะมะติ, โส ภาเสยยะ.ทินนัง อิทัง สังเฆนะ, กะฐินะทุสสัง อายัส๎มะโต อิตถันนามัสสะกะฐินัง อัตถะริตุง, ขะมะติ สังฆัสสะ, ตัส๎มา ตุณ๎หี, เอวะเมตัง ธาระยามิ.

ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ผ้ากฐินผืนนี้เกิดขึ้นแล้ว แก่สงฆ์ถ้าความ พรั่งพร้อมของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงให้ผ้ากฐินผืนนี้แก่ภิกษุผู้มีชื่อนี้เพื่อกรานกฐิน นี้เป็นญัตติ.

ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ผ้ากฐินผืนนี้เกิดขึ้นแล้วแก่สงฆ์สงฆ์ให้ผ้ากฐินผืนนี้ แก่ภิกษุผู้มีชื่อนี้ เพื่อกรานกฐินการ ให้ผ้ากฐินผืนนี้แก่ภิกษุผู้มีชื่อนี้ เพื่อกรานกฐิน ย่อมชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึง เป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด ผ้ากฐินผืนนี้ สงฆ์ให้แล้วแก่ภิกษุผู้มีชื่อนี้ เพื่อจะกรานกฐิน ย่อมชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่งอยู่ ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.
1096 ภาคผนวก
(คำ ว่า อิตถันนามัสสะ ใช้เปลี่ยนตามชื่อของภิกษุผู้รับผ้ากฐิน เช่นขันติธัมโม เปลี่ยนเป็น ขันติธัมมัสสะ ถ้าภิกษุนั้นอ่อนกว่าผู้สวด ต้องตัดอายัส๎มะโต ออกเสีย แล้วเติม ภิกขุโน ต่อท้ายคำ อิตถันนามัสสะ เช่นอายัส๎มะโต อิตถันนามัสสะ เปลี่ยนเป็น อิตถันนามัสสะ ภิกขุโน) 



หน้า 1097

ส่วนปิดท้ายภาคผนวก1

หน้า 1098
วิธีพินทุและอธิษฐานบริขาร

วิธีพินทุ
-บาลีมหา. วิ. /๓๖๘-/๔๑๐

ในอรรถกถาว่าการทำให้จีวร ที่ได้มาใหม่ เสียสี หรือ มีตำหนิ ด้วยสีเขียวสีตม หรือ สีดำคล้ำ มักทำจุดเป็นวงกลม อย่างใหญ่ เท่าแววตานกยูงอย่างเล็กเท่า หลังตัวเรือดที่มุมจีวร พร้อมกับกล่าวคำว่า“อิมังพินทุกัปปังกะโรมิ”.

คำอธิษฐานบริขาร
คำอธิษฐานบริขารสิ่งเดียว ในหัตถบาส ว่า หน

 ชนิดบริขาร                  คำอธิษฐาน
บาตร                            อิมัง ปัตตัง อะธิฏฐามิ.
สังฆาฏิ                         อิมัง สังฆาฏิง อะธิฏฐามิ.
อุตตราสงค์ (จีวร)           อิมัง อุตตะราสังคัง อะธิฏฐามิ.
อันตรวาสก (สบง)          อิมัง อันตะระวาสะกัง อะธิฏฐามิ.
นิสีทนะ (ผ้าปูนั่ง)           อิมัง นิสีทะนัง อะธิฏฐามิ.
ผ้าอาบน้ำฝน                 อิมัง วัสสิกะสาฏิกัง อะธิฏฐามิ.
ผ้าปิดฝี                         อิมัง กัณฑุปะฏิจฉาทิง อะธิฏฐามิ.
ผ้าปูนอน                       อิมัง ปัจจัตถะระณัง อะธิฏฐามิ.
ผ้าเช็ดหน้าเช็ดปาก        อิมัง มุขะปุญฉะนะโจลัง อะธิฏฐามิ.
ผ้าบริขาร                      อิมัง ปะริกขาระโจลัง อะธิฏฐามิ.

คำอธิษฐานบริขารหลายสิ่ง ในหัตถบาส ว่า หน
ชนิดบริขาร               คำอธิษฐาน
ผ้าปูนอน                     อิมานิปัจจัตถะระณานิ อะธิฏฐามิ.
ผ้าเช็ดหน้าเช็ดปาก       อิมานิมุขะปุญฉะนะโจลานิ อะธิฏฐามิ.
ผ้าบริขาร                     อิมานิปะริกขาระโจลานิ อะธิฏฐามิ.

