เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
  AI กับพระไตรปิฎก
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ถาม AI
ai รู้หรือไม่ว่า ขันธปริตร หรือ อหิราชสูตร เป็นคำแต่งใหม่
ที่ไม่ใช่เป็นพุทธวจน หรือคำสอนของพระศาสดา
AI_028

 

(ถามต่อ) ai รู้หรือไม่ว่า ขันธปริตร หรือ อหิราชสูตร เป็นคำแต่งใหม่ ไม่ใช่เป็นพุทธวจน หรือคำสอนของพระศาสดา


คำตอบจากAI

มีความเชื่อและการถกเถียงในวงวิชาการ และศาสนิกชนบางส่วนว่า คัมภีร์พระปริตร หลายบท รวมถึง "ขันธปริตร" หรือ "อหิราชสูตร" อาจเป็นบทที่ถูกแต่งขึ้นภายหลัง ไม่ได้เป็นพุทธวจนที่พระพุทธองค์ทรงตรัสโดยตรง อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ ไม่ใช่ความเชื่อกระแสหลักในพุทธศาสนาเถรวาท ซึ่งถือว่าพระสูตรบทนี้ เป็นพุทธวจนะ และมีปรากฏในพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลี ที่เก่าแก่ที่สุด

มุมมองที่ว่าเป็น พุทธวจนะ

     อ้างอิงจากพระไตรปิฎก: ในพระพุทธศาสนาเถรวาท ขันธปริตร หรือ อหิราชสูตร มีระบุไว้ในพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีที่ถือว่าเป็นบันทึกคำสอนที่เก่าแก่ที่สุด โดยปรากฏในส่วนวินัยปิฎก จุลวรรค และอังคุตตรนิกาย

     ที่มาตามเรื่องเล่า: ตามเรื่องราวในพระไตรปิฎก ระบุว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน ขันธปริตรนี้ แก่ภิกษุทั้งหลาย หลังจากมีภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัด ถึงแก่ความมรณภาพ เพราะไม่ได้แผ่เมตตาจิตให้ตระกูลงู

     พลังแห่งเมตตา: แก่นสารของพระปริตรบทนี้ คือการแผ่เมตตาจิตแก่สรรพสัตว์ เพื่อเป็นเครื่องคุ้มครองตน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการทางพุทธศาสนา ที่เน้นการใช้ คุณธรรม ภายในจิตเป็นที่พึ่ง

มุมมองที่ว่าเป็นคำแต่งใหม่ หรือมีความไม่แน่นอน

     การสังคายนา: คำสอนของพระพุทธเจ้า ถูกถ่ายทอดด้วยวาจาเป็นเวลานาน ก่อนจะจดจารเป็นลายลักษณ์อักษรในหลายร้อยปีให้หลัง ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่า มีส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาหรือไม่ในระหว่างการสังคายนา

     รูปแบบที่แตกต่าง: แม้จะเชื่อว่าแก่นของคำสอนมาจากพระพุทธเจ้า แต่บางคน อาจมองว่าการเรียบเรียง เป็นบทสวดหรือคาถาปริตร อาจเป็นผลงาน การจัดทำของ พระเถระ ในยุคหลัง เพื่อใช้เป็นบทสวดคุ้มครอง

     เจตนาที่ต่างไป: บางความเห็นแย้งว่าการใช้บทสวดเพื่อหวังผลคุ้มครอง อาจไม่ตรงกับหลักการสอนเรื่องกรรมของพระพุทธเจ้า ที่เน้นการพิจารณา ผลของกรรมเป็นหลัก แต่บทปริตรนี้ถูกอธิบายว่าเป็นการใช้พลังแห่งสัจจะ คือเมตตาจิต มาคุ้มครอง ซึ่งก็ยังอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล

     ความแตกต่างในแต่ละนิกาย: แต่ละนิกายมีความเชื่อเกี่ยวกับที่มาของ พระไตรปิฎก ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้มีมุมมองที่หลากหลายต่อความถูกต้อง ของพระสูตรต่างๆ

สรุป
ดังนั้น คำว่า "ขันธปริตร" หรือ "อหิราชสูตร" เป็นเรื่องที่มีการถกเถียงและมีมุมมอง ที่แตกต่างกันในวงการศึกษาพุทธศาสนา แต่ในทางปฏิบัติของพุทธศาสนาเถรวาท โดยทั่วไปถือว่าเป็นพุทธวจนะ ที่มีที่มาจากพระไตรปิฎก และการแผ่เมตตา เป็นแก่นของพระสูตรนี้ ที่สอดคล้องกับคำสอนหลักของพระพุทธศาสนา


