พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้า ๗๒-๗๓
สุปปวาสสูตร
[๕๗] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ในนิคม ของโกลิยราชสกุล ชื่อปัชชเนละ แคว้นโกฬิยะ ครั้งนั้นแล เวลาเช้า พระผู้มีพระภาค ทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตร และจีวร เสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของ โกลิยธิดา ชื่อสุปปวาสา ครั้นแล้ว ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ ครั้งนั้นแล โกลิยธิดาชื่อสุปปวาสา ได้อังคาส พระผู้มีพระภาค ด้วยของเคี้ยวของฉันอันประณีต ด้วยมือของตน ให้อิ่มหนำเพียงพอแล้ว ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสวยเสร็จ นำพระหัตถ์ออกจากบาตรแล้วจึงนั่ง ณ ที่ควร ส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรนางสุปปวาสา อริยสาวิกาผู้ให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ แก่ปฏิคาหก ฐานะ ๔ เป็นไฉนคือ ให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ครั้นให้อายุแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งอายุอันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้วรรณะ แล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งวรรณะ อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้สุขแล้ว ย่อม เป็นผู้มีส่วนแห่งสุข อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้พละแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วน แห่งพละ อันเป็นทิพย์หรือเป็นของมนุษย์
ดูกรนางสุปปวาสา อริยสาวิกา เมื่อให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการนี้แก่ปฏิคาหก
อริยสาวิกา ย่อมให้โภชนะที่ปรุงแล้ว สะอาดประณีต สมบูรณ์ด้วยรส ทักษิณา นั้น อันบุคคลให้แล้ว ในท่านผู้ดำเนิน ไปตรง ผู้ประกอบด้วยจรณะ ผู้ถึงความเป็นใหญ่ สืบต่อ บุญกับบุญ เป็นทักษิณามีผลมาก อันพระพุทธเจ้า ผู้รู้แจ้งโลก สรรเสริญแล้ว ชนเหล่าใดเมื่อระลึกถึงยัญเช่นนั้น ย่อม เป็นผู้มีความโสมนัส เที่ยวไปในโลก กำจัด มลทิน คือความ ตระหนี่พร้อมทั้งรากเหง้าออกแล้ว ชนเหล่านั้นไม่ถูกนินทา ย่อมเข้าถึง ฐานะคือสวรรค์
จบสูตรที่ ๗
---------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้า ๗๓-๗๔
สุทัตตสูตร
[๕๘] ครั้งนั้นแล อนาถบิณฑิกคฤหบดี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรคฤหบดี อริยสาวกผู้ให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการแก่ปฏิคาหก
ฐานะ ๔ ประการเป็นไฉน คือ ให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ครั้นให้อายุแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งอายุ อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้วรรณะแล้ว ... ครั้นให้สุขแล้ว ... ครั้นให้พละแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งพละ อันเป็นทิพย์ หรือเป็น ของมนุษย์
ดูกรคฤหบดี อริยสาวกเมื่อให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการนี้แก่ ปฏิคาหก
ผู้ใดย่อมให้โภชนะโดยเคารพ ตามกาลอันควร แก่ท่านผู้ สำรวม บริโภคโภชนะ ที่ผู้อื่นให้เป็นอยู่ ผู้นั้นชื่อว่าให้ฐานะ ทั้ง ๔ คือ อายุ วรรณะ สุขะ และพละ นรชนผู้มี ปรกติ ให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มีบริวารยศ ในที่ที่ตนเกิดแล้ว
จบสูตรที่ ๘
---------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้า ๗๔
โภชนสูตร
[๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทายกผู้ให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการ แก่ปฏิคาหก ๔ ประการเป็นไฉน คือให้อายุ วรรณะ สุขะ พละครั้นให้อายุแล้ว ย่อมเป็นผู้ มีส่วนแห่งอายุอันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้วรรณะแล้ว ... ครั้นให้สุขะแล้ว ... ครั้นให้พละแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งพละ อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทายกผู้ให้โภชนะชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการนี้แก่ ปฏิคาหก
ผู้ใดย่อมให้โภชนะ ตามกาล อันควร โดยเคารพ แก่ปฏิคาหก ผู้สำรวมแล้ว ผู้บริโภคโภชนะ ที่ผู้อื่นให้เป็นอยู่ ผู้นั้นชื่อว่า ย่อมให้ฐานะ ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ และพละ นรชนผู้มีปรกติให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเป็นผู้ มีอายุยืน มีบริวารยศ ในที่ที่ตนเกิดแล้ว
จบสูตรที่ ๙
---------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้า ๗๕
คิหิสามีจิสูตร
[๖๐] ครั้งนั้นแล อนาถบิณฑิกคฤหบดี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาค ได้ตรัสว่า ดูกรคฤหบดี อริยสาวก ผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติปฏิปทา สมควรแก่คฤหัสถ์ อันเป็นเหตุให้ได้ยศ และเป็นไปเพื่อเกิดในสวรรค์
ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้บำรุงภิกษุสงฆ์ ด้วยจีวร ๑ ด้วยบิณฑบาต ๑ ด้วยเสนาสนะ ๑ ด้วยเภสัชบริขาร อันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ ๑ ดูกรคฤหบดี อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติปฏิปทา อันสมควรแก่คฤหัสถ์ อันเป็นเหตุให้ได้ยศ และเป็นไปเพื่อสวรรค์
บัณฑิตทั้งหลาย บำรุงท่านผู้มีศีล ผู้ดำเนินไปโดยชอบ ด้วย จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและเภสัช อันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ ชื่อว่าย่อมปฏิบัติปฏิปทา สมควรแก่คฤหัสถ์ บุญย่อมเจริญ แก่เขาทุกเมื่อ ทั้งกลางวันและกลางคืน เขาทำกรรมอัน เจริญแล้ว ย่อมเขาถึงฐานะคือสวรรค์
จบสูตรที่ ๑๐ |