(1)
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๔ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๔๔
ภิกษุโคตรภู
[๗๑๓] ดูกรอานนท์ ก็ในอนาคตกาล จักมีแต่เหล่า ภิกษุโคตรภู มี ผ้ากาสาวะพันคอ
เป็นคนทุศีล มีธรรมลามก คนทั้งหลายจักถวายทาน เฉพาะสงฆ์ ได้ในเหล่าภิกษุทุศีลนั้น
ดูกรอานนท์ ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์แม้ในเวลานั้น เราก็กล่าวว่า มีผลนับไม่ได้ ประมาณไม่ได้ แต่ว่าเราไม่กล่าวปาฏิปุคคลิกทาน* ว่า มีผลมาก กล่าวทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์โดยปริยายไรๆเลย
*ทานที่ให้โดยเจาะจง
(2)
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๙๘
อาหุเนยยสูตร
(บุคคล ๙ จำพวกที่ควรได้รับของบูชา)
[๒๑๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๙ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควร ของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรกระทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
๙ จำพวกเป็นไฉน คือ
๑. พระอรหันต์
๒.ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์
๓.พระอนาคามี
๔.ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล
๕.พระสกทาคามี
๖.ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล
๗.พระโสดาบัน
๘.ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล
๙.โคตรภูบุคคล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๙ จำพวกเหล่านี้แล เป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
(3)
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๓
อาหุเนยยสูตร
(บุคคล ๑๐ จำพวกที่ควรได้รับของบูชา)
[๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๑๐ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
๑๐ จำพวกเป็นไฉน คือ
๑.
พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒.พระปัจเจกสัมพุทธเจ้า
๓.ท่านผู้เป็นอุภโตภาควิมุต
๔.ท่านผู้เป็นปัญญาวิมุต
๕.ท่านผู้เป็นกายสักขี
๖.ท่านผู้เป็นทิฏฐิปัตตะ
๗.ท่านผู้เป็นสัทธาวิมุต
๘.ผู้เป็นธัมมานุสารี
๙.ท่านผู้เป็นสัทธานุสารี
๑๐.ท่านผู้เป็นโคตรภู
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๑๐ จำพวกนี้แล เป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มี นาบุญอื่นยิ่งกว่า
"เรื่องโคตรภู" ในพระไตรปิฎก ฉบับหลวง ตั้งแต่
เล่มที่ ๓๑ หัวข้อที่ ๔ จนถึง เล่มที่ ๔๓ หัวข้อ ๑๘๖ เป็นอรรถกถาทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในหมวด พระอภิธรรมปิฎก
|