เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

อุบาสกหัตถกผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์ ๗ ประการ (หัตถกสูตรที่ ๑) 1786
  พระผู้มีพระภาคกล่าวชมหัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี ว่า
เป็นผู้ประกอบด้วยธรรม ที่น่าอัศจรรย์ อันไม่เคยมีมา ๗ ประการ
๑. เป็นผู้มีศรัทธา
๒. มีศีล
๓. มีหิริ
๔. มีโอตตัปปะ
๕. เป็นพหูสูต
๖. มีจาคะ
๗. มีปัญญา
เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 

 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๙๒-๑๙๓


อุบาสกหัตถกผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์ ๗ ประการ
(หัตถกสูตรที่ ๑)

          [๑๑๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ อัคคาฬวเจดีย์ ใกล้เมืองอาฬวี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลาย ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงทรงจำ หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี ว่า เป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์ อันไม่เคยมีมา ๗ ประการ ๗ ประการเป็นไฉน

           ดูกรภิกษุทั้งหลาย หัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวี
๑. เป็นผู้มีศรัทธา
๒. มีศีล
๓. มีหิริ
๔. มีโอตตัปปะ
๕. เป็นพหูสูต
๖. มีจาคะ
๗. มีปัญญา


           ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงทรงจำหัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวี ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรม ที่น่าอัศจรรย์ อันไม่เคยมีมา ๗ ประการนี้แล พระผู้มีพระภาค ผู้สุคต ครั้นได้ตรัส พระดำรัสนี้แล้ว เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร

          ครั้งนั้น เวลาเช้า ภิกษุรูปหนึ่ง นุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้าไปยังนิเวศน์ของ หัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวี ครั้นแล้ว จึงนั่งบนอาสนะที่ปูไว้ลำดับนั้น หัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวี เข้าไปหาภิกษุนั้น ไหว้แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ภิกษุนั้นได้กล่าวกะหัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวีว่า ดูกรอาวุโส พระผู้มีพระภาค ทรงพยากรณ์ท่าน ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ๗ ประการ ๗ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี เป็นผู้มีศรัทธา ๑ มีศีล ๑ มีหิริ ๑ มีโอตตัปปะ ๑เป็นพหูสูต ๑ มีจาคะ ๑ มีปัญญา ๑

           ดูกรอาวุโส พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ท่าน ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรม ที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ๗ ประการนี้แล หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวีถามว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คฤหัสถ์ไรๆ ผู้นุ่งผ้าขาวไม่มีในตำแหน่งที่พระผู้มีพระภาค ทรงพยากรณ์นี้หรือ

          ภิ. ดูกรอาวุโส ไม่มี

          ห. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดีแล้ว ที่คฤหัสถ์ไรๆ ผู้นุ่งผ้าขาวไม่มีในตำแหน่งที่ พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์นี้

          ลำดับนั้น ภิกษุนั้นรับบิณฑบาตในนิเวศน์ของหัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวีแล้ว ลุกจากที่นั่งแล้ว หลีกไป ภายหลังภัต กลับจากบิณฑบาตแล้ว เข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ในเวลาเช้า ข้าพระองค์นุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปยังนิเวศน์ของหัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวี นั่งบนอาสนะที่เขาปูไว้ ลำดับนั้น หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี เข้ามาหาข้าพระองค์ไหว้แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วข้าพระองค์ได้กล่าว กะ หัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวีว่า ดูกรอาวุโส พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ท่าน ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา

          ๗ ประการ ๗ ประการเป็นไฉน

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวีเป็นผู้มีศรัทธา ๑ มีศีล ๑ มีหิริ ๑ มีโอตตัปปะ ๑ เป็นพหูสูต ๑ มีจาคะ ๑ มีปัญญา ๑ ดูกรอาวุโส พระผู้มีพระภาคทรง พยากรณ์ท่าน ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ๗ ประการนี้ เมื่อข้าพระองค์กล่าวอย่างนี้แล้วหัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี ได้ถามข้าพระองค์ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คฤหัสถ์ไรๆ ผู้นุ่งผ้าขาวไม่มีในตำแหน่งที่พระผู้มีพระภาค ทรงพยากรณ์นั้น หรือ ข้าพระองค์ตอบว่า ดูกรอาวุโส ไม่มี เขาตอบว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดีแล้วที่คฤหัสถ์ไรๆ ผู้นุ่งผ้าขาว ไม่มีในตำแหน่งที่พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์นี้

          พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ ถูกแล้วๆ กุลบุตรนั้นมีความปรารถนาน้อย ไม่ปรารถนาให้คนอื่นรู้กุศลธรรมที่มีอยู่ในตน ดูกรภิกษุ ถ้าอย่างนั้น เธอจงทรงจำหัตถก อุบาสกชาวเมืองอาฬวีไว้ ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมานี้ คือ ความเป็นผู้ไม่ปรารถนาให้คนอื่นรู้กุศลธรรมที่มีอยู่ในตน

 

 





พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์