เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

รวมเรื่องนาค.. นาคมี ๔ จำพวก เกิดในไข่ เกิดในครรภ์ เกิดในเถ้าไคล เกิดผุดขึ้น 1776
 

(เนื้อหาโดยย่อ)

นาคสังยุต

1) กำเนิดนาค ๔ จำพวก
    นาคที่เป็นอัณฑชะ เกิดในไข่
    นาคที่เป็นชลาพุชะ เกิดในครรภ์
    นาคที่เป็นสังเสทชะ เกิดในเถ้าไคล
    นาคที่เป็นอุปปาติกะ  เกิดผุดขึ้น

2) ความประณีตของกำเนิดนาคแต่ละจำพวก

3) เหตุปัจจัยให้นาคที่เป็น อัณฑชะ รักษาอุโบสถ
4) เหตุปัจจัยให้นาคที่เป็น ชลาพุชะ รักษาอุโบสถ
5) เหตุปัจจัยให้นาคที่เป็น สังเสทชะ รักษาอุโบสถ
6) เหตุปัจจัยให้นาคที่เป็น อุปปาติกะ รักษาอุโบสถ

7) เหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาค อัณฑชะ
8) เหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาคที่เป็นชลาพุชะ
9) เหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาคที่เป็นสังเสทชะ
10) เหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาคอุปปาติกะ

11) เหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคผ(นัยยะ1)
12) เหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาค (นัยยะ2)

พระวินัย
13) เรื่องนาคแปลงกายเป็นมนุษย์มาขอบวช
อนุปสัมบัน คือ สัตว์ดิรัจฉาน ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบ ที่อุปสมบทแล้ว ต้องให้สึกเสีย

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 

 


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก  หน้า ๒๗๑ - ๒๗๗

๘.นาคสังยุต

๑. สุทธกสูตร

ว่าด้วยกำเนิดนาค ๔ จำพวก

          [๕๑๘] พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของนาค ๔ จำพวกนี้.

๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ
นาคที่เป็นอัณฑชะ เกิดในไข่ ๑
นาคที่เป็นชลาพุชะ เกิดในครรภ์ ๑
นาคที่เป็นสังเสทชะ เกิดในเถ้าไคล ๑
นาคที่เป็นอุปปาติกะ  เกิดผุดขึ้น ๑

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของนาค ๔ จำพวกนี้แล


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้า ๒๗๑

๒. ปณีตตรสูตร (นาคสังยุต)
ว่าด้วยความประณีตของกำเนิดนาคแต่ละจำพวก

          [๕๑๙] พระนครสาวัตถี.  ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของนาค ๔ จำพวกนี้

๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ
นาคเป็นอัณฑชะ ๑
นาคที่เป็นชลาพุชะ ๑
นาคที่เป็นสังเสทชะ ๑
นาคที่เป็นอุปปาติกะ ๑.

ในนาค ๔ จำพวกนั้น
นาคที่เป็น ชลาพุชะ สังเสทชะ และอุปปาติกะ ประณีตกว่านาคที่เป็น อัณฑชะ
นาคที่เป็น สังเสทชะ และอุปปาติกะ ประณีตกว่านาคที่เป็น อัณฑชะ และชลาพุชะ
นาคที่เป็น อุปปาติกะ ประณีตกว่านาคที่เป็น อัณฑชะ ชลาพุชะ และสังเสทชะ

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของนาค ๔ จำพวกนี้แล.


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้า ๒๗๑-๒๗๒

๓. อุโปสถสูตรที่ ๑ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้นาคที่เป็นอัณฑชะรักษาอุโบสถ

          [๕๒๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม ของท่าน อนาถ บิณฑิก เศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย เครื่องให้นาค ที่เป็นอัณฑชะบางพวก ในโลกนี้ รักษาอุโบสถ และสละกายได้?

