เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ปุญญาภิสันทวรรคที่ ๑ สุปปวาสสูตร สุทัตตสูตร โภชนสูตร คิหิสามีจิสูตร 1952
 



สุปปวาสสูตร
ดูกรนางสุปปวาสา อริยสาวิกาผู้ให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ แก่ปฏิคาหก ฐานะ ๔ เป็นไฉนคือ
ให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ครั้นให้อายุแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งอายุอันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์
ครั้นให้วรรณะ แล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งวรรณะ อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์
ครั้นให้สุขแล้ว ย่อม เป็นผู้มีส่วนแห่งสุข อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์
ครั้นให้พละแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วน แห่งพละ อันเป็นทิพย์หรือเป็นของมนุษย์

สุทัตตสูตร

โภชนสูตร

คิหิสามีจิสูตร

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้า ๗๒-๗๓

สุปปวาสสูตร

             [๕๗] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ในนิคม ของโกลิยราชสกุล ชื่อปัชชเนละ แคว้นโกฬิยะ ครั้งนั้นแล เวลาเช้า พระผู้มีพระภาค ทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตร และจีวร เสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของ โกลิยธิดา ชื่อสุปปวาสา ครั้นแล้ว ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ ครั้งนั้นแล โกลิยธิดาชื่อสุปปวาสา ได้อังคาส พระผู้มีพระภาค ด้วยของเคี้ยวของฉันอันประณีต ด้วยมือของตน ให้อิ่มหนำเพียงพอแล้ว ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสวยเสร็จ นำพระหัตถ์ออกจากบาตรแล้วจึงนั่ง ณ ที่ควร ส่วนข้างหนึ่ง

             ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรนางสุปปวาสา อริยสาวิกาผู้ให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ แก่ปฏิคาหก ฐานะ ๔ เป็นไฉนคือ ให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ครั้นให้อายุแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งอายุอันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้วรรณะ แล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งวรรณะ อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้สุขแล้ว ย่อม เป็นผู้มีส่วนแห่งสุข อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้พละแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วน แห่งพละ อันเป็นทิพย์หรือเป็นของมนุษย์

             ดูกรนางสุปปวาสา อริยสาวิกา เมื่อให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการนี้แก่ปฏิคาหก

             อริยสาวิกา ย่อมให้โภชนะที่ปรุงแล้ว สะอาดประณีต สมบูรณ์ด้วยรส ทักษิณา นั้น อันบุคคลให้แล้ว ในท่านผู้ดำเนิน ไปตรง ผู้ประกอบด้วยจรณะ ผู้ถึงความเป็นใหญ่ สืบต่อ บุญกับบุญ เป็นทักษิณามีผลมาก อันพระพุทธเจ้า ผู้รู้แจ้งโลก สรรเสริญแล้ว ชนเหล่าใดเมื่อระลึกถึงยัญเช่นนั้น ย่อม เป็นผู้มีความโสมนัส เที่ยวไปในโลก กำจัด มลทิน คือความ ตระหนี่พร้อมทั้งรากเหง้าออกแล้ว ชนเหล่านั้นไม่ถูกนินทา ย่อมเข้าถึง ฐานะคือสวรรค์

จบสูตรที่ ๗

---------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้า ๗๓-๗๔

สุทัตตสูตร


            [๕๘] ครั้งนั้นแล อนาถบิณฑิกคฤหบดี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรคฤหบดี อริยสาวกผู้ให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการแก่ปฏิคาหก

             ฐานะ ๔ ประการเป็นไฉน คือ ให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ครั้นให้อายุแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งอายุ อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้วรรณะแล้ว ... ครั้นให้สุขแล้ว ... ครั้นให้พละแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งพละ อันเป็นทิพย์ หรือเป็น ของมนุษย์

             ดูกรคฤหบดี อริยสาวกเมื่อให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการนี้แก่ ปฏิคาหก

            ผู้ใดย่อมให้โภชนะโดยเคารพ ตามกาลอันควร แก่ท่านผู้ สำรวม บริโภคโภชนะ ที่ผู้อื่นให้เป็นอยู่ ผู้นั้นชื่อว่าให้ฐานะ ทั้ง ๔ คือ อายุ วรรณะ สุขะ และพละ นรชนผู้มี ปรกติ ให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มีบริวารยศ ในที่ที่ตนเกิดแล้ว

จบสูตรที่ ๘

---------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้า ๗๔

โภชนสูตร

            [๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทายกผู้ให้โภชนะ ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการ แก่ปฏิคาหก ๔ ประการเป็นไฉน คือให้อายุ วรรณะ สุขะ พละครั้นให้อายุแล้ว ย่อมเป็นผู้ มีส่วนแห่งอายุอันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้วรรณะแล้ว ... ครั้นให้สุขะแล้ว ... ครั้นให้พละแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งพละ อันเป็นทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทายกผู้ให้โภชนะชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ ประการนี้แก่ ปฏิคาหก

            ผู้ใดย่อมให้โภชนะ ตามกาล อันควร โดยเคารพ แก่ปฏิคาหก ผู้สำรวมแล้ว ผู้บริโภคโภชนะ ที่ผู้อื่นให้เป็นอยู่ ผู้นั้นชื่อว่า ย่อมให้ฐานะ ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ และพละ นรชนผู้มีปรกติให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเป็นผู้ มีอายุยืน มีบริวารยศ ในที่ที่ตนเกิดแล้ว

จบสูตรที่ ๙

---------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้า ๗๕

คิหิสามีจิสูตร

            [๖๐] ครั้งนั้นแล อนาถบิณฑิกคฤหบดี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาค ได้ตรัสว่า ดูกรคฤหบดี อริยสาวก ผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติปฏิปทา สมควรแก่คฤหัสถ์ อันเป็นเหตุให้ได้ยศ และเป็นไปเพื่อเกิดในสวรรค์

             ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้บำรุงภิกษุสงฆ์ ด้วยจีวร ๑ ด้วยบิณฑบาต ๑ ด้วยเสนาสนะ ๑ ด้วยเภสัชบริขาร อันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ ๑ ดูกรคฤหบดี อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติปฏิปทา อันสมควรแก่คฤหัสถ์ อันเป็นเหตุให้ได้ยศ และเป็นไปเพื่อสวรรค์

            บัณฑิตทั้งหลาย บำรุงท่านผู้มีศีล ผู้ดำเนินไปโดยชอบ ด้วย จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและเภสัช อันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ ชื่อว่าย่อมปฏิบัติปฏิปทา สมควรแก่คฤหัสถ์ บุญย่อมเจริญ แก่เขาทุกเมื่อ ทั้งกลางวันและกลางคืน เขาทำกรรมอัน เจริญแล้ว ย่อมเขาถึงฐานะคือสวรรค์

จบสูตรที่ ๑๐

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์