พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๔-๒๗
คาถาของเทวดาเรื่องทานและความตระหนี่ (มัจฉริสูตรที่ ๒)
[๘๖] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิตเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว พวกเทวดาสตุลลปกายิกา มากด้วยกัน มีวรรณงาม ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว จึงถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค แล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
[๘๗] เทวดาตนหนึ่ง ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวคาถานี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า เพราะความตระหนี่ และความประมาทอย่างนี้ บุคคลจึงให้ทานไม่ได้ บุคคลผู้หวังบุญ รู้แจ้งอยู่ พึงให้ทานได้
[๘๘] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวคาถาทั้งหลายนี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า
คนตระหนี่กลัวภัยใดย่อมให้ทานไม่ได้ ภัยนั้นนั่นแล ย่อมมี แก่คนตระหนี่ผู้ไม่ให้ทาน คนตระหนี่ ย่อมกลัวความหิวและความกระหายใด ความหิว และ ความกระหายนั้น ย่อมถูกต้องคน ตระหนี่นั้นนั่นแลผู้เป็นพาล ทั้งในโลกนี้ และ ในโลกหน้า ฉะนั้น บุคคลควรกำจัดความตระหนี่อันเป็นสนิมในใจ ให้ทานเถิด เพราะบุญทั้งหลาย ย่อมเป็นที่พึ่ง ของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า
[๘๙] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวคาถาทั้งหลายนี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า ชนทั้งหลายเหล่าใด เมื่อของมีน้อยก็แบ่งให้เหมือนพวกเดิน ทางไกลก็แบ่งของให้แก่พวกที่เดินทางร่วมกัน ชนทั้งหลายเหล่านั้น เมื่อบุคคลทั้งหลาย เหล่าอื่นตายแล้ว ก็ชื่อว่าย่อมไม่ตาย ธรรมนี้เป็นของบัณฑิต แต่ปางก่อน ชนพวกหนึ่ง เมื่อของมีน้อยก็แบ่งให้ ชนพวกหนึ่งมีของมากก็ไม่ให้ ทักษิณาที่ ให้แต่ของน้อย นับเสมอด้วยพัน
[๙๐] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวคาถาทั้งหลายนี้ ในสำนัก พระผู้มีพระภาคว่า ทาน พวกพาลชนเมื่อให้ ให้ได้ยาก กุศลธรรม พวกพาลชน เมื่อทำ ทำได้ยาก พวกอสัตบุรุษย่อมไม่ทำตาม ธรรมของสัตบุรุษ อันพวกอสัตบุรุษ ดำเนินตามได้แสนยาก เพราะ ฉะนั้น การไปจากโลกนี้ของพวกสัตบุรุษ และของพวก อสัตบุรุษ จึงต่างกัน พวกอสัตบุรุษย่อมไปสู่นรก พวกสัตบุรุษย่อมเป็น ผู้ดำเนินไปสู่สวรรค์
ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กราบทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค คำของใครหนอแลเป็นสุภาษิต
[๙๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า คำของพวกท่านทั้งหมด เป็นสุภาษิตโดยปริยาย ก็แต่พวกท่านจงฟังซึ่งคำของเราบ้าง บุคคลแม้ใด ย่อมประพฤติธรรม ประพฤติสะอาด เป็นผู้ เลี้ยงภริยา และเมื่อของมีน้อยก็ให้ได้ เมื่อบุรุษแสนหนึ่ง บูชาภิกษุพันหนึ่ง หรือบริจาคทรัพย์พันกหาปณะ การบูชาของ บุคคลเหล่านั้น ย่อมไม่ถึงส่วนร้อย ของบุคคลอย่างนั้น
[๙๒] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวกะพระผู้มีพระภาค ด้วยคาถาว่า การบูชาอันไพบูลย์ใหญ่โตนี้ ย่อมไม่เท่าถึงส่วนแห่งทานที่ บุคคลให้ด้วยความประพฤติ ธรรม เพราะเหตุอะไร เมื่อบุรุษ แสนหนึ่งบูชาภิกษุพันหนึ่ง หรือบริจาคทรัพย์ พันกหาปณะ การบูชาของบุรุษเหล่านั้น ย่อมไม่ถึงส่วนร้อยของบุคคลอย่างนั้น
[๙๓] ในลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสกะเทวดานั้นด้วยพระคาถาว่า บุคคลเหล่าหนึ่ง ตั้งอยู่ในกรรมปราศจากความสงบ (ปราศจากธรรม) โบยเขา ฆ่าเขา ทำให้เขาเศร้าโศกแล้วให้ทาน ทานนั้นจัดว่าทาน มีหน้าอันนองด้วยน้ำตา จัดว่าทาน เป็นไปกับ ด้วยอาชญา จึงย่อมไม่เท่าถึงส่วนแห่งทานที่ให้ด้วยความสงบ (ประพฤติธรรม) เมื่อบุรุษแสนหนึ่ง บูชาภิกษุพันหนึ่ง หรือ บริจาคทรัพย์พันกหาปณะ การบูชาของบุรุษเหล่านั้น ย่อมไม่ ถึงส่วนร้อยของบุคคลอย่างนั้น โดยนัยอย่างนี้
|