หน้า 1099
คำถอนอธิษฐานบริขาร

คำถอนอธิษฐานนั้นพึงว่าทุกอย่างเหมือนกับการอธิษฐานแต่จะเปลี่ยน
เฉพาะคำว่าอะธิฏฐามิเป็นปัจจุทธะรามิ

คำวิกัปบริขาร
(วิธีการวิกัปและถอนวิกัปนี้มีอธิบายไว้ในสิกขาบทวิภังค์สุราปานวรรค
สิกขาบทที่หน้า๑๔๔)

คำวิกัป ต่อหน้าผู้รับ ในหัตถบาส ว่าดังนี้ ( หน)
จีวรผืนเดียว               อิมังจีวะรังตุยหังวิกัปเปมิ.
จีวรหลายผืน              อิมานิจีวะรานิตุยหังวิกัปเปมิ.
บาตรใบเดียว             อิมังปัตตังตุยหังวิกัปเปมิ.
บาตรหลายใบ            อิมานิปัตตานิตุยหังวิกัปเปมิ.

คำถอนวิกัป
ผู้ถอนแก่พรรษากว่า ในหัตถบาส ว่าดังนี้ ( หน)
จีวรผืนเดียว             อิมังจีวะรังมัยหังสันตะกังปริภุญชะวา
                            วิสัชเชหิวายะถาปัจจะยังวากะโรหิ.
จีวรหลายผืน           อิมานิจีวะรานิมัยหังสันตะกานิปริภุญชะวา
                            วิสัชเชหิวายะถาปัจจะยังวากะโรหิ.
บาตรใบเดียว          อิมังปัตตังมัยหังสันตะกังปริภุญชะวา
                            วิสัชเชหิวายะถาปัจจะยังวากะโรหิ.
บาตรหลายใบ         อิมานิปัตตานิมัยหังสันตะกานิปริภุญชะวา
                            วิสัชเชหิวายะถาปัจจะยังวากะโรหิ.
(ผู้ถอนอ่อนพรรษากว่าในหัตถบาสให้เปลี่ยนกะโรหิเป็นกะโรถะ)

หน้า 1100 ภาคผนวก
คำอธิษฐานเข้าพรรษา
อิมัส๎มิงอาวาเสอิมังเตมาสังวัสสังอุเปมิ.

หน้า 1100-1 ภาคผนวก
คำขอขมาโทษ

พิธีขมาหลายคน
ผู้ขอ              เถเรปะมาเทนะทะวารัตตะเยนะกะตัง,
                     สัพพังอะปะราธังขะมะตุโนภันเต. (หน)
ผู้รับ               อะหังขะมามิตุมเหหิปิเมขะมิตัพพัง.
ผู้ขอ              ขะมามะภันเต.

พิธีขมาคนเดียว
ผู้ขอ              เถเรปะมาเทนะทะวารัตตะเยนะกะตัง,
                    สัพพังอะปะราธังขะมะถะเมภันเต. (หน)
ผู้รับ              อะหังขะมามิตะยาปิเมขะมิตัพพัง.
ผู้ขอ              ขะมามิภันเต.

คำตอบรับผู้มาขอขมา(ที่เป็นพุทธวจน)
-บาลีจุลฺล. วิ. /๑๘๐/๓๖๙.

“ยะโตจะโขตะวังอาวุโสอัจจะยังอัจจะยะโตทิส๎วายะถาธัมมัง
ปะฏิกะโรสิตันเตมะยังปะฏิคคัณหามะวุทธิเหสาอาวุโสอะริยัสสะ
วินะเยโยอัจจะยังอัจจะยะโตทิส๎วายะถาธัมมังปะฏิกะโรติอายะติง
สังวะรังอาปัชชะติ.”


เมื่อใดท่านเห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้วทำคืนตามธรรมเมื่อนั้น
เรารับโทษนั้นของท่านเพราะผู้ใดเห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้วทำคืน
ตามธรรมถึงความสำรวมต่อไปข้อนั้นเป็นความเจริญในอริยวินัย.

