(เนื้อหาพอสังเขป)
ท่านพระวักกลิ อาพาธ เป็นไข้หนัก ได้รับทุกขเวทนา ครั้งนั้น ท่านพระวักกลิ เรียกภิกษุผู้อุปัฏฐาก ขอทูลเชิญพระผู้มีพระภาค ช่วยอนุเคราะห์ เสด็จเข้าไปหาท่านวักกลิ
พระผู้มีพระภาค ทรงรับนิมนต์ด้วยดุษณีภาพ.
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านพระวักกลิว่า พอทนได้หรือ พอยังอัตภาพ ให้เป็นไปได้หรือ
ว. ข้าพระองค์ทนไม่ไหว ไม่สามารถยัง อัตภาพให้เป็นไปได้ ทุกขเวทนา ของ ข้าพระองค์แรงกล้า มีแต่กำเริบขึ้น ไม่ทุเลาลงเลย ทุกขเวทนาปรากฏว่ากำเริบขึ้น ไม่ทุเลาลงเลย
พ. ดูกรวักกลิ เธอไม่มีความรำคาญ ไม่มีความเดือดร้อนอะไรบ้างหรือ?
ว. ข้าพระองค์มีความรำคาญไม่น้อย มีความเดือดร้อนอยู่ ไม่น้อยเลย.
พ. ดูกรวักกลิ ก็ตัวเธอเอง ไม่ติเตียนตนเองได้โดยศีลบ้างหรือ?
ว. พระเจ้าข้า ตัวข้าพระองค์เอง จะติเตียนได้โดยศีลก็หาไม่.
พ. ดูกรวักกลิ ถ้าหากว่า ตัวเธอเองติเตียนตนเอง โดยศีลไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอจะมีความรำคาญ และมีความเดือดร้อนอะไร?
ว. พระเจ้าข้า จำเดิมแต่กาลนานมาแล้ว ข้าพระองค์ประสงค์จะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค แต่ว่า ร่างกาย ของข้าพระองค์ ไม่มีกำลังพอที่จะเข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคได้.
พ. อย่าเลย วักกลิ ร่างกายอันเปื่อยเน่าที่เธอเห็นนี้ จะมีประโยชน์อะไร?
ดูกรวักกลิ ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นธรรม.
วักกลิ เป็นความจริง บุคคลเห็นธรรม ก็ย่อมเห็นเรา บุคคลเห็นเราก็ย่อมเห็นธรรม.
……………………………….....................................................................……………………………………..
ทรงแสดงธรรมเรื่องความไม่เที่ยงของขันธ์ ๕ ทำให้วักกลิมีจิตหลุดพ้น
วักกลิ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง?... ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า.
ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?... เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า.
ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือหนอ ที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา?...ไม่ควรเห็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เที่ยงหรือไม่เที่ยง?... ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า.
ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?.... เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า.
ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือหนอ ที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา? …. ไม่ควรเห็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า.
เพราะเหตุนั้นแล ฯลฯ อริยสาวกเห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ ย่อมทราบชัดว่า ฯลฯกิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสสอน ท่านพระวักกลิ ด้วยพระโอวาทนี้แล้ว ทรงลุกจากอาสนะ เสด็จไปยังภูเขาคิชฌกูฏ. |