เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  สัมมาวาจา ของ สัตบุรุษ - อสัตบุรุษ และ วาจาสะใภ้ใหม่- สะใภ้เก่า 816
 
(เนื้อหาพอสังเขป)

วาจาของ อสัตบุรุษ
   แม้ไม่มีใครถามถึง ความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็นำมาเปิดเผยให้ปรากฏ
   แม้ถูกใครถามอยู่ถึงความดีของบุคคลอื่น ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ
   แม้ถูกใครถามถึง ความไม่ดีของตน ก็ปกปิดไม่เปิดเผยให้ปรากฏ
   แม้ไม่มีใครถามถึงความดีของตน ก็นำมาโอ้อวดเปิดเผย

วาจาของ สัตบุรุษ
   แม้มีใครถามถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ
   แม้ไม่ถูกใครถามอยู่ถึงความดีของบุคคลอื่น ก็ยังนำมาเปิดเผยให้ปรากฏ
   แม้ไม่มีใครถามถึงความไม่ดีของตน ก็ยังนำเปิดเผยทำให้ปรากฏ
   แม้มีใครถามถึงความดีของตน ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ

วาจาของสะใภ้ใหม่ - สะใภ้เก่า
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหญิงสะใภ้ใหม่ เพิ่งมาชั่วคืนชั่ววัน ก็ยังมีความละอาย และความกลัวใน แม่ผัวบ้าง ในพ่อผัวบ้าง ในสามีบ้าง ครั้นล่วงไป อาศัยความคุ้นเคยกัน ก็ตวาดแม่ผัวบ้าง พ่อผัวบ้าง แม้แต่กะสามี ว่า ‘หลีกไปๆพวกแกจะรู้อะไร’ ดังนี้ นี้ฉันใด

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น ภิกษุบางรูปออกบวช หิริและโอตตัปปะของเธอนั้นยังดำรงอยู่ อย่างเข้มแข็ง ในภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา แม้ที่สุดแต่ในคนวัดและ สามเณร. ครั้นล่วงไป อาศัยความคุ้นเคยกัน เธอก็ตวาด อาจารย์บ้าง อุปัชฌาย์บ้าง ว่า ‘หลีกไปๆพวกท่านจะรู้อะไร’ ดังนี้.

ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอทั้งหลายพึงทำการศึกษาสำเหนียกว่า “เราจัก อยู่อย่างมีจิต เสมอกัน กับหญิงสะใภ้ใหม่ผู้มาแล้วไม่นาน” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงทำการศึกษา สำเหนียกอย่างนี้ แล.


 
 


อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคปลาย หน้า 1068

วาจาของสัตบุรุษ และ อสัตบุรุษ


๑. วาจาของอสัตบุรุษ

ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ เป็นที่รู้กันว่าเป็นอสัตบุรุษ. สี่ประการ อย่างไรเล่า? สี่ประการ คือ :-

ภิกษุ ท. ! อสัตบุรุษในกรณีนี้ แม้ไม่มีใครถามถึง ความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็นำมาเปิดเผยให้ปรากฏ ไม่ต้องกล่าวถึงเมื่อถูกใครถาม ก็เมื่อถูกใครถามถึงความไม่ดี ของบุคคลอื่น ก็นำเอาปัญหาไปทำให้ไม่มีทางหลีกเลี้ยวลดหย่อน แล้วกล่าวความไม่ดี ของผู้อื่นอย่างเต็มที่โดยพิสดาร.
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น อสัตบุรุษ.

ภิกษุ ท. ! อสัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก คือ แม้ถูกใครถามอยู่ถึงความดีของบุคคลอื่น ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ ไม่ต้องกล่าวถึงเมื่อไม่ถูกใครถาม ก็เมื่อถูกใครถามถึงความดี ของบุคคลอื่น ก็นำอาปัญหาไปทำให้ลดหย่อนไขว้เขวแล้ว กล่าวความดีของผู้อื่น อย่างไม่พิสดารเต็มที่.
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น อสัตบุรุษ.

ภิกษุ ท. ! อสัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก คือ แม้ถูกใครถามถึง ความไม่ดีของตน ก็ปกปิดไม่เปิดเผยให้ปรากฏ ไม่ต้องกล่าวถึงเมื่อไม่ถูกใครถาม ก็เมื่อถูกใครถามถึง ความไม่ดีของตน ก็นำเอาปัญหาไปทำให้ลดหย่อนไขว้เขว แล้วกล่าวความไม่ดีของตน อย่างไม่พิสดารเต็มที่.
ภิกษุท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น อสัตบุรุษ.