หน้า 1101
คำสัตตาหะกะระณียะ
สัตตาหะกะระณียังกิจจังเมอัตถิตัสมามะยาคันตัพพังอิมัส๎มิง
สัตตาหัพภันตะเรนิวัตติสสามิ.”

คำกรานกฐิน
ผ้าสังฆาฏิ                 อิมายะสังฆาฏิยากะฐินังอัตถะรามิ.
ผ้าอุตตราสงค์           อิมินาอุตตะราสังเฆนะกะฐินังอัตถะรามิ.
ผ้าอันตรวาสก           อิมินาอันตะระวาสะเกนะกะฐินังอัตถะรามิ.

คำอนุโมทนากฐิน
อันภิกษุผู้กรานกฐินนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า
ประคองอัญชลีกล่าวอย่างนี้ว่า

อัตถะตังอาวุโส (ภันเต) สังฆัสสะกะฐินัง, ธัมมิโกกะฐินัตถาโร,
อะนุโมทะถะ. ท่านเจ้าข้ากฐินของสงฆ์กรานแล้วการกรานกฐินเป็นธรรม
ขอท่านทั้งหลายอนุโมทนาเถิด.”
ภิกษุผู้อนุโมทนาเหล่านั้นพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่าประคองอัญชลี
กล่าวอย่างนี้ว่า

อัตถะตังภันเต (อาวุโส) สังฆัสสะกะฐินัง, ธัมมิโกกะฐินัตถาโร,
อะนุโมทามะ. ผู้มีอายุกฐินของสงฆ์กรานแล้วการกรานกฐินเป็นธรรม
เราทั้งหลายอนุโมทนา.”



หน้า 1103

ภาคพิเศษ

เพื่อช่วยในการศึกษาค้นคว้านำมาปฏิบัติ

ส่วนสรุปหลักเกณฑ์วิธีการระงับอธิกรณ์
แผนผังที่ ๑ สรุปวิธีการทางสงฆ์เพื่อจัดการอธิกรณ์
แผนผังที่ ๒ วิธีการลงโทษ ที่เกิดเพราะเหตุอาชีวะหรือปาติโมกข์
แผนผังที่ ๓ วิธีการลงโทษ ที่เกิดเพราะเหตุมรรคหรือปฏิปทา
ตารางที่ ๑ อธิบายอธิกรณ์ ๔ และอธิกรณสมถะ ๗
ตารางที่ ๒ การนับจำนวนสิกขาบทปาติโมกข์ในแต่ละนิกาย จากพระไตรปิฎก
ตารางที่ ๓ เปรียบเทียบอายุนรก จากพระไตรปิฎกของประเทศต่างๆ
ตารางที่ ๔.๑ – ๔.๓ เปรียบเทียบลำดับชื่อนรก จากพระไตรปิฎกของประเทศต่างๆ (ด้านล่าง)
(ให้ดูเปรียบเทียบในบาลีของแต่ละประเทศ ทั้ง ๓ ตารางพร้อมๆ กัน คือ ๔.๑ / ๔.๒ / ๔.๓)

แผนผังที่ ๑ สรุปวิธีการทางสงฆ์    คลิก แผนผังที่ ๒ วิธีการลงโทษ     คลิก
แผนผังที่ ๓ วิธีการลงโทษ    คลิก ตารางที่ ๑ อธิบายอธิกรณ์ ๔    คลิก
ตารางที่ ๒ การนับจำนวนสิกขาบทปาติโมกข์  คลิก ตารางที่ ๓ เปรียบเทียบอายุนรก     คลิก
ตารางที่ ๔.๑ – ๔.๓ เปรียบเทียบลำดับชื่อนรก จากพระไตรปิฎกของประเทศต่างๆ     คลิก
ตารางที่ ๔.๑
ตารางที่ ๔.๒
ตารางที่ ๔.๓
 


หน้า 1105

ส่วนสรุปหลักเกณฑ์วิธีการระงับอธิกรณ์
เพื่อให้ผู้ศึกษามองเห็นภาพโดยรวมของระบบอธิกรณ์ทั้งหมด คือ ตั้งแต่การเกิดอธิกรณ์ จนถึงอธิกรณ์ระงับ อย่างย่อๆ (ซึ่งเป็นภาพโดยรวมของแผนผังที่ ๑, ๒, และ ๓ นั่นเอง)สามารถที่จะบรรยาย ออกเป็นแผนภาพ ได้ดังนี้

