เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  ตาราง พระพุทธเจ้าในอดีต ย้อนไป 91 กัป (รวม 7 พระองค์) 339  
 

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค (อ่านพระสูตรเต็ม)

กัป
ที่ย้อนไป
ชื่อ
พระพุทธเจ้า
ราชสกุล

โคตร หรือตระกูล
ประมาณ
ช่วงพระ
ชนมายุ

โคนไม้
ที่ตรัสรู้
ชื่อ
อัครสาวก
เบื้องขวา-ซ้าย
จำนวนภิกษุ(รูป)
ที่มาประชุม
โอวาทะปาติโมกข์

อุปัฏฐาก
พระบิดา พระมารดา
และราชธานี
ของพระบิดา
ย้อนไป
91 กัป
องค์ที่ 1
วิปัสสี ขัตติยะ โกณฑัญญ ๘๐,๐๐๐ ปี ไม้แคฝอย พระขัณฑะ
และ
พระติสสะ
 ครั้งที่1.. 6.8 ล้าน
 ครั้งที่2.. 1 แสน
 ครั้งที่3.. 8 หมื่น
อโสกะ  พันธุมา (พระบิดา)
 พันธุมดี (มารดา)
 พันธุมดี (นคร)
ย้อนไป
31 กัป
องค์ที่ 2
สิขี ขัตติยะ โกณฑัญญ ๗๐,๐๐๐ ปี ไม้กุ่มบก พระอภิภู
และ
พระสัมภวะ
 ครั้งที่1.. 1 แสน
 ครั้งที่2.. 8 หมื่น
 ครั้งที่3.. 7 หมื่น
เขมังกระ  อรุณะ
 ปภาวดี
 นครอรุณวดี
ในกัปที่ 31
องค์ที่ 3

เวสสภู ขัตติยะ โกณฑัญญ ๖๐,๐๐๐ ปี ไม้สาละ พระโสนะ
และ
พระอุตตระ
 ครั้งที่1.. 8 หมื่น
 ครั้งที่2.. 7 หมื่น
 ครั้งที่3.. 6 หมื่น
อุปสันตะ  สุปปตีตะ
 ยสวดี
 นครอโนมะ
กัปปัจจุบัน
(ภัททกัป)
องค์ที่ 4
กกุสันธะ พราหมณ์ กัสสป ๔๐,๐๐๐ ปี ไม้ซึก พระวิธูระ
และ
พระสัญชีวะ
ประชุม
ครั้งเดียว
4 หมื่น
วุฑฒิชะ  อัคคิทัตตะ
 วิสาขา
 เขมวดี (นครของ
 พระเจ้าเขมะ)
องค์ที่ 5 โกนาคมนะ พราหมณ์ กัสสป ๓๐,๐๐๐ ปี ไม้มะเดื่อ พระภิยโยสะ
และ
พระอุตตระ
ประชุม
ครั้งเดียว
3 หมื่น
โสตถิชะ  ยัญญทัตตะ
 อุตตรา
 โสภวดี (นครของ
 พระเจ้าโสภะ)
องค์ที่ 6 กัสสปะ ขัตติยะ กัสสป ๒๐,๐๐๐ ปี ไม้ไทร พระติสสะ
และ
พระภารทวาชะ
ประชุม
ครั้งเดียว
2 หมื่น
สัพพมิตตะ  พรหมทัตตะ
 ธนวดี พาราณสี
 (นครของ
 พระเจ้ากิงกี
องค์ที่ 7 เราตถาคต ขัตติยะ โคตม ๑๐๐ ปี ไม้โพธิ์ สารีบุตร และ โมคคัลลานะ ประชุม
ครั้งเดียว
1250 รูป
อานนท์  สุทโธทนะ
 มายา
 นครกบิลพัสดุ์
กัปปัจจุบัน
(ภัททกัป)
พระเมตไตรย พระพุทธเจ้าในอนาคต ๘๐,๐๐๐ ปี พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป ในอีกหลายล้านปีข้างหน้า หรือในยุคที่มนุษย์
มีอายุ 80,000 ปี
มนุษย์ยุคปัจจุบัน มีอายุโดยเฉลี่ยที่ 100 ปี และจะลดลงเรื่อยๆจนถึง 10 ปี หญิง-ชาย จะแต่งงานเมื่ออายุ 5 ปี ช่วงนี้จะกลียุคของมนุษย์
ศีลธรรมเสื่อมถึงขีดสุด มนุษย์โลกจะฆ่ากันตายตลอดทั้ง7 วัน คนดีจะหนีไปอยู่ที่ปลอดภัย จากนั้นจะออกมายินดี สวมกวดกัน
ตกลงกันว่าจะประพฤติดี จากนั้นมนุษย์ก็มีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 80,000 ปี พระเมตไตรย จึงอุบัติขึ้น อ่านพระสูตรนี้
ตารางนี้ คัดย่อจากพระสูตรเต็ม (มหาปทานสูตร) หน้า335
 
