เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน(โคดม) เคยบวชกับพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสป 1697
  (ย่อ)

พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน (โคดม) ทรงเล่าย้อนอดีตให้พระอานนท์ว่า

ครั้งหนึ่ง ในสมัยพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่า "กัสสป" ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ว่าพระองค์ในขนะนั้น ชื่อ "โชติปาละ" เป็นสหายของช่างปั้นหม้อที่มีชื่อว่า "ฆฏิการะ"

ครั้งนั้น พระพุทธเจ้ากัสสป เสด็จมาอาศัยที่ เวภฬิคนิคม ช่างหม้อ ฆฏิการะ จึงชวนสหายโชติปาละ ไปเข้าเฝ้า กล่าวว่า "การได้เห็นพระพุทธเจ้านั้นเป็นความดี" แต่โชติปาละไม่ยอมไป "จะมีประโยชน์อะไรด้วยพระสมณะศีรษะโล้นนั้น ที่เราเห็นแล้วเล่า"

ช่างหม้อชวนถึง 3 ครั้งก็ไม่ยอมไป จึงจับโชติปาล ที่ชายพก (ชายผ้าเหน็บเอว) แล้วจับที่ผม ขณะอาบน้ำอยู่ในแม่น้ำ ครั้งนั้น โชติปาล มีความคิดว่า น่าอัศจรรย์หนอ ที่ฆฏิการะช่างหม้อ ผู้มีชาติตระกูลต่ำ มาจับที่ผมของเรา คงไม่ใช่เป็นเรื่องเล็กน้อยแน่ จึงกล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้น จงปล่อยเถิด เราจักไป"

จากนั้นทั้งสอง จึงได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค พระนามว่ากัสสป ช่างหม้อฆฏิการะ กราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ นี่โชติปาลมาณพ เป็นสหายที่รักของข้าพระพุทธเจ้า ขอพระผู้มีพระภาค โปรดทรง แสดงธรรม แก่โชติปาลมาณพ นี้เถิด"

พระผู้มีพระภาคพระนามว่า กัสสป ทรงยังฆฏิการะช่างหม้อ และโชติปาลมาณพ ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริง ด้วยธรรมีกถา

โชติปาล ได้ถามฆฏิการะช่างหม้อว่า ท่านจะออกจากเรือนบวช เป็นบรรพชิตหรือ ฆฏิการะ ตอบว่า
เราต้องเลี้ยงมารดาบิดา ซึ่งเป็นคนตาบอดผู้ชรา

โชติปาลจึงกล่าวกะเพื่อนฆฏิการะว่า "ถ้าเช่นนั้น เราจักออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต"ครั้งนั้น โชติปาลมาณพ ได้บรรพชาอุปสมบทแล้วในสำนัก พระผู้มีพระภาคพระนามว่า กัสสป

ครั้นเมื่อโชติปาลมาณพ อุปสมบทแล้ว ไม่นานประมาณกึ่งเดือน พระผู้มีพระภาคฯ กัสสป เสด็จหลีกจาริกไปทางพระนครพาราณสี เสด็จจาริกไปโดยลำดับ

หมายเหตุ พระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสป เป็นพระพุทธเจ้าลำดับที่ 3 ในภัททกัปนี้ สมัยนั้นเป็นยุค ที่มนุษยฺมีอายุ 20,000 ปี ดูตารางพระพุทธเจ้าย้อนไป91 กัป

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)

 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๓  สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๘-๒๙๗
(อ่านพระสูตรเต็ม)

พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน(โคดม) เคยบวชกับพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสป
(ฆฏิการสูตร)


            ดูกรอานนท์ เรื่องเคยมีมาแล้วในประเทศนี้มีนิคมชื่อเวภฬิคะ เป็นนิคมมั่งคั่ง และเจริญมีคนมาก มีมนุษย์หนาแน่น. ดูกรอานนท์ พระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอาศัย เวภฬิคนิคมอยู่ ได้ยินว่า ที่นี่เป็น พระอารามของพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า

       ได้ยินว่าพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาพุทธเจ้า ประทับนั่งตรัสสอนภิกษุสงฆ์ที่นี่. และในเวภฬิคนิคม มีช่างหม้อ ชื่อฆฏิการะ เป็น อุปัฏฐาก ของพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็น พระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า เป็นอุปัฏฐากผู้เลิศ. มีมาณพ ชื่อ โชติปาละ เป็นสหาย ของ ช่างหม้อชื่อ ฆฏิการะ เป็นสหายที่รัก. (สมณโคดมพระพุทธเจ้า ในกาลสมัยของ พระพุทธเจ้ากัสสป ก็คือ โชติปาละ ซึ่งเป็นสหายของช่างปั้นหมอที่ชื่อ ฆฏิการะ)

       ครั้งนั้น ฆฏิการะช่างหม้อ เรียกโชติปาลมาณพ มาว่า มาเถิดเพื่อนโชติปาละ เราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า เพราะว่าการที่เราได้เห็นพระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้านั้น สมมติกันว่าเป็นความดี.

