อาการเกิดแห่ง "กุศลวิตก" หรือสัมมาสังกัปปะ
- นิทาน.สํ. ๑๖/๑๘๒ - ๑๘๓/๓๕๘ - ๓๕๙.
ภิกษุ ท. !
เนกขัมมวิตก ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด (นิทาน) ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุ ให้เกิด. อัพ๎ยาปาทวิตก ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิด
อย่างไม่มีเหตุ ให้เกิด.
อวิหิงสาวิตก ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด.
ก. กรณีเนกขัมมวิตก
ภิกษุ ท. ! เนกขัมมวิตก [ความตริตรึกในเนกขัมมะ (ออกจากกาม)] ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท.!
เพราะอาศัยเนกขัมมธาตุ จึงเกิดเนกขัมมสัญญา
เพราะอาศัยเนกขัมมสัญญา จึงเกิดเนกขัมมสังกัปปะ
เพราะอาศัยเนกขัมมสังกัปปะ จึงเกิดเนกขัมมฉันทะ
เพราะอาศัยเนกขัมมฉันทะ จึงเกิดเนกขัมมปริฬาหะ (ความเร่าร้อนเพื่อจะได้เนกขัมมะ)
เพราะอาศัยเนกขัมมปริฬาหะ จึงเกิดเนกขัมมปริเยสนา
ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีการสดับ เมื่อแสวงหาอยู่อย่างแสวงหาเนกขัมมะ ย่อมปฏิบัติถูก โดยฐานะสาม คือโดยกาย โดยวาจา โดยใจ.
ข. กรณีอัพ๎ยาปาทวิตก
ภิกษุ ท. ! อัพ๎ยาปาทวิตก (ความตริตรึกในอัพ๎ยาบาท) ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุท. !
เพราะอาศัยอัพ๎ยาปาทธาตุ จึงเกิดอัพ๎ยาปาทสัญญา
เพราะอาศัยอัพ๎ยาปาทสัญญา จึงเกิดอัพ๎ยาปาทสังกัปปะ เพราะอาศัยอัพ๎ยาปาทสังกัปปะ จึงเกิดอัพ๎ยาปาทฉันทะ
เพราะอาศัยอัพ๎ยาปาทฉันทะ จึงเกิดอัพ๎ยาปาทปริฬาหะ (ความเร่าร้อนเพื่อจะได้อัพ๎ยาบาท)
เพราะอาศัยอัพ๎ยาปาทปริฬาหะ จึงเกิดอัพ๎ยาปาทปริเยสนา.
ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีการสดับ เมื่อแสวงหาอยู่อย่างแสวงหาอัพ๎ยาบาท ย่อมปฏิบัติถูกโดยฐานะสาม คือ โดยกาย โดยวาจา โดยใจ.
ค. กรณีอวิหิงสาวิตก
ภิกษุ ท. ! อวิหิงสาวิตก (ความตริตรึกในอวิหิงสา) ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิด อย่างไม่มีเหตุให้เกิด นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุท.!
เพราะอาศัยอวิหิงสาธาตุ จึงเกิดอวิหิงสาสัญญา
เพราะอาศัยอวิหิงสาสัญญา จึงเกิดอวิหิงสาสังกัปปะ
เพราะอาศัยอวิหิงสาสังกัปปะ จึงเกิดอวิหิงสาฉันทะ
เพราะอาศัยอวิหิงสาฉันทะ จึงเกิด อวิหิงสาปริฬาหะ
(ความเร่าร้อนเพื่อจะได้อวิหิงสา)
เพราะอาศัยอวิหิงสาปริฬาหะ จึงเกิดอวิหิงสาปริเยสนา
ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีการสดับ เมื่อแสวงหาอยู่อย่างแสวงหาอวิหิงสา ย่อมปฏิบัติถูก โดยฐานะสาม คือ โดยกาย โดยวาจา โดยใจ.
|