พระพุทธเจ้าในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต


1. วิปัสสี (กัปที่91) ยุคมนุษย์อายุ 80,000 ปี
2. สิขี (กัปที่31) ยุคมนุษย์อายุ 70,000 ปี
3. เวสสภู(กัปที่31) ยุคมนุษย์อายุ 60,000 ปี
4. กกุสันธะ(กัปปัจจุบัน) ยุคมนุษย์อายุ 40,000 ปี
5. โกนาคมนะ (กัปปัจจุบัน)ยุคมนุษย์อายุ 30,000 ปี
6. กัสสปะ (กัปปัจจุบัน)ยุคมนุษย์อายุ 20,000 ปี
7. โคดม (กัปปัจจุบัน/สิทธัตถะ) ยุคมนุษย์อายุ 100 ปี
8. เมตไตรย (กัปปัจจุบัน/จะเกิดในอนาคต) ยุคมนุษย์อายุ 80,000 ปี)

กัปที่ว่างเปล่า
(กัปที่ 32 - 90 เป็นกัปที่ว่างจากพระพุทธเจ้า แต่มนุษย์โลก และระบบสังสารวัฏยังมีอยู่ตามปกติ)
คำว่ากัป ใช้แทนคำว่าโลกธาตุ การเปลี่ยนกัปใหม่ (มีเกิดมีดับ) คือการล่มสลายของโลกธาตุ
จะมีดวงอาทิตย์ดวงที่ 7 ปรากฎ จากนั้นจึงเข้าสู่กัปใหม่ หรือโลกธาตุใหม่ ระบบโลกธาตุ จึงเหมือน
เริ่มศักราชใหม่ (รีเซ็ตตนเอง) วนเวียนอยู่เช่นนี้มาช้านาน

กัปปัจจุบัน เรียกว่า ภัททกัป (มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์)
กกุกสันธะ โกนาคมนะ กัสสปะ โคดม เมตไตรย


กัปที่ล่วงไปแล้ว มีมากน้อยเท่าใด
กัปทั้งหลายที่ผ่านไปแล้ว ล่วงไปแล้ว มากกว่าเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา (คงคาสูตร)

---------------------------------------------------------------------------------------------

1 กัป นานแค่ไหน (อุปมา1)
ภูเขาหินลูกใหญ่ ยาวโยชน์หนึ่ง กว้างโยชน์ สูงโยชน์ ไม่มีช่อง ไม่มีโพรงเป็นแท่งทึบ บุรุษพึงเอาผ้า แคว้น กาสี มาปัดภูเขานั้น ๑๐๐ ปี ต่อครั้ง ภูเขาหินลูกใหญ่นั้น พึงถึงการหมดไปสิ้นไป กัปหนึ่งก็ยังไม่หมดไป สิ้นไป (ปัพพตสูตร) 