แผนภาพรวมโดยย่อ ของ อธิกรณ์และการระงับอธิกรณ์

หน้า 1105-1

เกิดอธิกรณ์
(ดูแผนผังที่ ๑)
                                      คลิกที่ภาพ


อธิกรณ์ระงับ
ข้อสังเกตุ จากพระพุทธดำรัสใน สามคามสูตร (ดูหน้า 1015) มีการแบ่งเหตุความวิวาทเป็น ๒ ส่วน ซึ่งจะระงับโดยไม่ต้องอาบัติและต้องอาบัติ ในการต้องอาบัติจึงสามารถจัดกลุ่ม ได้จากเหตุตามเรื่องที่เกิดขึ้น ๒ ส่วนนี้ คือ
๑.เรื่องที่เกิดเพราะเหตุ อาชีวะอันยิ่งหรือปาติโมกข์อันยิ่ง และ
๒.เรื่องอันเกิดในสงฆ์ที่เกิดเพราะเหตุ มรรคหรือปฏิปทา

ภาคพิเศษ หน้า 1106
สรุปกรรมวาจาในกิจของสงฆ์ที่ทรงบัญญัติไว้ ที่มีในพระไตรปิฎก

อปโลกนกรรม1
๑.เมื่อจะปลงผมผู้จะบวช ๒.ประกาศให้จับฉลาก
๓.ประกาศเรื่องปกาสนียกรรม
๔.ประกาศงด
ปาติโมกข์แก่ภิกษุที่ได้เห็น ได้ยิน ได้รังเกียจว่าปาราชิก หรืออาบัติปาราชิกยังมิได้วินิจฉัย, แก่ผู้บอกลา สิกขา หรือปรารภการลาสิกขายังค้างอยู่, แก่ผู้ไม่ร่วมสามัคคีที่เป็นธรรม, ผู้ปรารภการค้านสามัคคี ที่เป็นธรรมที่ยังมิได้วินิจฉัย, แก่ผู้ที่มีผู้เห็น ได้ยิน ได้รังเกียจด้วยศีลวิบัติ … ทิฏฐิวิบัติ

หน้า 1106-1
ญัตติกรรม

๑.ญัตติคืนของที่เป็น นิสสัคคีย์ ที่ได้สละแก่สงฆ์หรือ แก่คณะ
๒.สมมติเป็นผู้ซ้อม (ผู้จะอุปสมบท)
๓.สมมติเป็นผู้ถามอันตรายิกธรรม
๔.สมมติเป็นผู้ถามหรือตอบพระวินัยในท่ามกลางสงฆ์
๕ .ญัตติทำปาริสุทธิอุโบสถ (ภิกษุ ๓ รูป)
๖.ญัตติสงฆ์ต้องสภาคาบัติ หรือสงสัยสภาคาบัติในวันอุโบสถ ๗.ญัตติสังฆปวารณา
๘.ญัตติคณะปวารณา
๙.ญัตติสงฆ์ต้องสภาคาบัติ หรือสงสัยสภาคาบัติในวันปวารณา
๑๐.ญัตติเพื่อปวารณา ๒ หน… หนเดียว… มีพรรษาเท่ากันปวารณาพร้อมกัน
๑๑.ญัตติระงับอธิกรณ์ด้วย ติณวัตถารกะ
๑๒.ถอนภิกษุออกจากคณะผู้ระงับอธิกรณ์ด้วยอุพพาหิกวิธิ ๑๓.สมมติภิกษุณีให้ปวารณาต่อภิกษุสงฆ์แทนภิกษุณีสงฆ์

