พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๓๓-๑๓๔
๒. ปุปผสูตร
ว่าด้วยพระพุทธองค์ไม่ขัดแย้งกับโลก
[๒๓๙] พระนครสาวัตถี ฯลฯ สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่ ขัดแย้งกับโลก. แต่โลกย่อมขัดแย้งกับเรา.
ผู้กล่าวเป็นธรรมย่อมไม่ขัดแย้งกับใครๆ ในโลก
สิ่งใดที่บัณฑิตในโลกสมมติว่า ไม่มี แม้เราก็กล่าวสิ่งนั้นว่า ไม่มี
สิ่งใดที่บัณฑิตในโลก สมมติว่า มี แม้เราก็กล่าวสิ่งนั้นว่า มี
(ไม่มี)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่บัณฑิตในโลกสมมติว่า ไม่มี ซึ่งเราก็กล่าวว่า ไม่มี นั้น คืออะไร? คือ
รูปที่เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา บัณฑิต ในโลกสมมติว่า ไม่มี แม้เราก็กล่าวรูปนั้นว่า ไม่มี เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความไม่แปรปรวนเป็น ธรรมดา โลกสมมติว่า ไม่มี แม้เราก็กล่าว วิญญาณนั้นว่า ไม่มี
ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้แหละที่เป็นบัณฑิตในโลกสมมติว่า ไม่มี ซึ่งเราก็กล่าว ว่า ไม่มี.
------------------------------------------------------
(มี)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่บัณฑิตในโลกสมมติว่า มี ซึ่งเราก็กล่าวว่า มี นั้น คืออะไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย
รูปที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ที่บัณฑิต ในโลกสมมติว่า มี แม้เราก็กล่าวรูปนั้นว่า มี เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ที่บัณฑิตในโลกสมมุติว่า มี แม้เราก็กล่าววิญญาณนั้นว่า มี
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แหละที่บัณฑิตในโลกสมมุติว่า มี ซึ่งเราก็กล่าวว่า มี
[๒๔๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลกธรรมมีอยู่ในโลก พระตถาคตย่อมตรัสรู้ ทราบชัดโลกธรรมนั้น ครั้นแล้วย่อมบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้น. ก็โลกธรรมในโลก พระตถาคตย่อมตรัสรู้ ทราบชัดโลกธรรม ครั้นแล้ว ย่อมบอก แสดงบัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้นนั้น คืออะไร?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คือ รูป เป็นโลกธรรมในโลก พระตถาคตย่อมตรัสรู้ ทราบชัดโลกธรรมนั้น ฯลฯ กระทำให้ตื้น. ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลใด เมื่อ พระตถาคต บอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนกกระทำให้ตื้นอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่รู้ ไม่เห็น เราจะกระทำอะไรได้ กะ บุคคลนั้น ผู้เป็นปุถุชนคนพาลบอด ไม่มีจักษุ ไม่รู้ ไม่เห็น.
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นโลกธรรมในโลก พระตถาคตย่อม ตรัสรู้ ทราบชัดโลกธรรมนั้น ครั้นแล้ว ย่อมบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้งเปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้น. บุคคลใด เมื่อพระตถาคตบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้งเปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้นอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่รู้ ไม่เห็น เราจะกระทำอะไรได้กะบุคคลนั้น ผู้เป็นปุถุชนคนพาล บอด ไม่มีจักษุ ไม่รู้ ไม่เห็น.
[๒๔๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบลก็ดี ปทุมก็ดี บุณฑริกก็ดี เกิดแล้วในน้ำ เจริญแล้วในน้ำ ขึ้นพ้นจากน้ำตั้งอยู่ แต่น้ำไม่ติด แม้ฉันใด. พระตถาคตเกิดแล้ว ในโลก เจริญแล้วในโลก ย่อมครอบงำโลกอยู่ แต่โลกฉาบทาไม่ได้ ฉันนั้น เหมือนกันแล
จบ สูตรที่ ๒.
|