พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๓๙
๙. อุทปานสูตร
[๑๕๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค เสด็จจาริกไปในมัลลชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ได้เสด็จถึง พราหมณคามชื่อถูนะ ของมัลลกษัตริย์ทั้งหลาย พราหมณ์และคฤหบดี ชาวถูนคาม ได้สดับข่าวว่า แนะท่านผู้เจริญทั้งหลาย พระสมณโคดมศากยบุตร เสด็จออกบวชจากศากยตระกูล เสด็จจาริกไปในมัลลชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ หมู่ใหญ่ เสด็จถึงถูนพราหมณคามโดยลำดับ พราหมณ์ และคฤหบดีทั้งหลาย เอาหญ้าและแกลบ ถมบ่อน้ำจนเต็มถึงปากบ่อ ด้วยตั้งใจว่า สมณะโล้นทั้งหลาย อย่าได้ดื่มน้ำ
[๑๕๖] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงแวะออกจากทางแล้ว เสด็จเข้าไปยัง โคนต้นไม้ต้นหนึ่ง ประทับนั่งบนอาสนะที่ท่านพระอานนท์จัดถวาย ครั้นแล้ว ตรัสกะ ท่านพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์ เร็วเถิด เธอจงไปนำน้ำมาจากบ่อนั่นเพื่อเรา เมื่อพระผู้มีพระภาค ตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระอานนท์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ บ่อน้ำนั้นพวกพราหมณ์ และคฤหบดีชาวถูนคาม เอาหญ้า และ แกลบถมจนเต็มถึงปากบ่อ ด้วยตั้งใจว่า สมณะโล้นทั้งหลายอย่าได้ดื่มน้ำ พระเจ้าข้า ฯ
แม้ครั้งที่ ๒ ... ฯ
แม้ครั้งที่ ๓ พระผู้มีพระภาคตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์เร็วเถิด เธอจงไปนำน้ำมาจากบ่อนั้นเพื่อเรา ท่านพระอานนท์ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ถือบาตรเดินเข้าไปยังบ่อน้ำนั้น ลำดับนั้นแล เมื่อท่านพระอานนท์เดินเข้าไป บ่อน้ำล้นขึ้น พาเอาหญ้า และแกลบทั้งหมดนั้น ออกไปจากปากบ่อ เต็มไปด้วย น้ำใสแจ๋ว ไม่ขุ่นมัว จนถึงปากบ่อ ดุจไหลไปขังอยู่ ลำดับนั้นแล ท่านพระอานนท์ ดำริว่า
ท่านผู้เจริญ น่าอัศจรรย์หนอ ท่านผู้เจริญ ไม่เคยมีมาหนอความที่พระตถาคต ทรงมีฤทธิ์มีอานุภาพมาก เมื่อเราเดินเข้าไป บ่อน้ำนั้นแลล้นขึ้น พาเอาหญ้าและแกลบ ทั้งหมดนั้น ออกไปจากปากบ่อ เต็มไปด้วยน้ำใสแจ๋ว ไม่ขุ่นมัวจนถึงปากบ่อ ดุจไหลไปขังอยู่ ท่านพระอานนท์เอาบาตรตักน้ำแล้วเข้าไปถวายพระผู้มีพระภาค
ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญน่าอัศจรรย์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไม่เคยมีมา ความที่พระตถาคตทรงมีฤทธิ์มีอานุภาพมาก เมื่อข้าพระองค์เดินเข้าไป บ่อน้ำนั้นแลล้นขึ้น พาเอาหญ้าและแกลบทั้งหมดนั้น ออกไปจากปากบ่อ เต็มไปด้วยน้ำใสแจ๋ว ไม่ขุ่นมัว จนถึงปากบ่อ ดุจไหลไปขังอยู่ ขอพระผู้มีพระภาคทรงดื่มน้ำเถิด ขอพระสุคตจงทรงดื่มน้ำเถิด ฯ
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ทรงเปล่งอุทานนี้ ในเวลานั้นว่าถ้าว่า น้ำพึงมีในกาลทุกเมื่อไซร้ บุคคลจะพึงกระทำประโยชน์อะไร ด้วยบ่อน้ำ พระพุทธเจ้าตัดรากแห่งตัณหาได้แล้ว จะพึงเที่ยวแสวงหาน้ำ เพราะเหตุอะไร ฯ
|