(หน้า3) พระราธะ เอตทัคคบาลี เลิศกว่าพวกภิกษุสาวกของเรา ผู้มีปฏิภาณแจ่มแจ้ง
24 ๑. มารสูตร ว่าด้วยการละความพอใจในขันธมาร รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นมาร เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วยสามารถความพอใจในสิ่งนั้น
25 ๒. มารสูตร ว่าด้วยการละความพอใจในมารธรรม สิ่งใดแล เป็นมารธรรม เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วยสามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย.
26 ๓.อนิจจสูตร สิ่งใดแลเป็น อนิจจัง เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วย สามารถ ความพอใจในสิ่งนั้นเสีย.
27 ๔.อนิจจธัมมสูตร สิ่งใดแลเป็น อนิจจธรรม เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัด ด้วย สามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย.
28 ๕.ทุกขสูตร สิ่งใดแล เป็นทุกข์ เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วย สามารถ ความพอใจในสิ่งนั้นเสีย.
29 ๖.ทุกขธัมมสูตร สิ่งใดแลเป็น ทุกขธรรม เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วย สามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย.
30 ๗.อนัตตาสูตร สิ่งใดแล เป็นอนัตตา เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วย สามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย.
31 ๘. อนัตตธัมมสูตรสิ่งใดแลเป็น อนัตตธรรม เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัด ด้วยสามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย.
32 ๙. ขยธัมมสูตรสิ่งใดแล เป็นขยธรรม (เสื่อมไปสิ้นไป) เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วย สามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย
33 ๑๐. วยธัมมสูตรสิ่งใดแล เป็นวยธรรม (เสื่อมไปสิ้นไป) เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วย สามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย.
34 ๑๑. สมุทยธัมมสูตรสิ่งใดแล เป็นสมุทยธรรม เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความ กำหนัดด้วยสามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย (เหตุเกิด)
35 ๑๒. นิโรธธัมมสูตร ว่าด้วยการละความพอใจในสิ่งที่รู้จักดับ : สิ่งใดแล เป็นนิโรธธรรม เธอพึงละ ความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วยสามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย.. รูปเป็นนิโรธธรรม เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็น นิโรธธรรม
36 ๑. มารสูตร ว่าด้วยการละความพอใจในสิ่งที่เป็นมาร : รูปเป็นมาร เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นมาร เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วยอำนาจ ความพอใจ ในรูปนั้นเสีย
37 ๒. มารธัมมสูตร ว่าด้วยการละความพอใจในมารธรรม สิ่งใดแลเป็นมารธรรม เธอพึงละความ พอใจ ละความกำหนัดความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
38 ๓. อนิจจสูตร สิ่งใดแล เป็นอนิจัง เธอพึง ละความพอใจ ละความกำหนัด ละความกำหนัดด้วย อำนาจความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
39 ๔. อนิจจธัมมสูตร สิ่งใดแลเป็น อนิจจธรรม เธอพึง ละความพอใจ ละความกำหนัด ละความ กำหนัดด้วยอำนาจความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
40 ๕. ทุกขสูตร สิ่งใดแล เป็นทุกข์ เธอพึง ละความพอใจ ละความกำหนัด ละความกำหนัด ด้วย อำนาจความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย ฯลฯ
41 ๖. ทุกขธัมมสูตร สิ่งใดแล เป็นทุกขธรรม เธอพึง ละความพอใจ ละความกำหนัด ละความ กำหนัดด้วยอำนาจความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
42 ๗. อนัตตาสูตร สิ่งใดแล เป็นอนัตตา เธอพึง ละความพอใจ ละความกำหนัด ละความกำหนัด ด้วยอำนาจความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
43 ๘. อนัตตธัมมสูตร สิ่งใดแล เป็นอนัตตธรรม เธอพึง ละความพอใจ ละความกำหนัด ละความ กำหนัดด้วยอำนาจความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
