พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๗๖
เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
[๑๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่อย่างไรเล่า?
ภิกษุใน
ธรรมวินัยนี้ เมื่อ
เสวยสุขเวทนา ก็รู้ชัดว่าเราเสวยสุขเวทนา
เสวยทุกขเวทนา ก็รู้ชัดว่า เราเสวยทุกขเวทนา
เสวยอทุกขมสุขเวทนา ก็รู้ชัดว่า เราเสวยอทุกขมสุขเวทนา.
หรือเสวยสุขเวทนา มีอามิส ก็รู้ชัดว่า เราเสวยสุขเวทนา มีอามิส
หรือเสวยสุขเวทนา ไม่มีอามิส ก็รู้ชัดว่า
เราเสวยสุขเวทนา ไม่มีอามิส
หรือเสวยทุกขเวทนา มีอามิส ก็รู้ชัดว่า เราเสวยทุกขเวทนา
มีอามิส
หรือเสวยทุกขเวทนา ไม่มีอามิส ก็รู้ชัดว่า เราเสวยทุกขเวทนา ไม่มีอามิส
หรือ
เสวยอทุกขสุขเวทนา มีอามิส ก็รู้ชัดว่า เราเสวยอทุกขมสุขเวทนา มีอามิส
หรือเสวยอทุกขมสุขเวทนาไม่มีอามิส ก็รู้ชัดว่าเราเสวยอทุกขมสุขเวทนา ไม่มีอามิส
ดังพรรณนามาฉะนี้
ภิกษุย่อม
พิจารณา เห็นเวทนา ในเวทนาภายในบ้าง
พิจารณา เห็นเวทนา ในเวทนาภายนอกบ้าง
พิจารณา เห็นเวทนา ในเวทนาทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง
พิจารณา เห็นธรรม คือ ความเกิดขึ้นในเวทนาบ้าง
พิจารณา เห็นธรรม คือ ความเสื่อมในเวทนาบ้าง
พิจารณา เห็นธรรม คือ ทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อม ในเวทนาบ้าง ย่อมอยู่
อนึ่ง
สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่า เวทนามีอยู่
ก็เพียงสักว่าความรู้เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น
เธอเป็นผู้อันตัณหา และทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆในโลก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณา เห็นเวทนา ในเวทนาอยู่.
จบ เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน.
|