มหาปรินิพพานสูตร #๑ (เนื้อหาพอสังเขป)
อปริหานิยธรรมทั้ง ๗
1 อชาตศัตรูจะไปตีแคว้นวัชชี จึงส่งพราหมณ์มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับบนภูเขาคิชฌกูฏ เขตพระนครราชคฤห์ สมัยนั้น พระเจ้าแผ่นดินมคธ พระนามว่า อชาตศัตรู เวเทหีบุตร ทรงปรารถนา จะเสด็จไปปราบแคว้นวัชชี จึงตรัสเรียก วัสสการ พราหมณ์อำมาตย์ ให้ไปเฝ้าฯ เพื่อทูลถามถึงพระอาการ อาพาธ และขอให้พระองค์ ทรงพยากรณ์ การเสด็จไปปราบแคว้นวัชชี เพราะรู้ว่าพระตถาคต ย่อมไม่ตรัสคำที่ไม่จริงเลย
พระผู้มีพระภาคตรัสแก่ วัสสการพราหมณ์ ว่าพระองค์ได้แสดง อปริหานิยธรรมทั้ง ๗ แก่พวก เจ้าวัชชี ทำให้พวกเจ้าวัชชี สนใจ น้อมรับ และตั้งไว้ในใจ จึงหวังได้ว่าเจ้าวัชชจะพบแต่ความเจริญ อย่างเดียว ไม่มีเสื่อมเพียงนั้น
2 อปริหานิยธรรมทั้ง ๗
เจ้าวัชชีกระทำอยู่เนืองๆ
๑. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุจักหมั่นประชุมกันเนืองๆ อยู่เพียงใด พึงหวังได้ซึ่งความเจริญ อย่างเดียว ไม่มีเสื่อมเพียงนั้น ฯ
๒. พวกภิกษุจัก พร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม และพร้อมเพรียง ช่วยกันทำกิจที่สงฆ์พึงกระทำ
๓. พวกภิกษุ จักไม่บัญญัติสิ่งที่มิได้บัญญัติไว้แล้ว จักไม่ถอนสิ่งที่ได้บัญญัติไว้แล้ว จักสมาทาน ประพฤติอยู่ในสิกขาบท ทั้งหลาย ตามที่ได้บัญญัติไว้แล้ว
๔. พวกภิกษุ จักสักการะเคารพนับถือ บูชาภิกษุผู้เป็นเถระ ผู้รัตตัญญบวชนาน เป็นสังฆบิดร เป็นสังฆปริณายก และจักเชื่อฟังถ้อยคำของท่านเหล่านั้น
๕. พวกภิกษุ จักไม่ลุอำนาจแก่ตัณหาอันจะก่อให้เกิด ภพใหม่ซึ่ง บังเกิดขึ้นแล้ว
๖. พวกภิกษุ จักเป็นผู้ยินดีในเสนาสนะป่า
๗. พวกภิกษุ จักเข้าไปตั้งสติไว้ในภายในว่า ไฉนหนอเพื่อนพรหมจรรย์ผู้มีศีลเป็นที่รัก ที่ยังมิได้มา พึงมาเถิด และที่มาแล้วพึงอยู่เป็นผาสุก ดังนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อปริหานิยธรรม ทั้ง ๗ นี้ จักตั้งอยู่ในหมู่ภิกษุ และหมู่ ภิกษุ จักสนใจใน อปริหานิยธรรม ทั้ง ๗ นี้ อยู่เพียงใดหมู่ภิกษุพึงหวังได้ซึ่ง ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีเสื่อม เพียงนั้น
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว วัสสการพราหมณ์ ได้ทูลว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พวกเจ้าวัชชีมาประกอบด้วย อปริหานิยธรรม แม้ข้อหนึ่งๆก็ยังหวังได้ซึ่งความเจริญอย่างเดียว ไม่มีเสื่อม จะป่วยกล่าวไปไยถึงอปรินิยธรรมทั้ง ๗ ข้อเล่า พระเจ้า อชาตศัตรู ไม่ควร ทำการรบ กับเจ้าวัชชี แต่ควรมีความ ปรองดองดัน ควรเป็นพวกกันไม่ควรยุให้แตกกัน
วัสสการพราหมณ์ ชื่นชมยินดีพระภาษิต ของพระผู้มีพระภาค ลุกจากอาสนะแล้วหลีกไป |