(เจตนา ความปรารถนา)
ความมีขึ้นแห่งภพ (นัยที่ ๒)
-บาลี ติก. อํ. ๒๐/๒๘๘/๕๑๗.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า ‘ภพ–ภพ’ ดังนี้ภพ ย่อมมีได้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไร พระเจ้าข้า
อานนท์ ถ้ากรรม มี กามธาตุ เป็นวิบาก จักไม่ได้มีแล้วไซร้ กามภพ จะพึงปรากฏได้หรือ ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า
อานนท์
กรรม จึงเป็น ผืนนา (กมฺมํ เขตฺตํ)
วิญญาณ เป็น พืช (วิญฺญาณํ พีชํ)
ตัณหา เป็น ยางของพืช (ตณฺหา สิเนโห)
ความเจตนาก็ดี ความปรารถนาก็ดี ของสัตว์ทั้งหลาย ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ตั้งอยู่แล้วด้วยธาตุชั้นทราม การบังเกิดขึ้นในภพใหม่ ต่อไป ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ (อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสญฺโญชนานํ หีนายธาตุยา เจตนา ปติฏฺฐิตา ปตฺถนา ปติฏฺฐิตา เอวํ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ)
........................................................................................................................
อานนท์ ถ้ากรรม มี รูปธาตุ เป็นวิบาก จักไม่ได้มีแล้วไซร้ รูปภพ จะพึงปรากฏได้หรือ ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า
อานนท์ ด้วยเหตุนี้แหละ
กรรม จึงเป็น เนื้อนา
วิญญาณ เป็น พืช
ตัณหา เป็น ยางของพืช
ความเจตนาก็ดี ความปรารถนาก็ดี ของสัตว์ทั้งหลาย ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหา เป็นเครื่องผูก ตั้งอยู่แล้วด้วยธาตุชั้นกลาง (มชฺฌิมาย ธาตุยา) การบังเกิดขึ้นในภพ ใหม่ ต่อไป ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้
........................................................................................................................
อานนท์ ถ้ากรรม มี อรูปธาตุ เป็นวิบาก จักไม่ได้มีแล้วไซร้ อรูปภพ จะพึงปรากฏได้หรือ หามิได้ พระเจ้าข้า
อานนท์ ด้วยเหตุนี้แหละ
กรรม จึงเป็น เนื้อนา
วิญญาณ เป็น พืช
ตัณหา เป็น ยางของพืช
ความเจตนาก็ดี ความปรารถนาก็ดี ของสัตว์ทั้งหลาย ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหา เป็นเครื่องผูก ตั้งอยู่แล้วด้วยธาตุชั้นประณีต (ปณีตาย ธาตุยา) การบังเกิดขึ้นใน ภพใหม่ ต่อไป ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้
อานนท์ ภพ ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้แล (นัยยะที่ ๒)
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก หน้า หน้าที่ ๒๕๓-๒๕๖
ภวสูตร
[๕๑๗] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า ภพ ภพ ดังนี้ภพย่อมมีได้ ด้วยเหตุเพียงไร พระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า
ดูกรอานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในกามธาตุจักไม่มีแล้ว กามภพพึงปรากฏ บ้างหรือหนอ ท่านพระอานนท์ ทูลว่า ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า
พ. ดูกรอานนท์ เหตุนี้แล
กรรม จึงชื่อว่าเป็น ไร่นา
วิญญาณ ชื่อว่าเป็น พืช
ตัณหา ชื่อว่าเป็น ยาง
เจตนา ความปรารถนา ประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างเลว ของสัตว์ พวกที่มี อวิชชา เป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดใน ภพใหม่ ต่อไปอีก
ดูกรอานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในรูปธาตุจักไม่มีแล้ว รูปภพพึงปรากฏ บ้าง หรือหนอ อา. ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า
พ. ดูกรอานนท์ เหตุนี้แล
กรรม จึงชื่อว่าเป็น ไร่นา
วิญญาณ ชื่อว่าเป็น พืช
ตัณหา ชื่อว่าเป็น ยาง
เจตนา ความปรารถนา ประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างกลางของสัตว์ พวกที่มี อวิชชา เป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ ต่อไปอีก
ดูกรอานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้อรูปธาตุจักไม่มีแล้ว อรูปภพพึงปรากฏ บ้าง หรือหนอ อา. ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า
พ. ดูกรอานนท์ เหตุนี้แล
กรรม จึงชื่อว่าเป็น ไร่นา
วิญญาณ ชื่อว่าเป็น พืช
ตัณหา ชื่อว่าเป็น ยาง
เจตนา ความปรารถนา ประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างประณีตของสัตว์ พวกที่มี อวิชชา เป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดใน ภพใหม่ ต่อไปอีก
ดูกรอานนท์ ภพย่อมมีได้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล
|