1)
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๐๙
๕. มาคัณฑิยสูตร
[๒๗๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับบนเครื่องลาด อันลาดด้วยหญ้า ในโรงบูชาไฟ ของพราหมณ์ ภารทวาชโคตร ใกล้นิคมของชาวกุรุ อันชื่อว่ากันมาสธรรม ในกุรุรัฐ.
ครั้งนั้น เวลาเช้า พระผู้มีพระภาค ทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จ เข้าไปบิณฑบาตยังกัมมาสธรรมนิคม.
ครั้นเสด็จเที่ยวบิณฑบาต ในกัมมาสธรรมนิคมแล้ว ภายหลังภัต กลับจาก บิณฑบาต เสด็จเข้าไปยังไพรสณฑ์แห่งหนึ่ง เพื่อประทับพักกลางวัน เสด็จเข้าไปยัง ไพรสณฑ์นั้นแล้ว ประทับนั่งพักกลางวัน ณ โคนไม้แห่งหนึ่ง.
#1
เรื่องมาคัณฑิยปริพาชก
(มาคัณฑิยปริพาชก และ ภารทวาช สนทนาเรื่องพระผู้มีพระภาค ด้วยศรัทธา ว่าเป็นผู้แจ้งโลก ทรงแนะนำในธรรมที่มีเหตุ อันบริสุทธิ์ ไม่มีโทษ)
[๒๗๗] ครั้งนั้น มาคัณฑิยปริพาชก เดินเที่ยวไปมาเพื่อแก้เมื่อย เข้าไป ถึง โรงบูชาไฟ ของพราหมณ์ ภารทวาชโคตร. ได้เห็นเครื่องลาดอันลาด ด้วยหญ้า ในโรงบูชาไฟของพราหมณ์ ภารทวาชโคตร และได้กล่าวกะพราหมณ์ ภารทวาชโคตร ว่า ดูกรสหาย เครื่องลาดหญ้าที่ปูไว้ในโรงบูชาไฟของท่านภารทวาชะนี้ เป็นของใคร หนอ เห็นจะเป็นที่นอนสมควรแก่สมณะ
ภา. มีอยู่ ท่านมาคัณฑิยะ พระสมณโคดมศากยบุตร ออกบวชจาก ศากยสกุล เกียรติศัพท์ อันงามของท่านพระโคดมนั้น ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า แม้เฉพาะ เหตุนั้นๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อม ด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถี ฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่น ยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนก พระธรรม ที่นอนนี้ปูไว้แล้วสำหรับท่านพระโคดมนั้น
มา. ท่านภารทวาชะ พวกเราที่ได้เห็นที่นอนของท่านพระโคดม ผู้กำจัด ความเจริญนั้น ชื่อว่าได้เห็นชั่ว
ภา. ดูกรมาคัณฑิยะ ท่านจงรักษาวาจานี้ไว้ ดูกรท่านมาคัณฑิยะ ท่านจงรักษาวาจานี้ไว้ ความจริงกษัตริย์ที่เป็นบัณฑิตก็ดี พราหมณ์ที่เป็นบัณฑิตก็ดี คฤหบดีที่เป็นบัณฑิตก็ดี สมณะที่เป็นบัณฑิตเป็นอันมากก็ดี พากันเลื่อมใสยิ่งนัก ต่อท่านพระโคดมพระองค์นั้น ท่านพระโคดม ทรงแนะนำในธรรมที่มีเหตุ อันบริสุทธิ์ ไม่มีโทษ
มา. ท่านภารทวาชะ ถ้าแม้พวกเราได้พบท่านพระโคดมนั้นต่อหน้า เราก็พึง กล่าวกะท่านพระโคดมต่อหน้าว่า พระสมณโคดมผู้กำจัดความเจริญ ดังนี้ ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะว่า คำเช่นนี้ลงกันในสูตร ของเราทั้งหลาย.
ภา. ถ้าการที่จะกล่าวนั้น ไม่เป็นการหนักแก่ท่านมาคัณฑิยะ ข้าพเจ้าจักทูล กะพระสมณ โคดม พระองค์นั้น
มา. ท่านภารทวาชะ จงมีความขวนขวายน้อยเถิด เราได้ว่าไว้แล้ว ก็พึงกล่าว กะพระองค์เถิด
#2
(พระผู้มีพระภาค ทราบการการสนทนาของพราหม์ทั้งสองด้วยทิพยโสตธาตุ ทำให้ ภารทวาชตกใจขนลุก ที่พระองค์ทราบการสนทนา)
[๒๗๘] พระผู้มีพระภาคได้ทรงสดับคำสนทนานี้ ของพราหมณ์ ภารทวาช โคตร กับมาคัณฑิยปริพาชก ด้วยทิพยโสตธาตุอันบริสุทธิ์ล่วงโสตของมนุษย์
ครั้นเวลาเย็น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่เร้น เสด็จเข้าไปยัง โรงบูชาไฟ ของพราหมณ์ภารทวาชโคตร ประทับนั่ง บนเครื่องลาดหญ้าที่เขาลาดไว้
ลำดับนั้น พราหมณ์ภารทวาชโคตร เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว นั่งอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่ง
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะเขาว่า ดูกรภารทวาชะ ท่านกับมาคัณฑิยปริพาชก ปรารภ ถึงเครื่องลาดหญ้านี้ ได้เจรจาโต้ตอบกันอย่างไรบ้าง?
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว พราหมณ์ภารทวาชโคตร ตกใจ เกิดโลมชาติชูชัน (ขนลุก) ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าพเจ้าปรารถนา จะกราบทูลเรื่องนี้ แก่ท่านพระโคดม แต่ท่านพระโคดมตรัสเสียก่อน ที่ข้าพเจ้า ยังไม่ทันกราบทูล
ก็และเมื่อพระผู้มีพระภาค กับพราหมณ์ภารทวาชโคตรเจรจา กันยังค้างอยู่ ในระหว่างนี้. |