1 กัป นานแค่ไหน (อุปมา2)
นครที่ทำด้วยเหล็ก ยาวโยชน์ ๑ กว้างโยชน์ ๑ สูงโยชน์ ๑ เต็มด้วยเมล็ด พันธุ์ผักกาด บุรุษพึงหยิบเอา เมล็ดพันธุ์ผักกาดออก 1 เมล็ด ทุกร้อยปี เมล็ดพันธุ์ผักกาด กองใหญ่นั้นพึงถึงความสิ้นไป กัปหนึ่งก็ยังไม่หมดไป สิ้นไป (สาสปสูตร)
---------------------------------------------------------------------------------------------

ความยาก 3 สิ่งที่เสมอกัน
1 การเกิดของตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธ
2 การได้อัตภาพเป็นมนุษย์
3 การที่ศาสนาแผ่ไพศาลไปทั่วโลก
---------------------------------------------------------------------------------------------

โลกธาตุหนึ่ง มีพระพุทธเจ้าเพียงองค์เดียว (จะไม่เกิดขึ้น 2 พระองค์)
อานนท์ ! ภิกษุผู้ฉลาดในฐานะ และอฐานะนั้น ย่อมรู้ว่าข้อนี้มิใช่ฐานะ ข้อนี้มิใช่โอกาสที่จะมี คือข้อที่ในโลกธาตุอันเดียว จะมีพระตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ สององค์เกิดขึ้นพร้อมกัน ไม่ก่อนไม่หลังกัน. นั่นมิใช่ฐานะที่จะมีได้.

ส่วนฐานะ อันมีได้นั้น คือข้อที่ในโลกธาตุอันเดียวมีพระตถาคตผู้อรหันต สัมมาสัมพุทธะ องค์เดียวเกิดขึ้น. นั่นเป็นฐานะที่จะมีได้.
---------------------------------------------------------------------------------------------

การปรากฏของพระตถาคต มีได้ยากในโลก (ยากพอๆกับสัตว์ ที่จะเกิดเป็นมนุษย์)
ภิกษุ ท. ! การมาปรากฏของ บุคคลเอก (ไม่มีใครซ้ำสอง) มีได้ยากในโลก. ใครเล่า เป็น บุคคลเอก ? ตถาคต ผู้เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ ชอบเอง เป็นบุคคลเอก ภิกษุ ท. ! การมาปรากฏ ของบุคคลเอกนี้แล มีได้ยากในโลก.
---------------------------------------------------------------------------------------------

อุปมาการเกิดของมนุษย์ เต่าตาบอดกับแอกไม้ไผ่
(การเกิดของมนุษย์ และการเกิดของอรหันตสัมมาสัมพุทธะนั้นยากพอๆกัน)

ภิกษุ ทั้งหลาย. ! ถ้าสมมติว่า มหาปฐพีอันใหญ่หลวงนี้ มีน้ำท่วมถึง เป็นอันเดียว กันทั้งหมด บุรุษคนหนึ่ง ทิ้งแอก(ไม้ไผ่) ซึ่งมีรูเจาะได้เพียงรูเดียว ลงไปในน้ำนั้น ลมตะวันออกพัดให้ลอย ไป ทางทิศตะวันตก ลมตะวันตกพัดให้ลอยไป ทางทิศตะวันออก ลมทิศเหนือพัดให้ลอยไป ทางทิศใต้ ลมทิศใต้พัดให้ลอยไป ทางทิศเหนือ อยู่ดังนี้ 

ในน้ำนั้น มีเต่าตัวหนึ่ง ตาบอด ล่วงไปร้อยๆ ปี มันจะผุดขึ้นมา ครั้งหนึ่งๆ...จะเป็นไปได้ไหม ที่เต่าตาบอด ร้อยปีจึงจะผุดขึ้นสักครั้งหนึ่ง จะพึงยื่นคอเข้าไปในรู ซึ่งมีอยู่เพียงรูเดียวใน แอกนั้น


