ความหลง ความมัวเมา ความเห็นแก่ตัว เป็นเงื่อนไขให้ดำเนินไปสู่ ภพ และชาติ หรือไม่
คำตอบจากAI
ใช่ ความหลง ความมัวเมา และความเห็นแก่ตัว ล้วนเป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่นำไปสู่การ เกิดภพและชาติ ในหลักปฏิจจสมุปบาท เนื่องจากเป็นต้นตอของกิเลสและตัณหา
ความหลง ความมัวเมา และภพชาติ
ความหลง (อวิชชา): คือความไม่รู้แจ้งตามความเป็นจริง เป็นรากฐานของ กิเลส ทั้งหมด อวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิด ตัณหา (ความอยาก) เมื่อเราหลงในสิ่งใด ก็จะยึดติด ในสิ่งนั้น ทำให้เกิดการสร้างกรรมและปรุงแต่งจิตให้เกิดภพ
ความมัวเมา (โมหะ): เป็นชื่อหนึ่งของความหลง การมัวเมาในสิ่งต่าง ๆ เช่น รูป รส กลิ่น เสียง และลาภยศสรรเสริญ ทำให้จิตติดข้องอยู่กับสิ่งเหล่านั้น เมื่อจิตติดข้อง ก็จะเกิดความทะยานอยากไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นปัจจัยให้เกิด ภพ และ ชาติ
ความเห็นแก่ตัว: ในทางพุทธศาสนาจัดเป็นกิเลส ที่เกิดขึ้นในจิตใจมนุษย์ ความเห็นแก่ตัว เกิดจากความหลงในตัวตน (อัตตา) ว่าเป็นของเรา ทำให้เกิดความ อยากได้ อยากมี และหวงแหนสิ่งต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้น การยึดมั่นใน ตัวตนนี้คือ อัตตวาทุปาทาน ซึ่งเป็นอุปาทาน (ความยึดมั่น) อย่างหนึ่งใน 4 อย่าง เมื่อเกิดความยึดมั่นนี้ ก็จะนำไปสู่การกระทำกรรมเพื่อสนองความต้องการของตัวตน นำไปสู่การเกิดภพและชาติต่อไป
บทบาทในปฏิจจสมุปบาท
ความหลง ความมัวเมา และความเห็นแก่ตัว มีบทบาทอยู่ในห่วงโซ่ของปฏิจจสมุปบาท ดังนี้:
อวิชชา (ความหลง) เป็นปัจจัยให้เกิด สังขาร (ความคิดปรุงแต่ง)
สังขาร เป็นปัจจัยให้เกิด วิญญาณ
วิญญาณ และขันธ์อื่น ๆ ก่อให้เกิด เวทนา (ความรู้สึก)
เวทนา เป็นปัจจัยให้เกิด ตัณหา (ความอยาก)
ตัณหา เป็นปัจจัยให้เกิด อุปาทาน (ความยึดมั่น) ซึ่งรวมถึงความเห็นแก่ตัวและยึดมั่น ในตัวตน
อุปาทาน เป็นปัจจัยให้เกิด ภพ (ภาวะแห่งการปรุงแต่งของจิต)
ภพ เป็นปัจจัยให้เกิด ชาติ (การเกิดขึ้นแห่งขันธ์ 5 หรือตัวตน)
ดังนั้น เมื่อจิตปราศจากความหลง ความมัวเมา และความเห็นแก่ตัวแล้ว ก็จะสามารถ ตัดวงจรแห่งภพและชาติลงได้
ความเห็น
ความหลง ความมัวเมา ความเห็นแก่ตัว ก็คือการเกิดขึ้น (ของอกุศล) ซึ่งมีเหตุเกิด คือผัสสะ ซึ่งแต่ละอย่างสามารถเกิดได้หลายครั้งหลายหนในแต่ละนาที แต่ละชั่วโมง หรือแต่ละวัน หรือตลอดทั้งชีวิต เพราะยังมีเชื้อเหลือ (อุปธิ-อุปาทาน) ที่ยังไม่หมดสิ้น และทุกครั้งที่อารมณ์นั้นเกิดขึ้น ย่อมมีเกิด มีดับ ไล่เรียง ตามปฏิจจสมุปบาททุกครั้ง ภพ- ชาติ จึง เกิด-ดับ ได้หลายครั้งหลายหน ตราบใดที่ยังไม่สิ้นอุปาทาน หรือ ความยึดมั่น
|