ความเห็น
เมื่อถามลึกลงไป ai จึงต้องเปิดเผยข้อมูลที่นำมาสังเคราะห์ ก็พบว่ามี 2 ความเห็น คือเชื่อว่าเป็นพุทธวจน กับเชื่อว่าเป็นคำแต่งใหญ่ของพระเถระรุ่นหลังๆ ซึ่งข้อถกเถียง ทั้งสองความเห็นนี้ เป็นความเห็นที่ไม่มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกแน่นอน และ เป็นความเห็นของผู้รู้ในประเทศ หรือต่างประเทศ ก็ไม่อาจทราบได้ และเหตุผล ทั้งสองฝ่าย ก็ดูมีน้ำหนักที่น่าเชื่อถือได้ทั้งนั้น


แต่ในเรื่องพุทธศาสนา เมื่อความเห็นต่างกันไม่ลงกัน พระพุทธเจ้าก็วางหลัก เกณฑ์ไว้แล้ว โดยใช้หลักมหาประเทศสี่ คืออย่าพึงรับรองอย่าพึงคัดค้าน ให้กลับไป พิจารณาเทียบเคียง กับคำสอนของพระองค์ หรืออ้างว่ามีหลักฐานเป็นคัมภีร์เก่าแก่ ก็ไม่ได้ เมื่อเข้ากันไม่ได้กับคำสอน ก็ต้องทิ้งไปเสีย

หากพิจารณาตามคำสอนของพระศาสดานั้น การแผ่เมตตาไม่ได้ทำเพื่อป้องกันเหตุร้าย หรือภัยพิบัติ และไม่ได้มุ่งหมายไม่ให้สัตว์ร้ายชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือหลายชนิด ทำอันตรายแก่เรา แต่มุ่งเน้นภายในจิตของผู้เจริญเมตตา เพื่อละราคะ โทสะ โมหะ 

ทรงตรัสถึงอานิสงส์ของการเจริญเมตตาจิคถึง 11 อย่าง คือ
๑) หลับเป็นสุข
๒) ตื่นเป็นสุข
๓) ไม่ฝันร้าย
๔) เป็นที่รักของพวกมนุษย์
๕) เป็นที่รักของพวกอมนุษย์
๖) เทพยดารักษา
๗) ไฟก็ดี ยาพิษก็ดี ศัสตราก็ดี ไม่ต้องบุคคลนั้น
๘) จิตตั้งมั่นได้รวดเร็ว
๙) สีหน้าผุดผ่อง
๑๐) ไม่หลงทำกาละ
๑๑) เมื่อยังไม่บรรลุคุณวิเศษที่ยิ่งขึ้นไป ย่อมเกิดในพรหมโลก



อ้างอิง
ขันธปริตตชาดก ว่าด้วยพระปริตต์ป้องกันสัตว์ร้ายต่างๆ
ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๗ ข้อที่ [๒๕๕] [๒๕๖]
(ขันธปริตตชาดก เป็นคำแต่งใหม่)

อหิสูตร
พระไตรปิฎก (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๑ ข้อที่ [๖๗]



เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
 
โครงสร้างสุตตันตปิฎก ๒๕ เล่ม
พระไตรปิฎกแบ่งเป็น ๕ นิกาย
๕ นิกาย สาระโดยย่อ
     ๕ นิกาย แยกแบบตาราง
  ทีฆทิกาย เล่มที่ ๙-๑๑
  ๒ มัชฌิมนิกาย เล่มที่ ๑๒-๑๔
  ๓ สังยุตตนิกาย เล่มที่ ๑๕-๑๙
  ๔ อังคุตตรนิกาย เล่มที่ ๒๐-๒๔
  ๕ ขุททกนิกาย เล่มที่ ๒๕-๓๓

๕ นิกาย แบบลัดสั้นใน ๑ หน้า
พระไตรปิฎก ๒๕ เล่ม (๙-๓๓)

  โครงสร้างสุตตันตปิฎก (๒๕ เล่ม)
สุตตันตปิฎก
แบ่งเป็น ๕ นิกาย
(หมวด)    
ทีฆทิกาย มัชฌิมนิกาย สังยุตตนิกาย อังคุตตรนิกาย ขุททกนิกาย
๕ นิกายโดยย่อ ๕ นิกายแบบลัดสั้น ๒๕ เล่มโดยย่อ ๒๕ เล่มตามหมวด ชุดเต็ม (เล่ม๙-๓๓)
           



หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์