เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่ พุทธวจน คำสอนของพระศาสดา คำสอนตถาคต รวมพระสูตรสำคัญ อนาคามี เว็บไซต์เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  พระเจ้าจักรพรรดิ์ มี 3 พระสูตร ที่เป็นพุทธวจน (นอกนั้นเป็น อรรถกถา) 1006
 
 
พระเจ้าจักรพรรดิ์ มี 3 พระสูตร (นอกนั้นเป็นอรรถกถา)

(1)
จักกวัตติสูตร พระจักรพรรดิ์ ทัลหเนมิ (P 772)
พระราชาผู้ทรงธรรม สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว       คฤหบดีแก้ว ปริณายกแก้ว

(2) มหาสุทัสสนสูตร
พระเจ้าจักรพรรดิมหาสุทัสสนะ (P460)
เมืองกุสาวดี (พระพุทธเจ้าในชาติอดีต) สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ

(3) มฆเทวสูตร พระเจ้ามฆเทวะ (P851)
เมืองมิถิลา (พระพุทธเจ้าในชาติอดีต) สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ อายุ 336,000 (84000*4)

(พระมหาจักรพรรดิ์ที่เป็น อรรถกถา พระเจ้ามันธาตุ พระเจ้าสังขะ พระเจ้ากาลิงคะ พระเจ้าติโลกวิชัย)
   เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
   การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
   การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
   แสวงหาสัจจะ บำเพ็ญทุกรกิริยา
   ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
   ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
   ปลงสังขาร ปรินิพพาน
   ลำดับขั้นการปรินิพพาน
   เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
   แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
 


ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๑ สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค หน้า ๔๔  - ๖๔


(1) จักกวัตติสูตร พระราชาจักรพรรดิ์ ทัลหเนมิ   P772


        พระเจ้าจักรพรรดิ์พระนามว่า ทัลหเนมิ ปกครองโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คฤหบดีแก้ว ปริณายกแก้ว

        พระราชบุตรของพระองค์ มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ สมเป็น วีรกษัตริย์ ทรงชนะ ข้าศึก โดยธรรม มิต้องใช้ศัสตราล่วงไปหลายร้อยหลายพันปี พระเจ้าจักรพรรดิ์ ตรัสเรียก บุรุษคนหนึ่งมารับสั่งว่า หากท่านเห็นจักรแก้ว อันเป็นทิพย์ ถอยเคลื่อน จากที่ เมื่อใด พึงบอกเราเมื่อนั้น...

        ล่วงไปอีกหลายร้อยหลายพันปี บุรุษนั้น เห็น จักรแก้ว ถอยเคลื่อนจากที่ จึงเข้าไปเฝ้า พระเจ้าจักรพรรดิ์เพื่อกราบทูล

        ลำดับนั้นทรงตรัสเรียกพระกุมารองค์ใหญ่ มารับสั่งว่า จักรแก้วอันเป็นทิพย์ ของพ่อ ถอยเคลื่อนจาก ที่แล้ว พ่อจะมีพระชนม์อยู่ได้ไม่นาน ในบัดนี้ ก็กามทั้งหลาย อันเป็นของมนุษย์ พ่อได้บริโภคแล้ว บัดนี้เป็นสมัยที่จะ แสวงหากามทั้งหลาย (อันเป็นทิพย์)

        มาเถิดพ่อกุมาร เจ้าจงปกครองแผ่นดินนี้ ฝ่ายพ่อจักปลงผม และ หนวด ออกจากเรือน บวชเป็นบรรพชิต(ฤาษี)เมื่อทรงผนวชได้ ๗ วัน จักรแก้วอันตรธาน หายไป

(อ่านพระสูตรเต็ม P772)



ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๐ สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค หน้า 135-153


(2) มหาสุทัสสนสูตร เรื่อง พระเจ้าจักรพรรดิมหาสุทัสสนะ (ย่อ) P460
(พระพุทธเจ้าในชาติอดีต)


        [๑๖๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ :-
ในสมัยใกล้เสด็จปรินิพพานคราวหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับในระหว่างไม้สาละ ในสาลวัน อันเป็นที่แวะพักของเหล่ามัลละกษัตริย์ เขตกรุงกุสินารา.

        ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ. ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ท่านพระอานนท์ นั่งเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาค อย่าเสด็จปรินิพพาน ในเมืองเล็ก เมืองดอน กิ่งเมืองนี้เลย.