             [๔๐๖] ดูกรอานนท์ เมื่อฆฏิการะช่างหม้อ กล่าวอย่างนี้แล้ว โชติปาล มาณพ ได้กล่าวว่าอย่าเลยเพื่อนฆฏิการะ จะมีประโยชน์อะไรด้วยพระสมณะศีรษะ โล้น นั้นที่เราเห็นแล้วเล่า? ดูกรอานนท์ แม้ครั้งที่สอง ฆฏิการะช่างหม้อ ก็ได้กล่าว กะ โชติปาลมาณพว่า มาเถิดเพื่อนโชติปาละ เราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มี พระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าการที่เรา ได้เห็น พระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สมมติกันว่าเป็นความดี.

       แม้ครั้งที่สอง โชติปาลมาณพ ก็ได้กล่าวว่า อย่าเลยเพื่อนฆฏิการะ จะมีประโยชน์อะไรด้วย พระสมณะศีรษะโล้นนั้น ที่เราเห็นแล้วเล่า? แม้ครั้งที่สาม ฆฏิการะช่างหม้อก็ได้กล่าวว่า มาเถิดเพื่อนโชติปาละ เราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มี พระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าการ ที่เราได้เห็นพระผู้มีพระภาคผู้เป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สมมติกันว่า เป็นความดี.

 
      ดูกรอานนท์ แม้ครั้งที่สาม โชติปาลมาณพก็กล่าวว่า อย่าเลยเพื่อนฆฏิการะ จะมีประโยชน์อะไรด้วยพระสมณะศีรษะโล้นนั้นที่เราเห็นแล้วเล่า?

     ฆ. เพื่อนโชติปาละ ถ้าอย่างนั้น เรามาถือเอาเครื่องสำหรับสีตัว เมื่อเวลาอาบน้ำ ไปแม่น้ำ เพื่ออาบน้ำกันเถิด โชติปาลมาณพรับคำ ฆฏิการะช่างหม้อแล้ว.

             [๔๐๗] ดูกรอานนท์ ลำดับนั้น ฆฏิการะช่างหม้อ และโชติปาลมาณพ ได้ถือเอาเครื่องสำหรับสีตัว เมื่อเวลาอาบน้ำไปยังแม่น้ำ เพื่ออาบน้ำ. ครั้งนั้นแล ฆฏิการะช่างหม้อ ได้เรียกโชติปาลมาณพ มากล่าวว่า เพื่อนโชติปาละ นี้ก็ไม่ไกล พระอารามของพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า มาเถิดเพื่อนโชติปาละ เราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าการที่เราได้เห็นพระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สมมติกันว่าเป็นความดี.

             [๔๐๘] ดูกรอานนท์ เมื่อฆฏิการะช่างหม้อกล่าวอย่างนี้แล้ว โชติปาล มาณพ ได้กล่าวกะ ฆฏิการะช่างหม้อว่า อย่าเลยเพื่อนฆฏิการะ จะมีประโยชน์อะไร ด้วยพระสมณะศีรษะโล้นนั้น ที่เราเห็นแล้วเล่า? แม้ครั้งที่สอง  ...  แม้ครั้งที่สาม ฆฏิการะช่างหม้อ ก็ได้เรียกโชติปาลมาณพ มากล่าวว่า เพื่อนโชติปาละ นี้ไม่ไกล พระอารามของพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า

         มาเถิดเพื่อนโชติปาละ เราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคทรงพระนาม ว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าการที่เราได้เห็นพระผู้มีพระภาค ผู้เป็น พระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า สมมติกันว่าเป็นความดี. แม้ครั้งที่สาม โชติปาลมาณพ ก็ได้กล่าวกะฆฏิการะช่างหม้อว่า อย่าเลยเพื่อนฆฏิการะ จะมีประโยชน์อะไร ด้วย พระสมณะศีรษะโล้นนั้น ที่เราเห็นแล้วเล่า?

             [๔๐๙] ดูกรอานนท์ ลำดับนั้น ฆฏิการะช่างหม้อ ได้จับโชติปาล มาณพ ที่ชายพก แล้วกล่าวว่า เพื่อนโชติปาละ นี้ก็ไม่ไกลพระอารามของพระผู้มี พระภาค ทรงพระนามว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า มาเถิดเพื่อน โชติปาละ เราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าการที่เราได้เห็นพระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันต สัมมา สัมพุทธเจ้านั้น สมมติกันว่าเป็นความดี.

        ลำดับนั้น โชติปาลมาณพให้ ฆฏิการะ ช่างหม้อปล่อยชายพก แล้วกล่าวว่า อย่าเลยเพื่อนฆฏิการะ จะมีประโยชน์ อะไร ด้วยพระสมณะศีรษะโล้นนั้น ที่เราเห็นแล้วเล่า?

