เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่ พุทธวจน คำสอนของพระศาสดา คำสอนตถาคต รวมพระสูตรสำคัญ อนาคามี เว็บไซต์เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ค้นหาคำที่ต้องการ            

 
 วิญญาณ ตั้งอยู่ได้ในที่ใด การก้าวลง แห่งนามรูป ก็มีอยู่ในที่นั้น 1399
 

(โดยย่อ)

วิญญาณ ตั้งอยู่ได้ในที่ใด การก้าวลง แห่งนามรูป.. สังขารทั้งหลาย.. ชาติชรามรณะ.. ก็มีอยู่ในที่นั้น เราเรียกว่าที่นั่นมีความโศก

ดเพิ่ม
ปุตตมังสสูตร (P691)
อัตถิราคสูตร (P693)




เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน

 

อาหารสี่ ของสัมภเวสีสัตว์ และภูตสัตว์ อาหารสี่อย่างนั้น คือ
๑ กวฬีการาหาร หยาบบ้าง ละเอียดบ้าง (อาหารคือคำข้าว ที่เข้าปาก กลืน กิน เคี้ยว)
๒ ผัสสาหาร (ผัสสะ คืออาหารของอายตนะ ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)
๓ มโนสัญ เจตนาหาร (อาหารของจิต ที่คิดในเรื่องอดีต ที่เป็นสัญญาเก่า)
๔ วิญญาณาหาร (อาหารของวิญญาณ ที่เข้าไปตั้งอยู่ใน ๔ ธาตุ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร)
ปุตตมังสสูตร (P691)
อัตถิราคสูตร (P693)

-บาลีนิทาน. สํ. ๑๖/๑๒๒/๒๔๕.

วิญญาณ ตั้งอยู่ได้ในที่ใด การก้าวลง
แห่งนามรูป
ก็มีอยู่ในที่นั้น

(อุปมาด้วยแสงกับฉาก)


              ภิกษุทั้งหลาย อาหาร ๔ อย่างเหล่านี้ เป็นไปเพื่อความดำรงอยู่ของสัตว์ ผู้เกิดแล้ว หรือเพื่ออนุเคราะห์แก่ เหล่าสัตว์ผู้แสวงหาที่เกิด

อาหาร
อย่าง นั้นมีอะไรบ้าง คือ
๑) อาหารที่หนึ่งคือ กวฬีการาหาร (อาหารของกาย คำข้าว ที่หยาบบ้าง ละเอียดบ้าง)
๒) อาหารที่สองคือ ผัสสะ (อาหารของอายตนะภายใน๖ คือของ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)
๓) อาหารที่สามคือ มโนสัญเจตนา (อาหารของจิต เรื่องที่คิดในอดีต ที่เป็นสัญญาเก่า)
๔) อาหารที่สี่คือ วิญญาณ (อาหารของวิญญาณคือวิญญาณฐิติ รูป เวทนาสัญญาสังขาร)

  อาหาร ๔ อีกรูปแบบหนึ่
  อาหารของกาย
   -อาหารของกาย หรืออาหารทางปาก (อาหารที่เข้าปากเป็นคำๆ)
   -อาหารของอายตนะภายใน๖ คือผัสสะ (คืออาหารจากผัสสะทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)
  อาหารของใจ
  -มโนสัญญเจตนา (ความคิดถึงเรื่องเราวในอดีต ที่เป็นสัญญาเก่า)
  -วิญญาณ (อาหารของวิญญาณ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร หรือที่ตั้งของจิต)

(กรณีมีราคะ นันทิ ตัณหา ในอาหาร๔)

ภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้แลอาหาร ๔ อย่าง เป็นไป เพื่อความดำรงอยู่ ของสัตว์ ผู้เกิดแล้ว หรือเพื่ออนุเคราะห์แก่เหล่าสัตว์ผู้แสวงหาที่เกิด(สัมภเวสี)

(ถ้ามี ราคะ.. ในอาหารคือ คำข้าว)
ภิกษุทั้งหลาย ถ้ามี ราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหาร คือคำข้าวแล้ว
วิญญาณก็ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ในอาหาร คือคำข้าว นั้น

วิญญาณตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในที่ใด

การก้าวลงแห่ง นามรูป (นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ) ก็มีในที่นั้น

การก้าวลงแห่งนามรูป มีในที่ใด
ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีในที่นั้น

ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย มีในที่ใด
การเกิดในภพใหม่ต่อไป ก็มีในที่นั้น

การเกิดในภพใหม่ต่อไป มีในที่ใด
ชาติ ชราและมรณะต่อไป ก็มีในที่นั้น

ชาติ ชราและ มรณะต่อไป มีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่มีความโศกมีธุลี และมีความคับแค้น.
-----------------------------------------------------------------

(ถ้ามี ราคะ.. ในอาหารคือ ผัสสะ)
ภิกษุทั้งหลาย ถ้ามี ราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหารคือ ผัสสะ แล้ว
วิญญาณก็ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในอาหาร คือ ผัสสะ นั้น

วิญญาณตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง นามรูป ก็มีในที่นั้น

การก้าวลงแห่งนารู ปมีในที่ใด
ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีในที่นั้น

ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย มีในที่ใด
การเกิดในภพใหม่ต่อไป ก็มีในที่นั้น

การเกิดในภพใหม่ต่อไป มีในที่ใด
ชาติ ชราและมรณะต่อไป ก็มีในที่นั้น

ชาติ ชราและ มรณะต่อไป มีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่มีความโศก มีธุลี และมีความคับแค้น.
-----------------------------------------------------------------

(ถ้ามีราคะ... ในอาหาร คือ มโนสัญเจตนา)
ภิกษุทั้งหลาย ถ้ามี ราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหารคือ มโนสัญเจตนา แล้ว วิญญาณก็ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในอาหารคือ มโนสัญเจตนา นั้น

วิญญาณตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง นามรูป ก็มีในที่นั้น

การก้าวลงแห่งนามรูป มีในที่ใด
ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีในที่นั้น

ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย มีในที่ใด
การเกิดในภพใหม่ต่อไป ก็มีในที่นั้น

การเกิดในภพใหม่ต่อไป มีในที่ใด
ชาติ ชราและมรณะต่อไป ก็มีในที่นั้น

ชาติ ชราและ มรณะต่อไป มีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่มีความโศก มีธุลี และมีความคับแค้น.
-----------------------------------------------------------------

(ถ้ามีราคะ...ในอาหารคือ วิญญาณ)
ภิกษุทั้งหลาย ถ้ามี ราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหาร คือ วิญญาณ แล้ว
วิญญาณก็ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในอาหารคือ วิญญาณ นั้น

วิญญาณตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงาม อยู่ได้ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง นามรูป ก็มีในที่นั้น

การก้าวลง แห่งนามรูป มีในที่ใด
ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีในที่นั้น

ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย มีในที่ใด
การเกิดใน ภพใหม่ต่อไป ก็มีในที่นั้น

การเกิด ในภพใหม่ต่อไป มีในที่ใด
ชาติ ชราและมรณะต่อไป ก็มีในที่นั้น

ชาติ ชราและ มรณะ ต่อไปมีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่มีความโศก มีธุลี และ มีความคับแค้น.
-----------------------------------------------------------------

(อุปมา ช่างเขียน)
ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมื่อมีน้ำย้อม คือ ครั่ง ขมิ้น สีเขียว หรือสีบานเย็น ช่างย้อม หรือช่างเขียนก็สามารถเขียนรูปสตรี หรือรูปบุรุษ ลงที่แผ่นกระดาน หรือฝาผนัง หรือที่ผืนผ้า ซึ่งเกลี้ยงเกลาได้ครบทุกส่วน แม้ฉันใด

ภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้ก็ฉันนั้น
ถ้ามี
ราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหาร คือคำข้าว แล้ว
วิญญาณก็ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในอาหารคือ คำข้าว นั้น

วิญญาณตั้ง อยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง
นามรูป ก็มีในที่นั้น

การก้าวลง แห่งนามรูป มีในที่ใด
ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีในที่นั้น

ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย มีในที่ใด
การเกิดใน ภพใหม่ต่อไป ก็มีในที่นั้น

การเกิด ในภพใหม่ต่อไป มีในที่ใด
ชาติ ชราและมรณะต่อไป ก็มีในที่นั้น

ชาติ ชราและ มรณะ ต่อไปมีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่มีความโศก มีธุลี และมีความคับแค้น.