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุ นาคบางพวกที่เป็นอัณฑชะในโลกนี้  มีความคิด อย่างนี้ว่า เมื่อก่อน พวกเราเป็นผู้กระทำกรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ พวกเรานั้น กระทำกรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เมื่อตายไป จึงเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกนาค ที่เป็นอัณฑชะ ถ้าวันนี้พวกเราพึงประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจไซร้ เมื่อเป็นอย่างนี้ เมื่อตายไป พวกเราจะพึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เชิญพวกเรามาประพฤติสุจริตด้วยกายด้วยวาจา ด้วยใจเสียในบัดนี้เถิด.

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แล เป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้นาคที่เป็นอัณฑชะ บางพวก ในโลกนี้ รักษาอุโบสถและสละกายได้.


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗๒

๔. อุโปสถสูตรที่ ๒ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้นาคที่เป็นชลาพุชะรักษาอุโบสถ

          [๕๒๑] พระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้นาคที่เป็นชลาพุชะบางพวกในโลกนี้ รักษาอุโบสถ และสละกายได้.

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุ นาคบางพวกที่เป็นชลาพุชะในโลกนี้ มีความคิดอย่างนี้ว่า เมื่อก่อน พวกเราเป็นผู้กระทำกรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ พวกนั้นกระทำกรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เมื่อตายไปจึงเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นชลาพุชะ

ถ้าวันนี้ พวกเราพึงประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจไซร้ เมื่อเป็นอย่างน ี้เมื่อตายไป พวกเราจะพึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เชิญพวกเรามาประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจาด้วยใจ เสียในบัดนี้เถิด.

          ดูกรภิกษุ ข้อนี้แล เป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้นาคที่เป็นชลาพุชะ บางพวก ในโลกนี้ รักษาอุโบสถและสละกายได้.



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗๓

๕. อุโปสถสูตรที่ ๓ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้นาคที่เป็นสังเสทชะรักษาอุโบสถ

          [๕๒๒] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้นาค ที่เป็นสังเสทชะบางพวกในโลกนี้ รักษาอุโบสถและสละกายได้?

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุ นาคบางพวกที่เป็นสังเสทชะในโลกนี้ มีความคิดอย่างนี้ว่า เมื่อก่อน พวกเราเป็นผู้กระทำกรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ พวกเรานั้นกระทำกรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เมื่อตายไป จึงเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นสังเสทชะ

ถ้าวันนี้ พวกเราพึงประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจไซร้เมื่อเป็นอย่างนี้ เมื่อตายไป พวกเราจะพึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เชิญพวกเรามาประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เสียในบัดนี้เถิด.

          ดูกรภิกษุ ข้อนี้แล เป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้นาคที่เป็นสังเสทชะ บางพวกในโลกนี้ รักษาอุโบสถและสละกายได้.


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗๓

๖. อุโปสถสูตรที่ ๔ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้นาคที่เป็นอุปปาติกะรักษาอุโบสถ

          [๕๒๓] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้นาค ที่เป็นอุปปาติกะบางพวกในโลกนี้ รักษาอุโบสถและสละกายได้?

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุ นาคบางพวกที่เป็นอุปปาติกะในโลกนี้ มีความคิดอย่างนี้ว่า

เมื่อก่อน พวกเราได้เป็นผู้กระทำกรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ พวกเรานั้น กระทำกรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เมื่อตายไป จึงเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกนาค ที่เป็นอุปปาติกะ

ถ้าวันนี้ พวกเราพึงประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เมื่อเป็นอย่างนี้  เมื่อตายไป พวกเราจะพึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เชิญพวกเรามาประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เสียในบัดนี้เถิด.

          ดูกรภิกษุ ข้อนี้แล เป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้นาคที่เป็นอุปปาติกะ บางพวกในโลกนี้ รักษาอุโบสถและสละกายได้.



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗๔

๗. สุตสูตรที่ ๑ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาคที่เป็นอัณฑชะ

             [๕๒๔] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้บุคคลบางคน ในโลกนี้ เมื่อตายไปเข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นอัณฑชะ พระเจ้าข้า?

