ฉบับหลวง (ไทย) เล่มที่ ๔ วินัยปิฎก มหาวรรค ภาค ๑ หน้าที่ ๓๒
เรื่องพ้นจากบ่วง
[๓๒] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราพ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์ แม้พวกเธอก็พ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง ทั้งที่เป็นของทิพย์
ทั้งที่เป็นของมนุษย์ พวกเธอจงเที่ยวจาริก เพื่อประโยชน์
และความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูล และความสุขแก่ทวยเทพ และมนุษย์
พวกเธออย่าได้ไป รวมทางเดียวกันสองรูป จงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลางงาม ในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้ง อรรถทั้งพยัญชนะครบ บริบูรณ์บริสุทธิ์ สัตว์ทั้งหลายจำพวกที่มีธุลีคือกิเลศในจักษุน้อย มีอยู่ เพราะไม่ได้ ฟังธรรมย่อมเสื่อม ผู้รู้ทั่วถึงธรรมจักมี ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เราก็จักไปยังตำบล อุรุเวลาเสนานิคม เพื่อแสดงธรรม.
..................................................................................................
เรื่องมาร
[๓๓] ครั้งนั้น มารผู้มีใจบาปเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ครั้นแล้วได้ทูล พระผู้มีพระภาค ด้วยคาถาว่า ท่านเป็นผู้อันบ่วงทั้งปวง
ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็น ของมนุษย์ผูกพันไว้แล้ว ท่านเป็นผู้อันเครื่องผูกใหญ่รัดรึงแล้ว แน่ะสมณะ ท่านจัก
ไม่พ้นเรา.
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า เราเป็นผู้พ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง ทั้งที่เป็น ของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์ เราเป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูกใหญ่
ดูกรมาร ท่านถูกเรากำจัดเสียแล้ว.
มารกราบทูลว่า บ่วงนี้เที่ยวไปได้ในอากาศเป็นของมีในจิต สัญจรอยู่
เราจักผูกรัด ท่านด้วยบ่วงนั้น แน่ะสมณะ ท่านจักไม่พ้นเรา.
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า เราปราศจากความพอใจในอารมณ์เหล่านี้คือ รูป เสียงกลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นที่รื่นรมย์ใจ
ดูกรมาร ท่านถูกเรากำจัดเสียแล้ว.
ครั้งนั้น มารผู้มีใจบาปรู้ว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเรา พระสุคตทรง รู้จักเรา ดังนี้แล้วมีทุกข์ เสียใจ หายไปในที่นั้นเอง. |