-----------------------------------------------------------------

ภิกษุทั้งหลาย ถ้ามีราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหารคือ ผัสสะ แล้ว
วิญญาณก็ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในอาหาร คือ ผัสสะ นั้น

วิญญาณตั้ง อยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง
นามรูป ก็มีในที่นั้น

การก้าวลง แห่งนามรูป มีในที่ใด
ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีในที่นั้น

ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย มีในที่ใด
การเกิดใน ภพใหม่ต่อไป ก็มีในที่นั้น

การเกิด ในภพใหม่ต่อไป มีในที่ใด
ชาติ ชราและมรณะต่อไป ก็มีในที่นั้น


ชาติ ชราและ มรณะ ต่อไปมีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่มีความโศก มีธุลี และมีความคับแค้น.

-----------------------------------------------------------------

ภิกษุทั้งหลาย ถ้ามีราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหารคือ มโนสัญเจตนา แล้ว วิญญาณก็ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในอาหารคือ มโนสัญเจตนา นั้น

วิญญาณตั้ง อยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง
นามรูป ก็มีในที่นั้น

การก้าวลง แห่งนามรูป มีในที่ใด
ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีในที่นั้น

ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย มีในที่ใด
การเกิดใน ภพใหม่ต่อไป ก็มีในที่นั้น

การเกิด ในภพใหม่ต่อไป มีในที่ใด
ชาติ ชราและมรณะต่อไป ก็มีในที่นั้น


ชาติ ชราและ มรณะ ต่อไปมีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่มีความโศก มีธุลี และมีความคับแค้น

-----------------------------------------------------------------

ภิกษุทั้งหลาย ถ้ามีราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหาร คือ วิญญาณ แล้ว วิญญาณก็ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในอาหารคือ วิญญาณ นั้น

วิญญาณตั้ง อยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง
นามรูป ก็มีในที่นั้น

การก้าวลง แห่งนามรูป มีในที่ใด
ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีในที่นั้น

ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย มีในที่ใด
การเกิดใน ภพใหม่ต่อไป ก็มีในที่นั้น

การเกิด ในภพใหม่ต่อไป มีในที่ใด
ชาติ ชราและมรณะต่อไป ก็มีในที่นั้น


ชาติ ชราและ มรณะ ต่อไปมีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่มีความโศก มีธุลี และมีความคับแค้น

-----------------------------------------------------------------

(อุปมา แสงกับฉาก)
ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเรือนยอดหรือศาลา เรือนยอด มีหน้าต่างทาง ทิศตะวันออกอันเปิดไปทาง ทิศเหนือ หรือทิศใต้ก็ตาม เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นมา แสงสว่าง (รสฺมิ) แห่งดวงอาทิตย์ส่องเข้าไปทางหน้าต่างแล้ว จะปรากฏ อยู่ที่ส่วนไหนแห่งเรือนนั้น.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ จะปรากฏที่ฝาเรือนด้านทิศตะวันตกพระเจ้าข้า.

ภิกษุทั้งหลาย ถ้าฝาเรือนด้านทิศตะวันตกไม่มี แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น จะปรากฏที่ไหน.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญจะปรากฏที่พื้นดินพระเจ้าข้า.

ภิกษุทั้งหลาย ถ้าพื้นดินไม่มี แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น จะปรากฏที่ไหน.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ จะปรากฏในน้ำ พระเจ้าข้า.

ภิกษุทั้งหลาย ถ้าน้ำไม่มี แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์นั้น จะปรากฏที่ไหน.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แสงสว่างแห่ง ดวงอาทิตย์นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ปรากฏแล้ว พระเจ้าข้า.


กรณีไม่มีราคะ นันทิ ตัณหา ในอาหาร๔

(กรณีไม่มี ราคะ..ในอาหารคือ คำข้าว)
ภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้ก็ฉันนั้น
ถ้าไม่มี ราคะ ไม่มี นันทิ ไม่มีตัณหา ในอาหาร คือ คำข้าว แล้ว วิญญาณก็ตั้งอยู่ไม่ได้ เจริญงอกงามไม่ได้ ในอาหารคือ คำข้าว นั้น

วิญญาณตั้งอยู่ไม่ได้ เจริญงอกงาม ไม่ได้ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง
นามรูป ก็ไม่มีในที่นั้น