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำ กรรม ทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกนาคที่เป็นอัณฑชะ มีอายุยืน มีวรรณะงามมีความสุขมาก.

เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกนาค ที่เป็นอัณฑชะ.

          ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นอัณฑชะ.



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้า ๒๗๔  

๘. สุตสูตรที่ ๒ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาคที่เป็นชลาพุชะ

          [๕๒๕] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคล บางคน ในโลกนี้ เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาค ที่เป็นชลาพุชะ พระเจ้าข้า?

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำ กรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกนาคที่เป็นชลาพุชะ มีอายุยืนมีวรรณะงาม มีความสุขมาก.

เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกนาค ที่เป็นชลาพุชะ. ครั้นตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของ พวกนาค ที่เป็นชลาพุชะ.

          ดูกรภิกษุ ข้อนี้แล เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้
เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นชลาพุชะ.


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้า ๒๗๕

๙. สุตสูตรที่ ๓ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาคที่เป็นสังเสทชะ

          [๕๒๖] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคล บางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นสังเสทชะ พระเจ้าข้า?

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำกรรม ทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกนาค ที่เป็นสังเสทชะ มีอายุยืน มีวรรณะงามมีความสุขมาก.

เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกนาคที่เป็นสังเสทชะ. ครั้นตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกนาค ที่เป็นสังเสทชะ.

          ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นสังเสทชะ



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้า ๒๗๕

๑๐. สุตสูตรที่ ๔ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของนาคที่เป็นอุปปาติกะ

          [๕๒๗] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคล บางคนในโลกนี้เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาค ที่เป็นอุปปาติกะ พระเจ้าข้า?

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำ กรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกนาคที่เป็นอุปปาติกะ มีอายุยืน มีวรรณะงามมีความสุขมาก.

เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกนาค ที่เป็นอุปปาติกะ. ครั้นตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกนาค ที่เป็นอุปปาติกะ.

          ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นอุปปาติกะ



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้า ๒๗๖

๑๑-๒๐ อัณฑชทานูปการสูตรที่ ๑-๑๐ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาค (นัยยะ๑)

          [๕๒๘] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคล บางคนในโลกนี้เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นอัณฑชะ พระเจ้าข้า?

             พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำกรรม ทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกนาคที่เป็นอัณฑชะ มีอายุยืน มีวรรณะงาม มีความสุขมาก.

เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกนาคที่เป็นอัณฑชะ. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีป และอุปกรณ์แห่งประทีป เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึง ความเป็นสหาย ของพวกนาคที่เป็นอัณฑชะ.

          ดูกรภิกษุ ข้อนี้แล เป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้บุคคลบางคนในโลกนี้เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นอัณฑชะ



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎก หน้า ๒๗๗

๒๑-๕๐ ชลาพุชาทิทานูปการสูตรที่ ๑-๓๐ (นาคสังยุต)
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาค (นัยยะ๒)

          [๕๒๙] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้บุคคล บางคน ในโลกนี้  เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาค ที่เป็นชลาพุชะ ... ของพวกนาคที่เป็นสังเสทชะ ... ของพวกนาคที่เป็นอุปปาติกะ?

             พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำ กรรมทั้งสองด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกนาคที่เป็นอุปปาติกะ มีอายุยืน มีวรรณะงามมีความสุขมาก.

เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกนาคที่เป็นอุปปาติกะ. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีป และอุปกรณ์แห่งประทีป เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นอุปปาติกะ.

          ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกนาคที่เป็นอุปปาติกะ.

