พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๖
วลาหกสังยุต
ว่าด้วยเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก
[๕๔๓] พระนครสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดง พวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหกแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหกเป็นไฉน? พวกเทวดา
๑) ที่เป็น สีตวลาหก ก็มี
๒) ที่เป็น อุณหวลาหก ก็มี
๓) ที่เป็น อัพภวลาหก ก็มี
๔) ที่เป็น วาตวลาหก ก็มี
๕) ที่เป็น วัสสวลาหก ก็มี
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกนี้เราเรียกว่า พวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก.
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาพวก วลาหก
[๕๔๔] พระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริต ด้วยกายด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก มีอายุยืน มีวรรณะงาม มีความสุขมาก เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลาของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีป และ อุปกรณ์ แห่งประทีป. เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งนับเนื่อง ในหมู่วลาหก.
ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก.
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาพวก สีตวลาหก
[๕๔๕] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคล บางคนในโลกนี้เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ที่เป็น สีตวลาหก พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกเทวดาที่เป็นสีตวลาหก มีอายุยืน มีวรรณะงาม มีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาที่เป็นสีตวลาหก. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอม เครื่องลูบไล้ที่นอน ที่พัก ประทีปและอุปกรณ์แห่ง ประทีป. เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาที่เป็นสีตวลาหก.
ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ย่อมเข้าถึง ความเป็นสหาย ของพวกเทวดาที่เป็นสีตวลาหก.
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาพวก อุณหวลาหก เป็นต้น
[๕๔๖] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคล บางคน ในโลกนี้เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ที่เป็น อุณหวลาหก ...?
[๕๔๗] ... เข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาที่เป็น อัพภวลาหก ...
[๕๔๘] ... เข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาที่เป็น วาตวลาหก ...
[๕๔๙] ... เข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาที่เป็น วัสสวลาหก ...
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกเทวดาที่เป็นวัสสวลาหก มีอายุยืน มีวรรณะงาม มีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาที่เป็นวัสสวลาหก. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอม เครื่องลูบไล้ที่นอน ที่พัก ประทีปและ อุปกรณ์แห่ง ประทีป. เมื่อตายไป เขาเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาที่เป็น วัสสวลาหก.
ดูกรภิกษุ ข้อนี้แล เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาที่เป็นวัสสวลาหก
(เทวดาเหล่าวลาหก)
เป็นเทวดาชั้นต่ำกว่าเทวดาเหล่ากามภพ แต่ยังนับเนื่องว่าเป็นเทวดา จัดอยู่ในกลุ่มของ พวก ยักษ์ คนธรรพ์ ครุฑ อสูร เทวดานับเนื่องในหมู่ วลาหก เทวดาเหล่ามนาปกายิกา )
|