พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๕๔-๒๕๖
การลอยบาปด้วยน้ำของพราหมณ์ (สังครวสูตรที่ ๑๑)
[๗๑๙] สาวัตถีนิทาน
สมัยนั้น สังครวพราหมณ์ อาศัยอยู่ในกรุงสาวัตถี มีลัทธิถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ประพฤติการลงอาบน้ำชำระร่างกาย ทั้งเวลาเย็น เวลาเช้าเป็นนิตย์
ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์นุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตในกรุงสาวัตถี ในเวลาเช้า ครั้นเที่ยวบิณฑบาตในกรุงสาวัตถี แล้วกลับมาเวลาหลังอาหารเข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
[๗๒๐] ท่านพระอานนท์นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า พระเจ้าข้า สังครวพราหมณ์อาศัยอยู่ในกรุงสาวัตถี เขามีลัทธิถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ประพฤติการลงอาบน้ำ ชำระร่างกาย ทั้งเวลาเย็นเวลาเช้าเป็นนิตย์ ข้าพระองค์ขอโอกาส ขอพระผู้มีพระภาค จงเสด็จไปหาสังครวพราหมณ์ยังที่อยู่อาศัย ด้วยความอนุเคราะห์เถิดพระเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคทรงรับด้วยดุษณีภาพ
ครั้งนั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปหาสังครวพราหมณ์ยังที่อยู่อาศัย แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่เขาปูลาดไว้
[๗๒๑] ลำดับนั้น สังครวพราหมณ์ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคแล้ว สนทนาปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันไปแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสถามสังครวพราหมณ์ ซึ่งนั่งอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่งว่า ดูกรพราหมณ์ เขาว่า ท่านได้ชื่อว่าถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ท่านถือการลงอาบน้ำชำระร่างกาย ทั้งเวลาเย็นเวลาเช้าเป็นนิตย์ จริงหรือ
สังครวพราหมณ์กราบทูลว่า จริงเช่นนั้น ท่านพระโคดมผู้เจริญ
พ. ดูกรพราหมณ์ ท่านเห็นอำนาจประโยชน์อะไร จึงได้ชื่อว่ามีลัทธิ ถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ถือการลงอาบน้ำชำระร่างกาย ทั้งเวลาเย็นเวลาเช้าเป็นนิตย์
ส. ท่านพระโคดม บาปกรรมใดที่ข้าพระองค์ทำในเวลากลางวัน ข้าพระองค์ลอยบาปกรรมนั้น เสียด้วยการอาบน้ำในเวลาเย็น บาปกรรมใดที่ข้าพระองค์ ทำในเวลากลางคืน ข้าพระองค์ลอยบาปกรรมนั้น เสียด้วยการอาบน้ำในเวลาเช้า ท่านพระโคดม ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์นี้แหละ จึงได้ชื่อว่า มีลัทธิถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ถือการลงอาบน้ำชำระร่างกาย ทั้งเวลาเย็นเวลาเช้าเป็นนิตย์
[๗๒๒] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรพราหมณ์ ห้วงน้ำคือธรรม มีศีล เป็นท่าไม่ขุ่น สัตบุรุษสรรเสริญต่อสัตบุรุษ เป็นที่ที่บุคคลผู้ถึงเวทอาบแล้ว บุคคล ผู้มีตัวไม่เปียกเท่านั้นจึงจะข้ามถึงฝั่งได้
[๗๒๓] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสเช่นนี้แล้ว สังครวพราหมณ์ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดมภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรม โดยอเนกปริยาย ดุจหงายภาชนะที่คว่ำ เปิดของที่ปิดไว้ บอกทางแก่คนหลงทาง ส่องประทีปในที่มืดด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักมองเห็นรูปได้ ข้าแต่ท่านพระโคดม ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาค กับพระธรรม และพระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอพระองค์ทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
|