พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗๘
อัสสสูตรที่ ๓
[๕๘๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงม้าอาชาไนยตัวเจริญ ๓ จำพวก และบุรุษอาชาไนยผู้เจริญ ๓ จำพวก เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดีเราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ม้าอาชาไนยตัวเจริญ ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ
๑) ม้าอาชาไนยตัว ---เจริญบางตัวในโลกนี้ เป็นสัตว์สมบูรณ์ด้วยกำลังเป็นเครื่อง วิ่งเร็ว แต่ไม่สมบูรณ์ด้วยสี ไม่สมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่
๒) ม้าอาชาไนยตัวเจริญบางตัวในโลกนี้ เป็นสัตว์สมบูรณ์ด้วยกำลังเครื่องวิ่งเร็ว และสมบูรณ์ด้วยสี แต่ไม่สมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่
๓) ม้าอาชาไนยตัวเจริญบางตัวในโลกนี้ เป็นสัตว์สมบูรณ์ด้วยกำลังเครื่องวิ่งเร็ว สมบูรณ์ด้วยสี และสมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยตัวเจริญ ๓ จำพวกนี้แล
------------------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย (พวก1) ก็บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ
๑) บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคนในโลกนี้ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์แต่ ไม่สมบูรณ์ด้วย วรรณะ ไม่สมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่
๒) บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคนในโลกนี้ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ และสมบูรณ์ด้วย วรรณะ แต่ไม่สมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่
๓) บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคนในโลกนี้ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ สมบูรณ์ด้วย วรรณะ และสมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่
------------------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย (พวก 1) ก็บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วย เชาวน์ แต่ไม่ สมบูรณ์ด้วยวรรณะ ไม่สมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่ อย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหา อาสวะมิได้ เพราะอาสวะ ทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ เรากล่าวว่า นี้เป็นเชาวน์ ของเขา
แต่เมื่อเขาถูกถามปัญหา ในอภิธรรม อภิวินัย ก็จนปัญญา วิสัชนาไม่ได้ เรากล่าวว่า นี้ไม่ใช่วรรณะของเขา
และเขาไม่ได้ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและ คิลานปัจจัย เภสัชบริขาร เรากล่าวว่า นี้ไม่ใช่ความสูง และความใหญ่ของเขา
ดูกรภิกษุทั้งหลายบุรุษอาชาไนยผู้เจริญ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วย เชาวน์ แต่ไม่สมบูรณ์ ด้วยวรรณะ ไม่สมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่อย่างนี้แล
------------------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย (พวก 2) ก็บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วย เชาวน์ และ สมบูรณ์ด้วยวรรณะ แต่ไม่สมบูรณ์ด้วย ความสูงและความใหญ่ อย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหา อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ เรากล่าวว่า นี้เป็นเชาวน์ของเขา และเมื่อเขาถูกถามปัญหาในอภิธรรม อภิวินัย ก็วิสัชนาได้ ไม่จนปัญญา เรากล่าวว่านี้เป็นวรรณะของเขา แต่เขาไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร เรากล่าวว่า นี้ไม่ใช่ความสูงและ ความใหญ่ ของเขา ดูกรภิกษุทั้งหลายบุรุษอาชาไนยผู้เจริญ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ และ สมบูรณ์ด้วยวรรณะ แต่ไม่สมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่อย่างนี้แล
------------------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ สมบูรณ์ ด้วยวรรณะ และสมบูรณ์ด้วยความสูง และความใหญ่อย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย (พวก 3) ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะ ทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ เรากล่าวว่า นี้เป็นเชาวน์ของเขา และเมื่อเขาถูกถามปัญหาใน อภิธรรม อภิวินัย ก็วิสัชนาได้ ไม่จนปัญญา เรากล่าวว่า นี้เป็นวรรณะของเขา และเขามักได้ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารเรากล่าวว่า นี้เป็นความสูงและ ความใหญ่ ของเขา ดูกรภิกษุทั้งหลายบุรุษอาชาไนยผู้เจริญ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ สมบูรณ์ด้วยวรรณะ และสมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่ อย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ ๓ จำพวกนี้แล
|