ภิกษุ ท. ! อสัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก คือ แม้ไม่มีใครถามถึงความดีของตน ก็นำมาโอ้อวดเปิดเผย จะต้องกล่าวทำไมถึงเมื่อถูกใครถาม ก็เมื่อถูกใครถาม ถึงความดี ของตน ก็นำเอาปัญหาไปทำให้ไม่ลดหย่อนหลีกเลี้ยว กล่าวความดีของตนอย่างเต็มที่ โดยพิสดาร. ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น อสัตบุรุษ.

ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้ แล เป็นที่รู้กันว่าเป็นอสัตบุรุษ.


๒. วาจาของสัตบุรุษ

ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ เป็นที่รู้กันว่าเป็นสัตบุรุษ. สี่ประการ อย่างไรเล่า ? สี่ประการ คือ

ภิกษุ ท. ! สัตบุรุษในกรณีนี้
แม้มีใครถามถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็ไม่เปิดเผยให้ ปรากฏ จะกล่าวทำไมถึง เมื่อไม่ถูกใครถาม ก็เมื่อถูกใครถามถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็นำเอาปัญหา ไปทำให้หลีกเลี้ยวลดหย่อนลง กล่าวความไม่ดีของผู้อื่นอย่างไม่พิสดาร เต็มที่.
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น สัตบุรุษ.

ภิกษุ ท. ! สัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก
คือ แม้ไม่ถูกใครถามอยู่ถึงความดีของบุคคลอื่น ก็ยังนำมาเปิดเผยให้ปรากฏ จะต้องกล่าว ทำไมถึงเมื่อถูกใครถาม ก็เมื่อถูกใครถามถึงความดีของบุคคลอื่น ก็นำเอาปัญหาไปทำให้ ไม่หลีกเลี้ยวลดหย่อน กล่าวความดีของผู้อื่นโดยพิสดาร บริบูรณ์. ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น สัตบุรุษ.

ภิกษุ ท. ! สัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก
คือ แม้ไม่มีใครถามถึงความไม่ดีของตน ก็ยังนำเปิดเผยทำให้ปรากฏ ทำไมจะต้อง กล่าวถึงเมื่อถูกถามเล่า ก็เมื่อถูกใครถามถึงความไม่ดีของตน ก็ไม่นำเอาปัญหาไป ทำให้ลดหย่อนบิดพลิ้ว แต่กล่าวความไม่ดีของตน อย่างโดยพิสดารเต็มที่.
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น สัตบุรุษ.

ภิกษุ ท. ! สัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก
คือ แม้มีใครถามถึงความดีของตน ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ ทำไมจะต้องกล่าวถึง เมื่อไม่ถูกใคร ถามเล่า ก็เมื่อถูกใครถามถึงความดีของตนก็นำเอาปัญหา ไปกระทำให้ ลดหย่อนหลีกเลี้ยว เสีย กล่าวความดีของตนโดยไม่พิสดารเต็มที่.
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น สัตบุรุษ

ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้ แล เป็นที่รู้กันว่าเป็นสัตบุรุษ.

๓. วาจาของสะใภ้ใหม่ - สะใภ้เก่า

ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหญิงสะใภ้ใหม่ อันเขาเพิ่งนำมาชั่วคืนชั่ววัน ตลอดเวลาเท่านั้น ก็ยังมีความละอาย และความกลัวที่ดำรงไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ในแม่ผัวบ้าง ในพ่อผัวบ้าง ในสามีบ้าง แม้ที่สุดแต่ในทาสกรรมกรคนใช้. ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น เพราะอาศัยความ คุ้นเคย กัน หญิงสะใภ้นั้น ก็ตวาดแม่ผัวบ้าง พ่อผัวบ้าง แม้แต่กะสามี ว่าหลีกไปๆพวกแกจะรู้อะไร ดังนี้ นี้ฉันใด

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ ออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือนได้ ชั่วคืน ชั่ววัน ตลอดเวลาเพียงเท่านั้น หิริและโอตตัปปะของเธอนั้นยังดำรงอยู่ อย่าง เข้มแข็ง ในภิกษุ ในภิกษุณี ในอุบาสก ในอุบาสิกาแม้ที่สุดแต่ในคนวัดและ สามเณร. ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น เพราะอาศัยความคุ้นเคยกัน เธอก็กล่าว ตวาดอาจารย์บ้าง อุปัชฌาย์บ้าง ว่า หลีกไปๆพวกท่านจะรู้อะไร’ ดังนี้.

ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอทั้งหลายพึงทำการศึกษาสำเหนียก อย่างนี้ว่า “เราจัก อยู่อย่างมีจิตเสมอกันกับหญิงสะใภ้ใหม่ผู้มาแล้วไม่นาน” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงทำการศึกษาสำเหนียกอย่างนี้ แล.

 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์