             ดูกรอานนท์ ลำดับนั้น ฆฏิการะช่างหม้อจับโชติปาละ ผู้อาบน้ำดำเกล้า ที่ผมแล้วกล่าวว่า เพื่อนโชติปาละ นี้ไม่ไกลพระอารามของพระผู้มีพระภาค ทรง พระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า มาเถิดเพื่อนโชติปาละ เราจัก เข้าไปเฝ้าพระมีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าการที่เราได้เห็นพระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สมมติกันว่าเป็นความดี.

       ครั้งนั้น โชติปาลมาณพ มีความคิดว่า น่าอัศจรรย์หนอท่าน ไม่เคยมีมา หนอ ท่าน ที่ฆฏิการะช่างหม้อผู้มีชาติต่ำ มาจับที่ผมของเราผู้อาบน้ำ ดำเกล้าแล้ว การ ที่เราจะไปนี้ เห็นจะไม่เป็นการไปเล็กน้อยหนอ ดังนี้แล้ว ได้กล่าวกะ ฆฏิการะ ช่างหม้อว่า เพื่อนฆฏิการะ การที่เพื่อนทำความพยายามตั้งแต่ชักชวนด้วยวาจา จับที่ชายพก จนล่วงเลยถึงจับที่ผมนั้น ก็เพื่อจะชวนให้กันไปในสำนักพระผู้มี พระภาค ทรงพระนามว่า กัสสปผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เท่านั้นเอง หรือ?

      ฆ. เท่านั้นเองเพื่อนโชติปาละ จริงเช่นนั้นเพื่อน ก็การที่เราได้เห็นพระผู้มี พระภาค ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นความดี.

             โช. เพื่อนฆฏิการะ ถ้าอย่างนั้น จงปล่อยเถิด เราจักไป

             [๔๑๐] ดูกรอานนท์ ครั้งนั้น ฆฏิการะช่างหม้อ และโชติปาลมาณพ ได้เข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า ถึงที่ประทับ แล้วฆฏิการะช่างหม้อถวายอภิวาท พระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วน ข้างหนึ่ง. ส่วนโชติปาลมาณพ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

       ฆฏิการะช่างหม้อนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ นี่โชติปาลมาณพ เป็นสหายที่รักของข้าพระพุทธเจ้า ขอพระผู้มี พระภาค โปรดทรง แสดงธรรม แก่โชติปาลมาณพ นี้เถิด

             [๔๑๑] ดูกรอานนท์ ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงยังฆฏิการะช่างหม้อ และโชติปาลมาณพ ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทานให้อาจหาญ ให้ร่าเริงด้วยธรรมีกถา

        ลำดับนั้น ฆฏิการะ ช่างหม้อ และโชติปาลมาณพ อันพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญให้ร่าเริงด้วยธรรมีกถา เพลิดเพลินชื่นชม พระภาษิตของพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วลุกจากอาสนะ ถวาย อภิวาทพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า ทำประทักษิณ แล้ว หลีกไป

             [๔๑๒] ดูกรอานนท์ ครั้งนั้น โชติปาลมาณพ ได้ถามฆฏิการะ ช่างหม้อว่า เพื่อนฆฏิการะเมื่อท่านฟังธรรมนี้อยู่ และเมื่อเช่นนั้น ท่านจะออกจากเรือนบวช เป็นบรรพชิต หรือหนอ?

       ฆ. เพื่อนโชติปาละ ท่านก็รู้อยู่ว่า เราต้องเลี้ยงมารดาบิดา ซึ่งเป็นคนตาบอด ผู้ชรา แล้วมิใช่หรือ?

       โช. เพื่อนฆฏิการะ ถ้าเช่นนั้น เราจักออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต.

             [๔๑๓] ดูกรอานนท์ ครั้งนั้น ฆฏิการะช่างหม้อ และโชติปาลมาณพ ได้ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

       ฆฏิการะช่างหม้อได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นี่โชติปาลมาณพ เป็น สหายที่รักของข้าพระพุทธเจ้า ขอพระผู้มีพระภาคทรงให้โชติปาลมาณพ นี้ บวชเถิด ดังนี้โชติปาลมาณพ ได้บรรพชาอุปสมบทแล้วในสำนัก พระผู้มีพระภาค ทรงพระนาม ว่า กัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า.

       ครั้นเมื่อโชติปาลมาณพ อุปสมบทแล้ว ไม่นานประมาณกึ่งเดือน พระผู้มีพระภาค ทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับอยู่ ในเวภฬิคนิคมตาม ควรแก่พระพุทธาภิรมย์แล้ว เสด็จหลีกจาริกไปทาง พระนคร พาราณสี เสด็จจาริกไปโดยลำดับ ถึงพระนครพาราณสี แล้ว

 


 





พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์