        นครใหญ่เหล่าอื่น มีอยู่คือ เมืองจัมปา เมืองราชคฤห์ เมืองสาวัตถี เมืองสาเกต เมืองโกสัมพี เมืองพาราณสี. ขอพระผู้มีพระภาค จงเสด็จปรินิพพาน ในเมืองเหล่านี้ เถิด กษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล คฤหบดีมหาศาล ที่เลื่อมใส พระตถาคตอย่างยิ่ง มีอยู่มากในเมืองเหล่านี้. ท่านเหล่านั้นจักกระทำ การบูชาพระสรีระ ของ พระตถาคต ดังนี้.

        พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้ว่า เมืองเล็ก เมืองดอน กิ่งเมือง ดังนี้เลย.

        ดูกรอานนท์ แต่ปางก่อน มีพระเจ้าจักรพรรดิทรงพระนามว่า มหาสุทัสสนะ เป็น กษัตริย์ ผู้ได้มูรธาภิเษก เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต ทรงชนะ แล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคง.

        ดูกรอานนท์ เมือง กุสินารา นี้ มีนามว่า กุสาวดี เป็นราชธานีของพระเจ้า มหาสุทัสสนะ โดยยาวด้านทิศบูรพา และทิศประจิม ๑๒ โยชน์. โดยกว้างด้าน ทิศอุดร และทิศทักษิณ ๗ โยชน์.

        ดูกรอานนท์ กุสาวดีราชธานี เป็นเมืองที่มั่งคั่ง รุ่งเรือง มีชนมาก มนุษย์หนาแน่น และมีภิกษาหาได้ง่าย.

        ดูกรอานนท์ เมืองอาลกมันทาราชธานีแห่งเทพเจ้าทั้งหลาย เป็นเมือง ที่มั่งคั่ง รุ่งเรือง มีชนมาก ยักษ์หนาแน่น และมีภิกษาหาได้ง่าย แม้ฉันใด. เมืองกุสาวดี ราชธานี ก็ฉันนั้น เหมือนกัน. เป็นเมืองที่มั่งคั่ง รุ่งเรือง มีชนมาก มนุษย์หนาแน่น และมีภิกษาหาได้ง่าย.

        ดูกรอานนท์ กุสาวดีราชธานี มิได้เงียบจากเสียง ๑๐ ประการ ทั้งกลางวันและ กลางคืน คือ เสียงช้าง เสียงม้า เสียงรถ เสียงกลอง เสียงตะโพน เสียงพิณ เสียงขับร้อง เสียงกังสดาล เสียงประโคม และเสียงเป็นที่ ๑๐. ว่า ท่านทั้งหลาย จงบริโภค จงดื่ม จงเคี้ยวกิน.

(อ่านพระสูตรเต็ม P460)


ฉบับหลวงเล่มที่ ๑๓ สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ หน้าที่ ๓๑๖


(3) มฆเทวสูตร พระเจ้ามฆเทวะ (ย่อ) P851
(พระพุทธเจ้าในชาติอดีต)



        [๔๕๒] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่อัมพวัน ของพระเจ้ามฆเทวะ ใกล้เมือง มิถิลา. ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงแย้มพระสรวลให้ปรากฏ ณ ประเทศแห่งหนึ่ง.

        ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์ได้มีความคิดว่า อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ให้พระผู้มีพระภาคทรงแย้มพระสรวล พระตถาคตทั้งหลาย ไม่ทรงแย้มพระสรวล โดยหาเหตุมิได้ ดังนี้แล้ว จึงทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนมอัญชลีไปทาง พระผู้มีพระภาคแล้ว ได้ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรเป็น ปัจจัย ให้พระผู้มีพระภาคทรงแย้มพระสรวล พระตถาคตทั้งหลาย ไม่ทรงแย้ม พระสรวล โดยหาเหตุมิได้.

       [๔๕๓] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในเมือง มิถิลานี้แหละ ได้มีพระราชาพระนามว่ามฆเทวะ ทรงประกอบในธรรม เป็นพระธรรม ราชา เป็นพระมหาราชาผู้ทรงตั้งอยู่ในธรรม ทรงประพฤติราชธรรม ในพราหมณ์คหบดี ในชาวนิคมและชาวชนบท ทรงรักษาอุโบสถทุกวันที่สิบสี่สิบห้าและแปดค่ำแห่งปักษ์

ดูกรอานนท์ ครั้งนั้น ด้วยล่วงปีเป็นอันมาก ล่วงร้อยปีเป็นอันมาก ล่วงพันปีเป็นอันมาก พระเจ้ามฆเทวะ รับสั่งกะช่างกัลบกว่า ดูกรเพื่อนกัลบก ท่านเห็นผมหงอก เกิดบน ศีรษะของเราเมื่อใด พึงบอกเราเมื่อนั้น.