44 ๙. ขยธัมมสูตร สิ่งใดแล เป็นขยธรรม (เสื่อมไปสิ้นไป) เธอพึง ละความพอใจ ละความ กำหนัด ละความ กำหนัด ด้วยอำนาจความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
45 ๑๐. วยธัมมสูตร สิ่งใดแล เป็นวยธรร (เสื่อมไปสิ้นไป)ม เธอพึงละความพอใจ ละความ กำหนัด ละความ กำหนัด ด้วยอำนาจความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
46 ๑๑. สมุทยธัมมสูตร ว่าด้วยการละความพอใจสิ่งที่รู้จักเกิดขึ้น สิ่งใดแล เป็นสมุทยธรรม เธอพึงละความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วยสามารถความพอใจในสิ่งนั้นเสีย
47 ๑๒. นิโรธธัมมสูตร ว่าด้วยการละความใจในสิ่งที่รู้จักดับ สิ่งใดแล เป็นนิโรธธรรม เธอพึงละ ความพอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วยสามารถความ พอใจในสิ่งนั้นเสีย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นนิโรธธรรม เธอพึงละความ พอใจ ความกำหนัด ความกำหนัดด้วยสามารถ ความพอใจในรูปนั้นเสีย
48 ราธสูตรที่ ๑ ดูกรราธะ สิ่งใดไม่เที่ยง เธอพึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย ดูกรราธะ อะไรเล่า ไม่เที่ยง จักษุแลไม่เที่ยง รูปไม่เที่ยงจักษุวิญญาณ จักษุสัมผัส สุขเวทนาทุกขเวทนา หรือ อทุกขม สุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ไม่เที่ยง เธอพึงละความพอใจในเวทนา นั้นเสีย ฯลฯ ใจไม่เที่ยง ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ มโนสัมผัส สุขเวทนา ทุกขเวทนาหรือ อทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ไม่เที่ยง เธอพึงละความพอใจในเวทนา นั้นเสีย
49 ราธสูตรที่ ๒สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอพึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย อะไรเล่าเป็นทุกข์ จักษุแลเป็น ทุกข์ รูป จักษุวิญญาณ จักษุสัมผัส สุขเวทนาทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุขเวทนา ที่เกิด ขึ้นเพราะ จักษุสัมผัสเป็นปัจจัย เป็นทุกข์ เธอพึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย ฯลฯ ใจเป็นทุกข์ ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ มโนสัมผัส สุขเวทนาทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุข เวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส เป็นปัจจัย เป็นทุกข์ เธอพึงละความ พอใจในสิ่งนั้นเสีย
50 ราธสูตรที่ ๓ : สภาพใดแลไม่ใช่ตัวตน เธอพึงละความพอใจใน สภาพนั้นเสีย อะไรเล่าไม่ใช่ ตัวตน จักษุแลไม่ใช่ตัวตน รูป จักษุสัมผัส ฯลฯ ใจ ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ มโนสัมผัส สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ไม่ใช่ตัวตน เธอพึงละ ความพอใจในสภาพนั้นเสีย
51 ๕. ราธชาดก ว่าด้วยพูดเพ้อเจ้อเพราะความเขลา : ดูกรราธะ ท่านไม่รู้จักคนทั้งหลาย ที่ยัง ไม่มาในเวลาปฐมยาม ท่านพูด เพ้อเจ้อไปตามความโง่เขลา นางพราหมณีผู้โกสิยโคตรเป็นหญิง ไม่ดี หมดความรักใคร่ในบิดาของท่าน.
52 ๖. กากชาดก ว่าด้วยกาวิดน้ำด้วยปาก: เออก็คางของเราเมื่อยล้าแล้ว และปากของเรา ก็ ซูบซีด เราพากันเลิกเถอะ อย่าวิดเลย เพราะมหาสมุทรก็ยังเต็มอยู่ตามเดิม.
53 ๗. บุปผรัตตชาดก เป็นทุกข์เพราะภรรยาไม่ได้ผ้าย้อมดอกคำ ความทุกข์เพราะถูกเสียบ หลาว ถูกกาจิกเราก็ดี ก็ไม่เป็นความทุกข์ของเรา ความทุกข์ที่ว่าภรรยาของเราจะไม่ได้นุ่งห่ม ผ้าย้อม ดอกคำ เที่ยวเล่นมหรสพในเดือน ๑๒ นี้ เป็นทุกข์ของเรา.
54 ๘. สิคาลชาดก ว่าด้วยสุนัขเข้าอยู่ในท้องช้าง เราจะไม่เข้าไปสู่ท้องช้างบ่อยๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะในเวลาที่เข้าไปอยู่ใน ท้องช้าง เราถูกภัยคุกคามแล้ว.
55 ๙. เอกปัณณชาดก ว่าด้วยต้นไม้ใบเดียว ต้นไม้นี้มีเพียงใบเดียว จากพื้นสูงไม่เกิน ๔ นิ้ว ยังมีรส เช่นกับยาพิษ ต้นไม้นี้ เติบโตขึ้นจักขมสักเพียงไหน?
56 ๑๐. สัญชีวชาดก ว่าด้วยโทษที่ยกย่องอสัตบุรุษ ผู้ใดยกย่องอสัตบุรุษ และคบหาอสัตบุรุษ อสัตบุรุษ ย่อมทำผู้นั้นแหละให้เป็นอาหาร เหมือนเสือโคร่งที่ตายแล้ว สัญชีวมาณ พร่ายมนต์ ให้กลับฟื้นขึ้นมา ทำสัญชีวมาณพ ให้เป็นเหยื่อ ฉะนั้น. |