จบ นาคสังยุต



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔  พระวินัยปิฎก หน้า ๑๔๓-๑๔๔

เรื่องนาคแปลงกายเป็นมนุษย์มาขอบวช

          [๑๒๗] ก็โดยสมัยนั้นแล นาคตัวหนึ่งอึดอัด ระอา เกลียดกำเนิดนาค จึงนาคนั้นได้ มีความดำริว่า ด้วยวิธีอะไรหนอ เราจึงจะพ้นจากกำเนิดนาค และ กลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เร็วพลัน. ครั้นแล้วได้ดำริต่อไปว่า พระสมณะ เชื้อสาย พระศากยบุตรเหล่านี้แล เป็นผู้ประพฤติธรรม ประพฤติสงบ ประพฤติ พรหมจรรย์ กล่าวแต่คำสัตย์ มีศีล มีกัลยาณธรรม หากเราจะพึงบวชในสำนักพระสมณะ เชื้อสาย พระศากยบุตร ด้วยวิธีเช่นนี้ เราก็จะพ้นจากกำเนิดนาคและกลับได้อัตภาพ เป็นมนุษย์ เร็วพลัน ครั้นแล้วนาคนั้นจึงแปลงกายเป็นชายหนุ่ม แล้วเข้าไปหาภิกษุทั้งหลาย ขอบรรพชา. ภิกษุทั้งหลายจึงให้เขาบรรพชาอุปสมบท

          สมัยต่อมา พระนาคนั้นอาศัยอยู่ในวิหารสุดเขตกับภิกษุรูปหนึ่ง. ครั้นปัจจุสสมัยแห่งราตรี ภิกษุรูปนั้น ตื่นนอนแล้วออกไปเดินจงกรมอยู่ในที่แจ้ง. ครั้นภิกษุรูปนั้นออกไปแล้ว. พระนาคนั้นก็วางใจจำวัด. วิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู. ขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง. ครั้นภิกษุรูปนั้นผลักบานประตูด้วยตั้งใจจักเข้าวิหาร ได้เห็นวิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู เห็นขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง ก็ตกใจ จึงร้องเอะอะขึ้น ภิกษุทั้งหลายพากันวิ่งเข้าไปแล้วได้ถามภิกษุรูปนั้นว่า อาวุโส ท่านร้องเอะอะไปทำไม?

             ภิกษุรูปนั้นบอกว่า อาวุโสทั้งหลาย วิหารนี้ทั้งหลังเต็มไปด้วยงู ขนด ยื่นออกไปทางหน้าต่าง ขณะนั้น พระนาคนั้น ได้ตื่นขึ้นเพราะเสียงนั้น แล้วนั่งอยู่บน อาสนะของตน
          ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส ท่านเป็นใคร?
          น. ผมเป็นนาค ขอรับ
          ภิ. อาวุโส ท่านได้ทำเช่นนี้เพื่อประสงค์อะไร?

          พระนาคนั้นจึงแจ้งเนื้อความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย. ภิกษุทั้งหลาย กราบทูล เรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาค

          ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ในเพราะเหตุ เป็นเค้ามูล นั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วได้ทรงประทานพระพุทธโธวาทนี้แก่นาคนั้นว่า พวกเจ้าเป็นนาคมีความไม่งอกงามในธรรมวินัยนี้เป็นธรรมดา ไปเถิดเจ้านาค จงไปรักษาอุโบสถในวันที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์นั้นแหละ ด้วยวิธีนี้ เจ้าจักพ้นจากกำเนิดนาค และจักกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน

          ครั้นนาคนั้นได้ทราบว่า ตนมีความไม่งอกงามในพระธรรมวินัยนี้ เป็นธรรมดา ก็เสียใจหลั่งน้ำตา ส่งเสียงดังแล้วหลีกไป

          ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุแห่งความปรากฏตามสภาพของนาค มีสองประการนี้ คือ เวลาเสพเมถุนธรรม กับนางนาค ผู้มีชาติเสมอกัน ๑ เวลาวางใจนอนหลับ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุแห่งความปรากฏตามสภาพของนาค ๒ ประการนี้แล

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบัน คือ สัตว์ดิรัจฉาน ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้ว ต้องให้สึกเสีย (ทรงบัญญัติพระวินัย)

 

 





พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์