หน้า 1106-2
ญัตติทุติยกรรม

๑.สมมติภิกษุไปแทนสงฆ์เพื่อตรวจดูพื้นที่ (สร้างกุฏิ, วิหาร เฉพาะตน)
๒.สงฆ์แสดงที่สร้างกุฏิ, วิหารเฉพาะตน
๓.สมมติภิกษุผู้แต่งตั้ง เสนาสนะและแจกอาหาร
๔.สมมติเพื่อ ไม่เป็นการอยู่ปราศจากไตรจีวร(แกภิกษุอาพาธ)
๕ .สมมติสันถัต(แก่ภิกษุผู้อาพาธ) ๖.สมมติภิกษุผู้ทิ้งรูปิยิะ
๗.สงฆ์ ยกอัญญวาทกรรม แก่ผู้พูดกลบเกลื่อนให้สงฆ์ลำบาก
๘.สงฆ์ยกวิเหสกกรรมแก่ผู้นิ่ง ทำให้สงฆ์ลำบาก
๙.สงฆ์ลงโมหาโรปนกรรมแก่ผู้เมื่อสวดปาติโมกข์อยู่ หาทำในใจให้สำเร็จประโยชน์
๑๐.สงฆ์ให้ เสกข สมมติ แก่ตระกูลที่เจริญด้วยศรัทธา แต่หย่อนด้วยโภคสมบัติ
๑๑.ภิกษุณีสงฆ์สิกขาสมมติให้สิกขมานา
๑๒.สงฆ์ให้ ติตถิยปริวาส
๑๓.สมมติสมานสังวาสสีมา
๑๔.สมมติโรงอุโบสถ
๑๕.ถอนโรงอุโบสถ
๑๖.สมมติติจีวราวิปปวาส
๑๗.ถอนสมานสังวาสสีมา
๑๘.สมมติอุมมัตตกแก่ภิกษุ (ผู้วิกลจริตที่ระลึกอุโบสถได้บ้างไม่ได้บ้าง)
๑๙. เลือนปวารณา
๒๐.สมมติกัปปิยภูมิ
๒๑.ให้ผ้ากฐินแก่ภิกษุเพื่อกรานกฐิน
๒๒.เดาะกฐิน
๒๓.สมมติเรือนคลัง
๒๔.สมมติภิกษุให้เป็นเจ้าหน้าที่รับจีวร, เก็บจีวร, แจกจีวร ๒๕.ให้ไตรจีวรและบาตรของภิกษุสามเณรผู้มรณภาพ แก่ภิกษุสามเณรผู้พยาบาลไข้
๒๖.ให้ภิกษุเป็นอนุทูตแก่ภิกษุเพื่อขอขมาคฤหัสถ์
๒๗.สมมติภิกษุให้เป็นผู้จับฉลาก
๒๘.ญัตติแทนสงฆ์เพื่อระงับอธิกรณ์ด้วยติณวัตถารกะ
๒๙.ประกาศทำสังฆสามัคคีอุโบสถ
๓๐.ญัตติแทนสงฆ์เพื่อระงับอธิกรณ์ด้วยอุพพาหิกวิธี
๓๑.สงฆ์คว่ำบาตรแก่คฤหัสถ์
๓๒.สงฆ์หงายบาตร
๓๓.ทัณฑสมมติ (ให้ผู้อาพาธใช้ไม้เท้า )
๓๔.สิกกาสมมติ (ให้ผู้อาพาธใช้สาแหรก)
๓๕.ทัณฑสกิกาสมมติ(ให้ผู้อาพาธใช้ไม้เท้าและสาแหรก)
๓๖.ให้นวกรรม (ดูแลการก่อสร้าง)
๓๗.สมมติภิกษุเป็นผู้ให้ถือเสนาสนะ, ภัตตุเทสก์, แต่งตั้งเสนาสนะ, ผู้รักษาเรือนคลัง, แจกข้าวยาคู, ผลไม้, ของเคี้ยว, ของเล็กๆ น้อยๆ, ผู้ใช้สามเณร
๓๘.สมมติภิกษุณีให้เป็นเพื่อนภิกษุณี (ดูแลทารกชาย)
๔๐.ทำปกาสนียกรรม และสมมติภิกษุ เพื่อประกาศปกาสนียกรรม
หน้า 1106-3
ญัตติจตุตถกรรม
๑.สวดสมนุภาสน์ (เพื่อให้ภิกษุสละกรรมนั้นเสีย)
๒.ทำและระงับปัพพาชนียกรรม
๓.สมมติภิกษุให้เป็นผู้กล่าวสอนภิกษุณี
๔.ให้อุปสมบท  
๕ .ทำและระงับตัชชนียกรรม
๖.ทำและระงับนิยสกรรม
๗.ทำและระงับปฏิสารณียกรรม
๘.ลงและระงับอุกเขปนียกรรม
๙.ให้ปริวาส
๑๐.ให้มานัต
๑๑.ให้อัพภาน
๑๒.ให้มูลายปฏิกัสสนา
๑๓.ให้สติวินัย  
๑๔.ให้อมูฬหวินัย  
๑๕.ทำตัสสปาปิยสิกา  
๑๖.ให้อุปสมบทภิกษุณี   
๑๗.ให้อุปสมบทภิกษุณีด้วยทูต

