มหาปรินิพพานสูตร #๒ (เนื้อหาพอสังเขป)
1. เสด็จไปยัง อัมพลัฏฐิกา พร้อมสงฆ์หมู่ใหญ่ ทรงกระทำธรรมีกถา ศีล สมาธิ ปัญญา สมาธิ อันอบรมแล้ว ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ ย่อมหลุดพ้น จาก อาสวะคือ กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ ฯ
2. เสด็จไปยัง นาฬันทคาม ประทับที่ป่าวาทิกอัมพวัน พระสารีบุตรเข้าเฝ้า ว่าเลื่อมใสพระองค์ เป็นอย่างยิ่ง ไม่มีสมณะ พราหมณ์ ไม่มีใครๆ รู้เกินกว่า พระองค์ไปได้ ซึ่งพระองค์กล่าว(เชิงตำหนิ) ว่าเธอกล่าว อาสภิวาจา (คำกล่าวที่อาจหาญ่) อันยิ่งนี้ เธอถือเอาส่วนเดียว(คิดเอง) ก็ในเรื่องนี้ เธอไม่มีญาณ เพื่อกำหนดรู้ ซึ่งในใจพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งในอดีต อนาคต และปัจจุบัน
3. เสด็จไปยัง ปาฏลิคาม ปาฏลิคามได้ถวายเรือนพัก ปูลาดเรือนสำหรับพักอย่างเรียบร้อย แต่งตั้ง อาสนะไว้ ตั้งหม้อน้ำไว้ ตามประทีปไว้แล้ว ขอพระผู้มี พระภาคจงทรงทราบกาลอันควรในบัดนี้เถิด.. พระองค์ทรงรับ จากนั้นทรงแสดงธรรม ศีลวิบัติ ของคนทุศีล ๕ ประการ หากมีศีลวิบัติแล้ว ย่อมเข้าถึง อบาย ทุคติ วินิบาต นรก
4. พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปสู่ สุญญาคาร พระผู้มีพระภาคทรงเห็นเทวดานับเป็นพันๆ หวงแหน ที่ใน ปาฏลิคาม ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ พระผู้มีพระภาคทรง อนุโมทนา ด้วยคาถาความว่า ควรอุทิศทักษิณาทานให้แก่ เทวดาที่มีอยู่ ณ ที่นั้น เทวดาเหล่านั้นได้รับบูชาแล้ว ย่อมบูชาย่อม อนุเคราะห์เขา เหมือนมารดาอนุเคราะห์บุตร
5. พระผู้มีพระภาคหายตัว.. พระผู้มีพระภาคกับภิกษุสงฆ์ทรงหายไป ณ ที่ฝั่งนี้แห่งแม่น้ำคงคา ไปปรากฏตนที่ฝั่งโน้น เหมือนบุรุษผู้มีกำลัง เหยียดแขน ที่คู้ไว้ หรือคู้แขนที่เหยียดออกแล้ว ทรงเปล่งพระอุทานนี้ในเวลานั้นว่า.. แม่น้ำเปรียบเหมือนตัณหาอันเวิ้งว้าง... ต้องสร้างสะพานคือ อริยมรรคให้พ้นเปือกตม... ขณะที่ชนกำลังผูกทุ่นอยู่(ฝั่งตรงข้าม) คือหมู่ชนผู้มี ปัญญาข้ามได้แล้ว |