สัมมาวาจาขั้นสูงสุด ตรัสกับราหุล- ราชกุมาร ตถาคต ไม่กล่าววาจานั้น 1. วาจาใด อันไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และ ไม่เป็นที่รัก ที่พึงใจของผู้อื่น 2. วาจาใด อันจริง อันแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์และ ไม่เป็นที่รัก ที่พึงใจ ของผู้อื่น 3. วาจาใด อันไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์แต่ไม่เป็นที่รัก ที่พึงใจ ของผู้อื่น 4. วาจาใด อันจริง อันแท้ แต่ไม่ประกอบ ด้วยประโยชน์แต่ก็เป็นที่รัก ที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคต ย่อมกล่าววาจานั้น 1. วาจาใด อันจริง อันแท้ ประกอบ ด้วยประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่รักที่พึงใจ ของผู้อื่น ตถาคตย่อมเลือก ให้เหมาะกาลเพื่อกล่าววาจานั้น 2. วาจาใด อันจริง อันแท้ ประกอบด้วยประโยชน์และ เป็นที่รักที่พึงใจ ของผู้อื่น ตถาคตย่อมเป็นผู้รู้จัก กาละที่เหมาะเพื่อกล่าววาจานั้น
อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคปลาย หน้า 1072หลักเกณฑ์แห่งสัมมาวาจาขั้นสูงสุด ราชกุมาร ! ตถาคตรู้ชัดซึ่ง วาจาใด อันไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และ ไม่เป็นที่รัก ที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อม ไม่กล่าววาจานั้น. ตถาคตรู้ชัดซึ่ง วาจาใด อันจริง อันแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์และ ไม่เป็นที่รัก ที่พึงใจ ของผู้อื่น ตถาคตย่อม ไม่กล่าววาจานั้น. ตถาคตรู้ชัดซึ่ง วาจาใด อันจริง อันแท้ ประกอบ ด้วยประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่รักที่พึงใจ ของผู้อื่น ตถาคตย่อม เลือกให้เหมาะกาล เพื่อกล่าว วาจานั้น. ตถาคตรู้ชัดซึ่ง วาจาใด อันไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์แต่ไม่เป็นที่รัก ที่พึงใจ ของผู้อื่น ตถาคตย่อม ไม่กล่าววาจานั้น. ตถาคตรู้ชัดซึ่ง วาจาใด อันจริง อันแท้ แต่ไม่ประกอบ ด้วยประโยชน์แต่ก็เป็นที่รัก ที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อม ไม่กล่าววาจานั้น. ตถาคตรู้ชัดซึ่ง วาจาใด อันจริง อันแท้ ประกอบด้วยประโยชน์และ เป็นที่รักที่พึงใจ ของผู้อื่น ตถาคตย่อมเป็นผู้รู้จักกาละที่เหมาะ เพื่อกล่าววาจานั้น.