(1)
ฌานสูตรที่ ๑ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๒๕ P1539
สมาธิ รูปสัญญา (ฌาน 1- 4)
อริยสาวกผู้ได้สดับ กับ ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อได้สมาธิ (รูปสัญญา)
(1) บางคนในโลกนี้ บรรลุปฐมฌาน ไม่เสื่อมเมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทวดาเหล่าพรหมกายิกา ประมาณอายุ 1 กัป
-พรหมกายิกา ปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
-ส่วนพรหมกา(ผู้ได้สดับคำของตถาคต) หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
(2) บางคนในโลกนี้ บรรลุทุติยฌาน ไม่เสื่อมเมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทวดาเหล่า อาภัสสระ ประมาณอายุ 2 กัป
- อาภัสสระปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- อาภัสสระ (ผู้ได้สดับคำของตถาคต) หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
(3) บางคนในโลกนี้ บรรลุตติยฌาน ไม่เสื่อมเมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทวดาเหล่า สุภกิณหะ ประมาณอายุ 4 กัป
- สุภกิณหะ ปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- สุภกิณหะ (ผู้ได้สดับคำของตถาคต) หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
(4) บางคนในโลกนี้ บรรลุ ทุตติยฌาน ไม่เสื่อมเมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทวดาเหล่า เวหัปผละ ประมาณอายุ 500 กัป
- เวหัปผละ ปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- เวหัปผละ (ผู้ได้สดับคำของตถาคต) หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
หนังสือสกทาคามี
(2)
เจริญพรหมวิหาร 4
อริยสาวกผู้ได้สดับ กับ ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อได้เจริญพรหมวิหาร 4
(1) บางคนในโลกนี้ มีจิตประกอบด้วยเมตตา ไม่เสื่อมเมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทวดาเหล่า พรหมกายิกา ประมาณอายุ 1 กัป
- พรหมกายิกา ปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- ส่วนพรหมกา ผู้ได้สดับ คำของตถาคต หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
(2) บางคนในโลกนี้ มีจิตประกอบด้วยกรุณา ไม่เสื่อมเมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทวดาเหล่า อาภัสสระ ประมาณอายุ 2 กัป
- อาภัสสระ ปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- อาภัสสระ ผู้ได้สดับ คำของตถาคต หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
(3) บางคนในโลกนี้ มีจิตประกอบด้วย มุทิตา ไม่เสื่อมเมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทวดาเหล่า สุภกิณหะ ประมาณอายุ 4 กัป
- สุภกิณหะ ปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- สุภกิณหะ ผู้ได้สดับ คำของตถาคต หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
(4) บางคนในโลกนี้ มีจิตประกอบด้วยอุเบกขา ไม่เสื่อมเมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทวดาเหล่า เวหัปผละ ประมาณอายุ 500 กัป
- เวหัปผละ ปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- เวหัปผละ ผู้ได้สดับ คำของตถาคต หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
หนังสือสกทาคามี
(3)
สมาธิระดับ อรูปสัญญา (บุคคล 3 จำพวก)
อริยสาวกผู้ได้สดับ กับ ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อได้สมาธิระดับ รูปสัญญา
(1) บางคนก้าวล่วง รูปสัญญาเสียได้ เข้าถึง อากาสานัญจายตนะ ยินดีด้วยธรรมนั้น ไม่เสื่อม เมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเหล่าเทวดาที่เข้าถึงชั้น อากาสานัญจายตนะ ประมาณอายุ 20,000 กัป
