เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่ พุทธวจน คำสอนของพระศาสดา คำสอนตถาคต รวมพระสูตรสำคัญ อนาคามี เว็บไซต์เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ค้นหาคำที่ต้องการ            

 
อายตนะภายใน ๖ เป็นทุกขอริยสัจ เป็นของร้อน เป็นของมืด 1438
 

(โดยย่อ)

อายตนะ(ภายใน)๖ เป็นทุกขอริยสัจ
คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

อายตนะ ๖ เป็นของร้อน
-อายตนะภายใน+ภายนอก+วิญญาณ= ความรู้แจ้ง เป็นของร้อน
-ผัสสะ เป็นของร้อน
-เวทนา เป็นของร้อน

-ร้อนเพราะอะไร เพราะไฟคือราคะ ไฟคือ โทสะ ไฟคือ โมหะ เพราะความเกิด เพราะความแก่ ความตาย ความร่ำไร รำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ และความคับแค้นใจ

อายตนะ ๖ เป็นของมืด
-อายตนะภายใน+ภายนอก+วิญญาณ= ความรู้แจ้ง เป็นของมืด
-ผัสสะ เป็นของมืด
-เวทนา เป็นของมืด
-มืดเพราะอะไร เพราะความเกิด เพราะความแก่ ความตาย ความร่ำไร รำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ และความคับแค้นใจ

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
รวมพระสูตร
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
(ดูทั้งหมด)

 

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น หน้า 264

อายตนะ(ภายใน)๖ เป็นทุกขอริยสัจ

(ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)

ภิกษุ ท. ! อริยสัจคือทุกข์เป็นอย่างไรเล่า ? ควรจะกล่าวว่าได้แก่อายตนะภายในหก 

อายตนะภายในหกเหล่าไหนเล่า ?
หกคือ จักขุอายตนะ โสตะอายตนะ ฆานะอายตนะ ชิวหาอายตนะ กายะอายตนะ มนะอายตนะ

ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า อริยสัจคือ ทุกข์.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น หน้า 265


อายตนะ ๖ เป็
นของร้อน
(อายตนะภายใน+ภายนอก+วิญญาณ= ความรู้แจ้ง /ผัสสะ/เวทนา เป็นของร้อน)

ภิกษุ ท. ! สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน
ภิกษุ ท. ! ก็อะไรเล่าชื่อว่าสิ่งทั้งปวง ซึ่งเป็นของร้อน ?

ภิกษุ ท. ! 
ตา
เป็นของร้อน 
รูป
เป็นของร้อน 
ความรู้แจ้งทางตา
เป็นของร้อน 
สัมผัสทางตา เป็นของร้อน 
เวทนาที่เกิดขึ้นเพราะสัมผัสทางตาเป็นปัจจัย
เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่สุข ไม่ใช่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นของร้อน.

ภิกษุ ท. ! ร้อนเพราะอะไรเล่า ?
เรากล่าวว่า "ร้อนเพราะไฟคือ ราคะ ร้อนเพราะไฟคือ โทสะ ร้อนเพราะไฟคือ โมหะ
ร้อนเพราะความเกิด เพราะความแก่ เพราะความตาย เพราะความร่ำไร รำพัน เพราะความทุกข์กายเพราะความทุกข์ใจ และเพราะความคับแค้นใจ”
ดังนี้.
----------------------------------------------------------------------------------------
ภิกษุ ท. ! 
หู
เป็นของร้อน 
เสียง
เป็นของร้อน 
ความรู้แจ้งทางหู
เป็นของร้อน 
สัมผัสทางหูเป็นของร้อน 
เวทนาที่เกิดขึ้นเพราะสัมผัสทางหูเป็นปัจจัยเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่สุข ไม่ใช่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นของร้อน. ...
----------------------------------------------------------------------------------------
ภิกษุ ท. ! 
จมูก
เป็นของร้อน 
กลิ่น
เป็นของร้อน 
ความรู้แจ้งทางจมูก
เป็นของร้อน 
สัมผัสทางจมูก
เป็นของร้อน 
เวทนาที่เกิดขึ้น
เพราะสัมผัสทางจมูกเป็นปัจจัยเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่สุข ไม่ใช่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นของร้อน. ...
----------------------------------------------------------------------------------------
ภิกษุ ท. ! 
ลิ้น
เป็นของร้อน 
รส
เป็นของร้อน 
ความรู้แจ้งทางลิ้น เป็นของร้อน 
สัมผัสทางลิ้น
เป็นของร้อน 
เวทนาที่เกิดขึ้นเพราะสัมผัสทางลิ้นเป็นปัจจัยเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่สุขไม่ใช่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นของร้อน. ...
----------------------------------------------------------------------------------------
ภิกษุ ท. ! 
กาย
เป็นของร้อน 
โผฏฐัพพะ เป็นของร้อน 
ความรู้แจ้งทั้งทางกาย
เป็นของร้อน 
สัมผัสทางกาย
เป็นของร้อน 
เวทนาที่เกิดขึ้นเพราะสัมผัสทางกาย เป็นปัจจัยเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่สุขไม่ใช่ทุกข์ก็ตามก็เป็นของร้อน. ...
----------------------------------------------------------------------------------------
ภิกษุ ท. ! 
ใจ
เป็นของร้อน 
ธรรมารมณ์
เป็นของร้อน 
ความรู้แจ้งทางใจ
เป็นของร้อน 
สัมผัสทางใจ
เป็นของร้อน 
เวทนาที่เกิดขึ้นเพราะสัมผัสทางใจเป็นปัจจัย เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่สุขไม่ใช่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นของร้อน.

ภิกษุ ท. ! ร้อนเพราะอะไรเล่า ? 
เรากล่าวว่า “ร้อนเพราะไฟ คือราคะ ร้อนเพราะไฟ คือโทสะ ร้อนเพราะไฟ คือโมหะ ร้อนเพราะความเกิด เพราะความแก่ เพราะความตาย เพราะความโศก เพราะความร่ำไรรำพัน เพราะความทุกข์กาย เพราะความทุกข์ใจ และเพราะความ คับแค้นใจ” ดังนี้แล.

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น หน้า 266

อายตนะ ๖ เป็
นของมืด


ภิกษุ ท. ! สิ่งทั้งปวง เป็นของมืด. ภิกษุ ท. ! ก็อะไรเล่า ชื่อว่าสิ่งทั้งปวง ซึ่งเป็นของมืด ?

ภิกษุ ท. ! 
ตา เป็นของมืด 
รูป
เป็นของมืด 
ความรู้แจ้งทางตา
เป็นของมืด 
สัมผัสทางตา เป็นของมืด 
เวทนาที่เกิดขึ้นเพราะสัมผัสทางตาเป็นปัจจัยเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่สุขไม่ใช่ทุกข์ก็ตาม ก็เป็นของมืด.

ภิกษุ ท. ! มืดเพราะอะไรเล่า ?

เรากล่าวว่า มืดเพราะความเกิด เพราะความแก่ เพราะความตาย เพราะความโศก เพราะความร่ำไรรำพัน เพราะความทุกข์กาย เพราะความทุกข์ใจ และเพราะความ คับแค้นใจ ดังนี้. (ในกรณีแห่งหมวด หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ก็ได้ตรัส เหมือนกันกับ ในกรณีแห่งตา)






พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์