ข้อสังเกต อปโลกนกรรม ตรัสให้ประกาศในท่ามกลางสงฆ์ว่า “ขอสงฆ์จงฟัง…” ไม่มีคำว่า “ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงพร้อมแล้ว สงฆ์พึง…” บางกรณีมีใช้ในอุโบสถด้วย เช่น ประกาศงดปาติโมกข์แก่ภิกษุ ส่วนญัตติกรรมนั้น ตรัสชัดว่า เป็นญัตติกรรมและใช้คำว่า “…ขอสงฆ์จงฟัง ถ้าความพร้อมพรั่งของ
สงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึง…”

ภาคพิเศษ หน้า 1113
เหตุปัจจัยอันเป็นที่มาของตารางเปรียบเทียบอายุนรก
และลำดับชั้นของนรก จากพระไตรปิฎกของประเทศต่างๆ

1. เมื่อพบความขัดแย้งไม่สอดรับกันในพระสูตร (พุทธวจน) โดยบาลีเช่น
         1.1. อุปมาอายุของนรก ที่เปรียบเหมือนการหยิบเมล็ดงาออกจากเกวียนของชาวโกศลที่บรรทุกงา ๒๐ ขารี ทุกๆ 100 ปี (เล่ม ๑๕) หรือ ทุกๆ 100,000 ปี (เล่ม ๒๔) หรือ ทุกๆ 100 ปี 1,000 ปี 100,000 ปี (เล่ม ๒๕) หยิบเมล็ดงาออกจากเกวียนนั้นหนึ่งเมล็ด ...
         1.2. ลำดับชั้นของนรกที่สลับกันในชั้นที่กล่าวว่า อฏฏะ และ อหหะซึ่งมีการสลับกัน ในบางพระสูตร ตามที่ยกมาเปรียบเทียบให้เห็นในตาราง

2. จึงมีการเปรียบเทียบกับบาลีของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเท่าที่มีหลักฐานอยู่ เพื่อต้องการทราบว่า มีบาลีที่เป็นพุทธวจน ของประเทศใดบ้างที่มีเนื้อหาตรงกัน สอดรับกัน โดยไม่มีความขัดแย้งกันในบท พยัญชนะ

3. ใช้หลักที่พระศาสดาประกาศไว้ว่าคำของพระองค์จะต้องสอดรับไม่ขัดแย้งกัน (-บาลี อิติวุ. ขุ. ๒๕/๓๒๑/๒๙๓)

4. ใช้หลักมหาประเทศ 4 (จตฺตาโร มหาปเทส) คือ ตรวจลงในธรรมะและวินัยที่พระองค์ ตรัสไว้ดีแล้ว บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง (-บาลี มหา. ที.๑๐/๑๔๔/๑๑๓-๑๑๖)

5. ทำเป็นตารางเทียบเคียงพระไตรปิฎกจากประเทศต่างๆ โดยบาลีเพื่อให้เห็นชัดเจนในส่วนความเหมือน และความแตกต่างในบทพยัญชนะที่เหมือนและแตกต่างกัน (ในส่วนของภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพิ่มตารางคำแปลของพระไตรปิฎก แต่ละฉบับให้เห็นไว้ด้วย เพื่อเป็นกรณีศึกษา และให้เห็นในความ ถูกต้องสอดรับกัน ไม่ขัดแย้ง และความเป็นอกาลิโกของตถาคตภาษิต) ดังตารางต่อไปนี้
• ตารางที่ ๓ เปรียบเทียบอายุนรก จากพระไตรปิฎกของประเทศต่างๆ
• ตารางที่ ๔.๑ – ๔.๓ เปรียบเทียบลำ ดับชื่อนรก จากพระไตรปิฎก ของประเทศต่างๆ

จบ อริยวินัย หน้า 1119