การก้าวลงแห่งนามรูป ไม่มีในที่ใด
ความเจริญแห่ง สังขารทั้งหลายก็ไม่มีในที่นั้น

ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย ไม่มีในที่ใด

การเกิดในภพใหม่ต่อไปก็ ไม่มีในที่นั้น

การเกิดในภพใหม่ต่อไป ไม่มีในที่ใด
ชาติ ชรา และมรณะต่อไ ปก็ไม่มีในที่นั้น

ชาติ ชราและมรณะต่อไปไม่มี ในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่ไม่มีความโศก ไม่มีธุลี และ ไม่มีความคับแค้น.
-----------------------------------------------------------------

(กรณีไม่มี ราคะ.. ในอาหาร คือ ผัสสะ)
ภิกษุทั้งหลาย
ถ้าไม่มี
ราคะ ไม่มีนันทิ ไม่มีตัณหา ในอาหารคือ ผัสสะ แล้ว
วิญญาณก็ตั้งอยู่ไม่ได้  เจริญงอกงาม ไม่ได้ในอาหารคือ ผัสสะ นั้น

วิญญาณตั้งอยู่ไม่ได้ เจริญงอกงาม ไม่ได้ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง นามรูป ก็ไม่มีในที่นั้น

การก้าวลงแห่งนามรูป ไม่มีในที่ใด
ความเจริญแห่ง สังขารทั้งหลาย ก็ไม่มีในที่นั้น

ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย ไม่มีในที่ใด

การเกิดในภพใหม่ต่อไป ก ไม่มีในที่นั้น

การเกิดในภพใหม่ต่อไป ไม่มีในที่ใด
ชาติ ชรา และมรณะต่อไป ก็ไม่มีในที่นั้น

ชาติ ชราและมรณะต่อไป ไม่มีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่ไม่มีความโศก ไม่มีธุลี และ ไม่มีความคับแค้น.
-----------------------------------------------------------------

(กรณีไม่มี ราคะ.. คืออาหาร ใน มโนสัญเจตนา)
ภิกษุทั้งหลาย
ถ้าไม่มีราคะ ไม่มีนันทิ ไม่มีตัณหา ในอาหาร คือ มโนสัญเจตนา แล้ว วิญญาณก็ตั้งอยู่ไม่ได้ เจริญงอกงามไม่ได้ในอาหารคือ มโนสัญเจตนา นั้น

วิญญาณ ตั้งอยู่ไม่ได้  เจริญงอกงามไม่ได้ ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง นามรูปก็ไม่มีในที่นั้น

การก้าวลงแห่งนามรูป ไม่มีในที่ใด
ความเจริญแห่ง สังขารทั้งหลาย ก็ไม่มีในที่นั้น

ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย ไม่มีในที่ใด

การเกิดในภพใหม่ต่อไป ก ไม่มีในที่นั้น

การเกิดในภพใหม่ต่อไป ไม่มีในที่ใด
ชาติ ชรา และมรณะต่อไป ก็ไม่มีในที่นั้น

ชาติ ชราและมรณะต่อไป ไม่มีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่ไม่มี ความโศก ไม่มีธุลี และ ไม่มีความคับแค้น.
-----------------------------------------------------------------

(กรณีไม่มี ราคะ.. คืออาหาร ใน วิญญาณ)
ภิกษุทั้งหลาย
ถ้าไม่มีราคะ ไม่มีนันทิไม่มีตัณห
ในอาหารคือวิญญาณ แล้ว
วิญญาณก็ตั้งอยู่ไม่ได้ เจริญงอกงามไม่ได้ในอาหารคือ วิญญาณ นั้น

วิญญาณ ตั้งอยู่ไม่ได้ เจริญงอกงาม ไม่ได้ในที่ใด
การก้าวลงแห่ง นามรูป ก็ไม่มีใน ที่นั้น

การก้าวลงแห่งนามรูป ไม่มีในที่ใด
ความเจริญแห่ง สังขารทั้งหลาย ก็ไม่มีในที่นั้น

ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ไม่มีในที่ใด
การเกิดในภพใหม่ต่อไป ก็ไม่มีในที่นั้น

การเกิด ในภพใหม่ต่อไป ไม่มีในที่ใด
ชาติ ชราและมรณะต่อไป ก็ไม่มีในที่นั้น

ชาติ ชราและมรณะต่อไป ไม่มีในที่ใด
เราเรียกที่นั้นว่า เป็นที่ไม่มี ความโศก ไม่มีธุลี และไม่มีความคับแค้น.



 



 






พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์