- เทวดา ปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- เทวดา ผู้ได้สดับ คำของตถาคตหลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
(2) บางคนก้าวล่วง อากาสานัญจายตนะ เข้าถึง วิญญานัญจายตนะ ยินดีด้วยธรรมนั้น ไม่เสื่อม เมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเหล่าเทวดาที่เข้าถึงชั้น อากาสานัญจายตนะ ประมาณอายุ 40,000 กัป
- เทวดา ปุถุชน หลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- เทวดา ผู้ได้สดับ คำของตถาคต หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
(3) บางคนก้าวล่วง วิญญานัญจายตนะ เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ ยินดีด้วยธรรมนั้น ไม่เสื่อม เมื่อทำกาละ ย่อมเข้าถึงเหล่าเทวดาที่เข้าถึงชั้น อากาสานัญจายตนะ ประมาณอายุ 60,000 กัป
- เทวดา ปุถุชนหลังทำกาละแล้ว ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย
- เทวดา ผู้ได้สดับ คำของตถาคต หลังทำกาละแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้น
(พระสูตรกล่าวถึงบุคคล 3 จำพวกในชั้นอรูป แต่ไม่กล่าวถึงบุคคลที่ 4 ที่ก้าวล่วงอากิญ จัญญายตนะ เข้าถึง เนวสัญญานาสัญญายตนะ)
(4)
พระไตรปิฎก (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๔ สุตตันตปิฎกหน้าที่ ๑๒๒ - ๑๒๖ P229
บุคคล 10 จำพวก (ผู้ได้สดับ กับผู้ไม่ได้สดับ)
มิคสาลาสูตร
(สรุปโดยย่อ)
บุคคลทุศีล
1. ปุถุชนผู้ทุศีล.. ไม่ฟังธรรมเนืองๆ ไม่แทงตลอด ไม่รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเสื่อม (ไม่ไปในทางเจริญ)
2. สาวกตถาคตผู้ทุศีล (แต่ได้สดับ) ฟังธรรมเนืองๆ แทงตลอดด้วยทิฐิ รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเจริญ (ไม่ไปในทางเสื่อม)
บุคคลผู้มีศีล
3. ปุถุชนผู้มีศีล..ไม่ฟังธรรมเนืองๆ ไม่แทงตลอด ไม่รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเสื่อม
4. สาวกตถาคตผู้มีศีล..ฟังธรรมเนืองๆ แทงตลอดด้วยทิฐิ รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเจริญ
ผู้มีราคะกล้า
5. ปุถุชนผู้มีราคะกล้า..ไม่ฟังธรรมเนืองๆ ไม่แทงตลอด ไม่รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเสื่อม
6. สาวกตถาคตผู้มีราคะกล้า.. ฟังธรรมเนืองๆ แทงตลอดด้วยทิฐิ รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเจริญ
ผู้มักโกรธ
7. ปุถุชนมักโกรธ..ไม่ฟังธรรมเนืองๆ ไม่แทงตลอด ไม่รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเสื่อม
8. สาวกตถาคตผู้มักโกรธ..ฟังธรรมเนืองๆ แทงตลอดด้วยทิฐิ รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเจริญ
ผู้ฟุ้งซ่าน
9. ปุถุชนผู้ฟุ้งซ่าน.. ไม่ฟังธรรม ไม่แทงตลอด ไม่รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเสื่อม
10. สาวกตถาคตผู้ฟุ้งซ่าน..ฟังธรรมเนืองๆ แทงตลอดด้วยทิฐิ รู้ชัดเจโต-ปัญญาวิมุตติ ย่อมไปในทางเจริญ
มิคสาลาอุบาสิกาถามปัญหากับอานนท์
ปุราณะ เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ งดเว้นจากเมถุน ทำกาละแล้ว
แต่พระผู้มีพระภาค ทรงพยากรณ์ว่า เป็นสกทาคามีบุคคล เข้าถึงชั้นดุสิต (แต่หลังกายแตกทำลาย จะปรินิพพาน)
อิสิทัตตะ ไม่เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ยินดีนภรรยาของตน ทำกาละแล้ว
พระผู้มีพระภาคก็ทรงพยากรณ์ว่า เป็นสกทาคามีบุคคล เข้าถึงชั้นดุสิต (แต่หลังกายแตกทำลาย ย่อมไปสู่ทุคติวินิบาตและนรก)
|