พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๗
พุทธานุสสติ ๖ ประการ (อนุสสติฏฐานสูตร)
[๒๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุสสติ ๖ ประการนี้
๖ ประการเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย (1) อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมระลึกถึงพระตถาคต ว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ... เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนก ธรรม ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด อริยสาวกย่อมระลึกถึงพระตถาคต สมัยนั้น จิตของพระอริยสาวกนั้น เป็นจิตไม่ถูกราคะกลุ้มรุม ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุม ไม่ถูกโมหะ กลุ้มรุม ย่อมเป็นจิตดำเนินไปตรงทีเดียว เป็นจิตออกไป พ้นไปหลุดไปจากความอยาก ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำว่าความอยากนี้ เป็นชื่อของเบญจกามคุณ สัตว์บางพวกในโลก นี้ ทำพุทธานุสสติแม้นี้ให้เป็นอารมณ์ ย่อมบริสุทธิ์ได้ด้วยประการฉะนี้
อีกประการหนึ่ง (2) อริยสาวกย่อมระลึกถึงพระธรรม ว่า พระธรรมอันพระผู้มี พระภาค ตรัสดีแล้ว ฯลฯ อันวิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตน ดูกรภิกษุทั้งหลายสมัยใด อริยสาวกย่อมระลึกถึงพระธรรม สมัยนั้น จิตของอริยสาวกนั้น เป็นจิตไม่ถูกราคะ กลุ้มรุม ... สัตว์บางพวกในโลกนี้ ทำธรรมานุสสติแม้นี้ให้เป็นอารมณ์ย่อมบริสุทธิ์ ได้ด้วยประการฉะนี้
อีกประการหนึ่ง (3) อริยสาวกย่อมระลึกถึงพระสงฆ์ ว่า พระสงฆ์สาวก ของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใดอริยสาวก ย่อมระลึกถึงพระสงฆ์ สมัยนั้นจิตของอริยสาวก นั้น เป็นจิตไม่ถูกราคะกลุ้มรุม ...สัตว์บางพวกในโลกนี้ ทำสังฆานุสสติแม้นี้ให้เป็น อารมณ์ ย่อมบริสุทธิ์ได้ด้วยประการฉะนี้
อีกประการหนึ่ง (4) อริยสาวกย่อมระลึกถึงศีลของตน อันไม่ขาด ฯลฯ เป็นไป เพื่อสมาธิดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด อริยสาวกย่อมระลึกถึงศีลสมัยนั้น จิตของ อริยสาวกนั้น เป็นจิตไม่ถูกราคะกลุ้มรุม ... สัตว์บางพวกในโลกนี้ ทำสีลานุสสติ แม้นี้ ให้เป็นอารมณ์ ย่อมบริสุทธิ์ได้ด้วยประการฉะนี้
อีกประการหนึ่ง (5) อริยสาวกย่อมระลึกถึงจาคะของตน ว่า เป็นลาภของเรา หนอ เราได้ดีแล้วหนอ ฯลฯ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด อริยสาวกย่อมระลึกถึงจาคะ สมัยนั้น จิตของอริยสาวกนั้น เป็นจิตไม่ถูกราคะ กลุ้มรุม ... สัตว์บางพวกในโลกนี้ ทำจาคานุสสติแม้นี้ให้เป็นอารมณ์ ย่อมบริสุทธิ์ได้ ด้วยประการฉะนี้
อีกประการหนึ่ง(6) อริยสาวกย่อมระลึกถึงเทวดา ว่า
เทวดาเหล่าจาตุมหาราช มีอยู่
เทวดาเหล่าดาวดึงส์ มีอยู่
เทวดาเหล่ายามา มีอยู่
เทวดาเหล่าดุสิต มีอยู่
เทวดาเหล่านิมมานรดี มีอยู่
เทวดาเหล่าปรนิมมิตวสวัดดี มีอยู่
เทวดาเหล่าพรหม มีอยู่
เทวดาที่สูงกว่านั้น มีอยู่
เทวดาเหล่านั้นประกอบด้วยศรัทธาเช่นใด จุติจากโลกนี้แล้ว อุบัติในเทวดาชั้นนั้น ศรัทธาเช่นนั้นแม้ของเรามีอยู่ เทวดาเหล่านั้น ประกอบด้วยศีลเช่นใด ด้วยสุตะเช่นใด ด้วยจาคะเช่นใด ด้วยปัญญาเช่นใด จุติจากโลกนี้แล้ว อุบัติในเทวดาชั้นนั้น ปัญญาเช่นนั้นแม้ของเราก็มีอยู่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด อริยสาวกย่อมระลึกถึงศรัทธา ศีล สุตะจาคะ และปัญญา ของตนและของเทวดาเหล่านั้น สมัยนั้น จิตของอริยสาวกนั้น เป็นจิตไม่ ถูกราคะกลุ้มรุม ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุม ไม่ถูกโมหะกลุ้มรุม เป็นจิตดำเนินไปตรงทีเดียว เป็นจิตออกไป พ้นไป หลุดไปจากความอยาก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำว่า ความอยาก นี้ เป็นชื่อของเบญจกามคุณ สัตว์บางพวกในโลกนี้ ทำเทวตานุสสติแม้นี้ให้เป็นอารมณ์ ย่อมบริสุทธิ์ได้ด้วย ประการฉะนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุสสติ ๖ ประการนี้แล
|