การบังเกิดขึ้นของตถาคต
-การบังเกิดขึ้นของตถาคต คือความปรากฏขึ้นแห่งแสงสว่าง
-ธรรมชาติ ๓ อย่าง ทำให้ พระองค์เกิดขึ้นเป็นประทีปของโลก คือ ชาติ ชรา มรณะ
-การมีธรรมของพระตถาคต อยู่ในโลก คือความสุขของโลก
-พระตถาคตเกิดขึ้น เพื่อความสุขของโลก
-ผู้เชื่อฟังพระตถาคต จะได้รับประโยชน์สุขสิ้นกาลนาน
-การบังเกิดขึ้นของตถาคต ไม่ได้กระทบต่อกฎของธรรมชาติ
---------------------------------------------------------------------------------------------

คำว่าตถาคต

ทรงขนานนามพระองค์เองว่า “ตถาคต”  ตถาคตเป็นพระอรหันต์ ผู้ตรัสรู้ชอบเอง เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นครูของเทวดา และมนุษย์ ทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก หมู่สัตว์ ตถาคตนั้นแสดงธรรมไพเราะ ในเบื้องต้น ในท่ามกลาง ในที่สุดพร้อมทั้งอรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ ประกาศพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง

เหตุที่ทำให้ทรงพระนามว่า “ตถาคต”
1) ตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะแล้วซึ่งอายตนะ เพราะเหตุนั้น จึงได้นามว่า “ตถาคต”
2) ในราตรีที่ได้ตรัสรู้ จนถึงราตรีที่ปรินิพพาน ในระหว่างนั้น ตถาคตได้กล่าวสอน พร่ำสอน แสดงออกซึ่งคำใด คำนั้นทั้งหมด ย่อมมีโดยประการเดียวกันทั้งสิ้น ไม่แปลกกันโดยประการ อื่น เพราะเหตุนั้น จึงได้นามว่า “ตถาคต”
3) ตถาคตเป็นผู้เป็นยิ่ง ไม่มีใครครอบงำ เป็นผู้เห็นสิ่งทั้งปวงโดยเด็ดขาด เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด (โดยธรรม)แต่ผู้เดียว เพราะเหตุนั้น จึงได้นามว่า “ตถาคต”

คำที่ใช้เรียก ว่า  “ตถาคต”
คำว่า ธรรมกาย  พรหมกาย  ธรรมภูต  พรหมภูต  สมณะ  พราหมณ์ (ผู้ประเสริฐ) เวทคู (ผู้จบเวท) ภิสักโก (หมอผ่าตัด) นิมมโล (ไม่มลทิน) ญาณี (ผู้มีญาณ) วิมุตโต (หลุดพ้น) คำเหล่านี้เป็นคำสำหรับเรียกแทนชื่อตถาคต
---------------------------------------------------------------------------------------------


คำว่า “พุทธะ”
ทรงขนานนามพระองค์เองว่า “พุทธะ” พราหมณ์ ! เรานี้เกิดในโลก เจริญในโลก ก็จริง แต่เราครอบงำโลกเสียได้แล้ว และอยู่ในโลก โลกไม่ฉาบทาแปดเปื้อนเราได้. พราหมณ์ ! ท่านจงจำเราไว้ว่า เป็น “พุทธะ” ดังนี้เถิด
---------------------------------------------------------------------------------------------

คำว่า “อรหันตสัมมาสัมพุทธะ”
เหตุที่ทำให้ได้พระนามว่า “อรหันตสัมมาสัมพุทธะ” ตถาคตได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริงซึ่งความจริงอันประเสริฐ ๔ อย่าง (อริยสัจสี่) เหล่านี้แล ตถาคตจึงมีนามว่า “อรหันตสัมมาสัมพุทธะ”

   
 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์