        ช่างกัลบกทูลรับพระเจ้ามฆเทวะว่า อย่างนั้น ขอเดชะแล้ว.

       ด้วยล่วงปีเป็นอันมาก ล่วงร้อยปีเป็นอันมาก ล่วงพันปีเป็นอันมาก ช่างกัลบก ได้เห็นพระเกศาหงอก เกิดบนพระเศียร ของพระเจ้ามฆเทวะแล้ว ได้กราบทูลว่า เทวทูตปรากฏแก่พระองค์แล้ว พระเกศาหงอก เกิดบนพระเศียรแล้ว เห็นปรากฏอยู่.

     พระเจ้ามฆเทวะตรัสว่า ดูกรเพื่อนกัลบก ถ้าอย่างนั้น ท่านจงเอาแหนบ ถอนผมหงอกนั้นให้ดี แล้ววางลงที่กระพุ่มมือของเราเถิด.

     ช่างกัลบกทูลรับสั่งของพระเจ้ามฆเทวะ แล้วจึงเอาแหนบ ถอนพระเกศาหงอกนั้น ด้วยดี แล้ววางไว้ที่กระพุ่มพระหัตถ์ของพระเจ้ามฆเทวะ.

     ครั้งนั้น พระเจ้ามฆเทวะพระราชทานบ้านส่วย แก่ช่างกัลบกแล้วโปรดให้ พระราชทานกุมาร ผู้เป็นพระราชบุตรองค์ใหญ่มาเฝ้า แล้วรับสั่งว่า ดูกรพ่อกุมาร  เทวทูตปรากฏ แก่เราแล้ว ผมหงอกเกิดที่ศีรษะแล้ว ปรากฏอยู่  ก็กามทั้งหลายที่เป็น ของมนุษย์ เราได้บริโภคแล้ว เวลานี้เป็นสมัยที่จะแสวงหากาม ทั้งหลายที่เป็นทิพย์ มาเถิด พ่อกุมาร เจ้าจงครองราชสมบัตินี้ ส่วนเราจักปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้า กาสายะ ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต

        ดูกรพ่อกุมาร ส่วนเจ้า เมื่อใดพึงเห็นผมหงอกเกิดบนศีรษะ เมื่อนั้นเจ้าพึง ให้บ้านส่วย แก่ช่างกัลบก พึงพร่ำสอนราชกุมาร ผู้เป็นพระราชบุตรองค์ใหญ่ ในการที่จะเป็น พระราชาให้ดี แล้วปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสายะ ออกจากเรือน บวชเป็นบรรพชิตเถิด เจ้าพึงประพฤติตามวัตรอันงาม ที่เราตั้งไว้แล้ว นี้  เจ้าอย่าได้เป็น บุรุษคนสุดท้ายของเราเลย เมื่อยุคบุรุษใดเป็นไปอยู่ วัตรอันงาม เห็นปานนี้ ขาดสูญไป ยุคบุรุษนั้นชื่อว่าเป็นบุรุษคนสุดท้าย ของราชบรรพชิต นั้น.

        ดูกรพ่อกุมาร เจ้าจะพึงประพฤติตามวัตรอันงาม ที่เราตั้งไว้แล้วนี้ได้ ด้วยประการใด เรากล่าวอย่างนี้กะเจ้าด้วยประการนั้น เจ้าอย่าได้เป็นบุรุษคนสุดท้าย ของเราเลย

        ดูกรอานนท์ก็พระเจ้ามฆเทวะ
ทรงเล่นเป็นพระกุมารอยู่ แปดหมื่นสี่พันปี
ทรงดำรงความเป็นอุปราช 
แปดหมื่นสี่พันปี
เสวยราชสมบัติ 
แปดหมื่นสี่พันปี
เสด็จออกจากพระราชนิเวศน์ ทรงผนวชเป็นบรรพชิตประพฤติพรหมจรรย์
อยู่ที่ มฆเทวัมพวัน นี้แล 
แปดหมื่นสี่พันปี.
(รวมอายุพระเจ้ามฑเทวะ 336,000 ปี)

พระองค์ทรงเจริญ พรหมวิหารสี่ แล้วเมื่อสวรรคตได้เสด็จเข้าถึงพรหมโลก

(อ่านพระสูตรเต็ม P851)

 

 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์