|
นรกภูมิ
(ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
หน้าที่ ๓๔๓)
โกกาลิกสูตรที่ ๑๐
(อายุขัยของสัตว์อเวจีนรก 1 ปทุมะ)
.....ครั้นพอล่วงราตรีนั้นไป พระผู้มีพระภาคตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อคืนนี้ เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว ท้าวสหัมบดีพรหม มีรัศมีอันงามยิ่ง ทำวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง ไสว เข้ามาหาเราถึงที่อยู่ อภิวาทแล้วยืน
อยู่ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กล่าวกะเราว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ โกกาลิกภิกษุมรณภาพแล้วอุบัติใน ปทุมนรก เพราะจิตคิดอาฆาต ใน พระสารีบุตร และ
พระโมคคัลลานะ ท้าวสหัมบดีพรหม ครั้นกล่าวดังนี้แล้ว กระทำประทักษิณ แล้วได้อันตรธานหายไปในที่นั้นเอง ฯ
[๓๘๖] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ภิกษุรูปหนึ่งได้ทูลถาม
พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่ พระโคดมผู้เจริญ ประมาณอายุในปทุมนรกนานเพียงใด
พระเจ้าข้าฯ
พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุ ประมาณอายุในปทุมนรกนานนัก
การนับประมาณอายุในปทุมนรกนั้นว่า เท่านี้ปี เท่านี้ร้อยปี เท่านี้พันปี หรือว่าเท่านี้แสนปี ไม่ใช่ทำได้ง่าย ฯ
ภ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระองค์สามารถจะทรงกระทำการเปรียบเทียบได้หรือไม่ พระเจ้าข้าฯ
พระผู้มีพระภาคทรงรับว่าสามารถ ภิกษุ ดังนี้แล้วตรัสว่า ดูกรภิกษุ เปรียบเหมือนเกวียน ที่ บรรทุกงาหนัก ๒๐ หาบของชาวโกศล เมื่อล่วงไปได้
ร้อยปี พันปี แสนปี บุรุษพึงหยิบเมล็ดงา ขึ้นจากเกวียนนั้นออกทิ้งเมล็ดหนึ่งๆ
ดูกรภิกษุ เกวียนที่บรรทุกงาหนัก ๒๐ หาบของชาวโกศลนั้น จะพึงถึงความ
สิ้นไปโดยลำดับนี้ เร็วเสียกว่า แต่ อัพพุทนรกหนึ่ง จะไม่พึงถึงความสิ้นไปได้เลย
ดูกรภิกษุ
๒๐ อัพพุทนรกเป็น ๑ นิรัพพุทนรก (อัพพุทนรกเป็นนรกที่ตื้นที่สุด)
๒๐ นิรัพพุทนรกเป็น ๑
อัพพนรก
๒๐ อัพพนรกเป็น ๑ อหหนรก
๒๐ อหหนรกเป็น ๑ อฏฏนรก
๒๐ อฏฏนรกเป็น ๑ กุมุทนรก
๒๐ กุมุทนรกเป็น ๑ โสคันธิกนรก
๒๐
โสคันธินรกเป็น ๑ อุปลกนรก
๒๐ อุปลกนรกเป็น ๑ ปุณฑรีกนรก
๒๐ ปุณฑรีก
นรกเป็น ๑ ปทุมนรก อย่างนี้ (ภิกษุโกกาลิก หลังมรณะภาพได้มาเกิดที่นรกชั้นนี้)
ก็โกกาลิกภิกษุอุบัติใน ปทุมนรกเพราะจิตคิด
อาฆาตในสารีบุตร และโมคคัลลานะพระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว
จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ ต่อไปว่า
[๓๘๗] ก็วาจาหยาบเช่นกับขวาน เกิดในปากของบุรุษแล้ว เป็น
เหตุตัดรอนตนเอง ของบุรุษ ผู้เป็นพาล ผู้กล่าวคำทุพภาษิต ผู้ใดสรรเสริญคนที่ควรนินทา หรือนินทาคนที่ควรสรรเสริญ
ผู้นั้นย่อมก่อโทษเพราะปาก ย่อมไม่ได้ความสุขเพราะโทษนั้น การแพ้ด้วยทรัพย์ เพราะเล่น การพนันเป็นโทษเพียงเล็กน้อย โทษของผู้ที่ยังใจให้ ประทุษร้ายในท่านผู้ปฏิบัติดีนี้
แล เป็น โทษมากกว่า บุคคลตั้งวาจาและใจอันลามกไว้แล้ว
เป็นผู้ติเตียนพระอริยะเจ้า ย่อมเข้าถึง นรกตลอดกาลประมาณ ด้วยการนับปี ๑๐๐,๐๐๐ นิรัพพุทะและ ๔๐ อัพพุทะ ผู้กล่าวคำเท็จ ย่อมเข้าถึงนรก
อนึ่ง ผู้ทำกรรมอันลามกแล้ว
กล่าวว่าไม่ได้ทำ ก็ย่อมเข้าถึงนรกอย่างเดียวกัน แม้คนทั้ง
