กามฉันทะ กับ กามสังกัปปะ เกี่ยวข้องกันอย่างไร
คำตอบจากAI
ในทางพุทธศาสนา กามฉันทะและกามสังกัปปะ เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน โดย กามสังกัปปะ เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดกามฉันทะ
ความสัมพันธ์ของทั้งสอง มีดังนี้
กามสังกัปปะ (ความตริตรึกในกาม)
คือการคิด การตรึกตรอง หรือการนึกถึงอารมณ์กามคุณต่างๆ (รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่น่าพอใจ) เป็นขั้นของการปรุงแต่งความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่น่าปรารถนา
กามฉันทะ (ความพอใจในกาม)
คือความพอใจ ความยินดี หรือความอยาก ที่จะได้ในกามคุณนั้นๆ ซึ่งเป็นผลที่เกิด ตามมาจาก กามสังกัปปะ กามฉันทะเป็นหนึ่งในนิวรณ์ 5 ซึ่งเป็นเครื่องกั้นความดี หรือกั้นจิตไม่ให้สงบ
โดยสรุป
กามสังกัปปะเป็นเหมือนความคิดที่จุดประกายขึ้นมาก่อน เมื่อมีความคิดนั้นแล้ว จึงเกิดเป็นความพอใจหรือความอยาก อย่างจริงจังตามมา ซึ่งก็คือ กามฉันทะนั่นเอง กระบวนการนี้แสดงให้เห็นว่าความคิด (สังกัปปะ) มีอิทธิพลต่อความรู้สึกและความอยาก (ฉันทะ) อย่างไร ซึ่งหากปล่อยให้ดำเนินต่อไปก็จะนำไปสู่ความเร่าร้อน (กามปริฬาหะ) และการแสวงหา (กามปริเยสนา) เพื่อให้ได้กามนั้นมา
ความเห็น
ai ตอบได้ถูกต้อง ตรงตามคำสอนของพระศาสดา
(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคปลาย หน้า ๑๐๕๔)
กามวิตก
ภิกษุทั้งหลาย ! กามวิตก (ความตริตรึกในกาม) ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย !
เพราะอาศัย กามธาตุ จึงเกิด กามสัญญา
เพราะอาศัย กามสัญญา จึงเกิด กามสังกัปปะ
เพราะอาศัย กามสังกัปปะ จึงเกิด กามฉันทะ
เพราะอาศัย กามฉันทะ จึงเกิด กามปริฬาหะ (ความเร่าร้อนเพื่อจะได้กาม)
เพราะอาศัย กามปริฬาหะ จึงเกิด กามปริเยสนา (การแสวงหากาม)
ภิกษุทั้งหลาย ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ เมื่อแสวงหาอยู่อย่างแสวงหากาม
ย่อมปฏิบัติผิดโดยฐานะสาม คือ โดยกาย โดยวาจา โดยใจ
|