เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
  AI กับพระไตรปิฎก
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ถาม AI : พระพุทธเจ้าตรัสว่า จิตนี้ไม่ไช่ของเรา แล้วจิตนี้เป็นของใคร AI_017

 

ถาม AI พระพุทธเจ้าตรัสว่า จิตนี้ไม่ไช่ของเรา แล้วจิตนี้เป็นของใคร

คำตอบจากAI


เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่า "จิตนี้ไม่ใช่ของเรา" ไม่ได้หมายความว่าจิตเป็นของใครคนอื่น แต่เป็นการสอนให้เห็นว่าจิตนั้น เป็นอนัตตา คือ ไม่มีตัวตน ไม่มีเจ้าของที่แท้จริง

จิตคืออะไร

ตามหลักพุทธศาสนา จิตเป็นเพียงกระบวนการทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากเหตุปัจจัย ไม่ใช่สิ่งถาวรหรือเป็นแก่นสารที่สามารถยึดถือว่าเป็น "ตัวตน" ได้

  เป็นกระบวนการ จิตเป็นกระแสที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มี "ดวง" เดียวคงที่
  เกิดขึ้นจากเหตุปัจจัย จิตเกิดขึ้นเมื่อมีการกระทบกันระหว่างอายตนะภายใน (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) กับอายตนะภายนอก (รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์)
  ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา หากจิตเป็นของเราจริง เราก็ควรจะสามารถสั่งให้จิต เป็นไปตามที่เราต้องการได้ เช่น สั่งให้จิตไม่คิดเรื่องร้าย หรือสั่งไม่ให้ร่างกายเจ็บป่วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทำไม่ได้

ทำไมต้องพิจารณาว่าจิตไม่ใช่ของเรา

การพิจารณาว่าจิตไม่ใช่ของเรา เป็นหนทางนำไปสู่การปล่อยวางและพ้นทุกข์

  คลายความยึดมั่น เมื่อเข้าใจว่าจิตไม่ใช่ของเรา ความทุกข์ที่เกิดจากการยึดมั่น ในอารมณ์ ความคิด หรือความรู้สึกต่าง ๆ ก็จะลดลง
  เห็นความจริงตามธรรมชาติ การฝึกดูจิตจะทำให้เราเห็นว่า จิตทำงานได้ด้วย ตัวของมันเอง มีการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา และไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง
  เกิดปัญญา เมื่อเห็นความจริงนี้อย่างชัดเจน ปัญญาก็จะเกิดขึ้น ทำให้สามารถ ละวางความยึดมั่นถือมั่นได้โดยอัตโนมัติ

ดังนั้น คำสอนที่ว่า "จิตไม่ใช่ของเรา" จึงไม่ได้เป็นการหาว่าจิตเป็นของใคร แต่เป็นการชี้ให้เห็นความจริงว่า ไม่มีใครเป็นเจ้าของจิต เพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถ ปล่อยวาง ความยึดถือ และหลุดพ้นจากทุกข์ได้ในที่สุด


ความเห็น
AI ตอบได้ถูกต้องตรงจริงทุกประการ



เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
 
โครงสร้างสุตตันตปิฎก ๒๕ เล่ม
พระไตรปิฎกแบ่งเป็น ๕ นิกาย
๕ นิกาย สาระโดยย่อ
     ๕ นิกาย แยกแบบตาราง
  ทีฆทิกาย เล่มที่ ๙-๑๑
  ๒ มัชฌิมนิกาย เล่มที่ ๑๒-๑๔
  ๓ สังยุตตนิกาย เล่มที่ ๑๕-๑๙
  ๔ อังคุตตรนิกาย เล่มที่ ๒๐-๒๔
  ๕ ขุททกนิกาย เล่มที่ ๒๕-๓๓

๕ นิกาย แบบลัดสั้นใน ๑ หน้า
พระไตรปิฎก ๒๕ เล่ม (๙-๓๓)

  โครงสร้างสุตตันตปิฎก (๒๕ เล่ม)
สุตตันตปิฎก
แบ่งเป็น ๕ นิกาย
(หมวด)    
ทีฆทิกาย มัชฌิมนิกาย สังยุตตนิกาย อังคุตตรนิกาย ขุททกนิกาย
๕ นิกายโดยย่อ ๕ นิกายแบบลัดสั้น ๒๕ เล่มโดยย่อ ๒๕ เล่มตามหมวด ชุดเต็ม (เล่ม๙-๓๓)
           



หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์