สองนั้น เป็นมนุษย์มีกรรมอันเลวทราม ละไปแล้วย่อมเป็นผู้เสมอกันในโลกเบื้องหน้า ผู้ใดประทุษร้าย ต่อคนผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้เป็นบุรุษหมดจด ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน บาปย่อมกลับมาถึงผู้เป็นพาล นั้นเอง เหมือนธุลีละเอียดที่บุคคลซัดไป ทวนลมฉะนั้น
ผู้ที่ประกอบเนืองๆ ในคุณคือความโลภ ไม่มีศรัทธา กระด้าง ไม่รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความ ตระหนี่ ประกอบเนืองๆ ในคำส่อเสียด ย่อมบริภาษผู้อื่น
ด้วยวาจา แน่ะคนผู้มีปากเป็นหล่ม กล่าวคำอันไม่จริง ผู้ไม่ประเสริฐ ผู้กำจัดความเจริญ ผู้ลามก ผู้กระทำความชั่ว
ผู้เป็นบุรุษในที่สุด มีโทษ เป็นอวชาต ท่านอย่าได้พูดมากในที่นี้ อย่าเป็นสัตว์นรก ท่านย่อมเกลี่ยธุลี คือ กิเลส
ลงในตนเพื่อกรรมมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล
ท่านผู้ทำกรรมหยาบ
ยังติเตียนสัตบุรุษ ท่านประพฤติทุจริตเป็นอันมากแล้ว ย่อมไปสู่มหานรก สิ้นกาลนาน กรรมของใครๆ ย่อมฉิบหายไปไม่ได้เลย บุคคลมาได้รับกรรม นั้นแล เป็นเจ้าของ แห่งกรรมนั้น
(เพราะ) คนเขลาผู้ทำกรรมหยาบ ย่อมเห็นความทุกข์ ในตน
ในปรโลก
ผู้ทำกรรมหยาบ ย่อมเข้าถึงสถานที่อันนายนิรยบาล
นำขอเหล็กมา ย่อมเข้าถึงหลาวเหล็กอัน คม กริบและย่อมเข้าถึงก้อนเหล็กแดงโชติช่วง เป็นอาหารอันสมควรแก่กรรม ที่ตนทำไว้อย่าง นั้น
สัตว์นรกทั้งหลาย จะพูดก็พูดไม่ได้ จะวิ่งหนีก็ไม่ได้ ไม่ได้ที่ต้านทานเลย นายนิรยบาล ลากขึ้น ภูเขาถ่านเพลิง
สัตว์นรกนั้นนอนอยู่บนถ่านเพลิงอันลาดไว้ ย่อมเข้าไปสู่กองไฟอันลุกโพลง พวกนายนิรยบาล เอาข่ายเหล็กพัน ตีด้วยฆ้อนเหล็กในที่นั้น
สัตว์นรกทั้งหลาย ย่อมไปสู่
โรรุวนรกที่มืดทึบ ความมืดทึบนั้นแผ่ไปเหมือนกลุ่มหมอก ฉะนั้น ก็ทีนั้น
สัตว์นรกทั้งหลาย ย่อมเข้าไปสู่หม้อเหล็ก
อันไฟลุกโพลง ลอยฟ่องอยู่ ไหม้อยู่ใน หม้อเหล็ก นั้นอันไฟ ลุกโพลงสิ้นกาลนาน ก็ผู้ทำกรรมหยาบจะไปสู่ทิศใดๆ ก็
หมกไหม้อยู่ในหม้อเหล็ก อันเปื้อนด้วยหนองและเลือดในทิศนั้นๆ ลำบากอยู่ใน หม้อเหล็กนั้น ผู้ทำกรรมหยาบหมกไหม้
อยู่ในน้ำอันเป็นที่อยู่ของหมู่หนอน ในหม้อ เหล็กนั้นๆ แม้
ฝั่งเพื่อจะไปก็ไม่มีเลย เพราะกระทะ ครอบอยู่โดยรอบมิดชิด
ในทิศ ทั้งปวง และยังมีป่าไม้มีใบเป็นดาบคม
สัตว์นรกทั้งหลาย ย่อมเข้าไปสู่ป่าไม้ ถูกดาบใบไม้ตัดหัวขาด พวกนายนิรยบาลเอาเบ็ดเกี่ยวลิ้น ออกแล้ว ย่อมเบียดเบียนด้วยการ
ดึงออกมาๆ ก็ลำดับนั้น สัตว์นรกทั้งหลายย่อมเข้าถึงแม่น้ำ ด่าง
อันเป็นหล่ม ย่อมเข้าถึงคมมีดโกนอันคมกริบ
สัตว์นรกทั้งหลาย
ผู้กระทำบาปเป็นผู้เขลา ย่อมตกลงไปบนคมมีดโกนนั้นเพราะได้กระทำบาปไว้ ก็สุนัขดำ สุนัขด่างและสุนัขจิ้งจอก ย่อมรุมกัดกินสัตว์นรกทั้งหลาย ผู้ร้องไห้อยู่ที่นั้น ฝูงกาดำ แร้งนกตะกรุม และกาไม่ดำ ย่อมรุมกันจิกกิน คนผู้ทำกรรม
หยาบ ย่อมเห็นความเป็นไป ในนรกนี้ ยากหนอ
เพราะฉะนั้น
นรชนพึงเป็นผู้ทำกิจที่ควรทำในชีวิตที่ยังเหลืออยู่นี้ และไม่พึงประมาท เกวียน บรรทุกงา ผู้รู้ทั้งหลายนับแล้วนำเข้าไป
เปรียบในปทุมนรก เป็น ๕๑,๒๐๐ โกฏิ นรกเป็นทุกข์
เรากล่าวแล้วในพระสูตรนี้ เพียงใด สัตว์ทั้งหลายผู้ทำ
กรรมหยาบ พึงอยู่ในนรกแม้นั้น ตลอด กาลนานเพียงนั้น
เพราะฉะนั้น บุคคลพึงกำหนดรักษาวาจา ใจ ให้เป็นปรกติ
ในผู้สะอาด มีศีลเป็นที่รักและมีคุณดีงามทั้งหลาย
|