ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต หน้า ๒๗๗-๒๘๒
ทุติยวรรคที่ ๒
(กุศลกรรมบถ ๑๐ ๒๐ ๓๐ ๔๐ ประการ)
ผู้ถูกทอดทิ้งในนรกนรก และ ผู้ถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์
ธรรม ๑๐ ประการ (กุศลกรรมบถ ๑๐)
ถูกทอดทิ้งไว้ในนรก
[๑๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๑๐ ประการ เป็นผู้ถูกทอดทิ้ง ไว้ในนรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้
ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ (อกุศลธรรมบถ ๑๐)
เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ๑
ลักทรัพย์ ๑
ประพฤติผิดในกาม ๑
พูดเท็จ ๑
พูดส่อเสียด ๑
พูดคำหยาบ ๑
พูดเพ้อเจ้อ ๑
อยากได้ของผู้อื่น ๑
มีจิตปองร้าย ๑
มีความเห็นผิด ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๑๐ ประการนี้แล เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ใน นรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้ ฯ
ธรรม ๑๐ ประการ (กุศลกรรมบถ ๑๐)
ถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๑๐ ประการ เป็นผู้ถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เขานำมาประดิษฐานไว้ ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน(กุศลธรรมบถ ๑๐) คือ
เป็นผู้เว้นขาด
จากการฆ่าสัตว์ ๑
จากการลักทรัพย์ ๑
จากการประพฤติผิดในกาม ๑
จากการพูดเท็จ ๑
จากการพูดส่อเสียด ๑
จากการพูดคำหยาบ ๑
จากการพูดเพ้อเจ้อ ๑
ไม่อยากได้ของผู้อื่น ๑
มีจิตไม่ปองร้าย ๑
มีความเห็นชอบ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๑๐ ประการนี้แลย่อม เป็นผู้ถูกเชิญมาไว้ ในสวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เขานำมาประดิษฐานไว้ ฯ
ธรรม ๒๐ ประการ (กุศลกรรมบถ ๒๐)
ถูกทอดทิ้งไว้ในนรก
[๑๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๒๐ ประการ เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ ในนรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้ ๒๐ ประการเป็นไฉน (อกุศลธรรมบถ ๒๐)คือ
เป็นผู้ฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการฆ่าสัตว์ ๑
ลักทรัพย์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการลักทรัพย์ ๑
ประพฤติผิดในกามด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการประพฤติผิดในกาม ๑
พูดเท็จด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดเท็จ ๑
พูดส่อเสียดด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดส่อเสียด ๑
พูดคำหยาบด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดคำหยาบ ๑
พูดเพ้อเจ้อด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดเพ้อเจ้อ ๑
อยากได้ของผู้อื่นด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการอยากได้ของผู้อื่น ๑
คิดปองร้ายด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการปองร้าย ๑
มีความเห็นผิดด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเห็นผิด ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๒๐ ประการนี้แล เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ในนรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้ ฯ
ธรรม ๒๐ ประการ (กุศลกรรมบถ ๒๐)
ถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๒๐ ประการ (กุศลธรรมบถ ๒๐)
เป็นผู้ถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เขานำมาประดิษฐานไว้ ๒๐ ประการเป็นไฉน คือ
เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากฆ่าสัตว์ ๑
เว้นขาดจากการลักทรัพย์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการลักทรัพย์ ๑
เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกามด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ๑
เว้นขาดจากการพูดเท็จด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดเท็จ ๑
เว้นขาดจากการพูดส่อเสียดด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดส่อเสียด ๑
เว้นขาดจากการพูดคำหยาบด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดคำหยาบ ๑
เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดคำเพ้อเจ้อ ๑
ไม่อยากได้ของผู้อื่นด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการไม่อยากได้ของผู้อื่น ๑
ไม่คิดปองร้ายด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการไม่ปองร้าย ๑
เห็นชอบด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเห็นชอบ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๒๐ ประการนี้แล เป็นผู้ถูกเชิญมาไว้ใน สวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เขานำมาประดิษฐานไว้ ฯ
ธรรม ๓๐ ประการ (กุศลกรรมบถ ๓๐)
ถูกทอดทิ้งไว้ในนรก
[๒๐๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓๐ ประการ (อกุศลธรรมบถ ๓๐)เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ ในนรก เหมือนสิ่งของที่นำเขามาทอดทิ้งไว้ ธรรม ๓๐ ประการเป็นไฉน คือ
เป็นผู้ฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการฆ่าสัตว์ ๑
พอใจในการฆ่าสัตว์ ๑
ลักทรัพย์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการลักทรัพย์ ๑
พอใจในการลักทรัพย์ ๑
ประพฤติผิดในกามด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการประพฤติผิดในกาม ๑
พอใจในการประพฤติผิดในกาม ๑
พูดเท็จด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดเท็จ ๑
พอใจการพูดเท็จ ๑
พูดส่อเสียดด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดส่อเสียด ๑
พอใจในการพูดส่อเสียด ๑
พูดคำหยาบด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดคำหยาบ ๑
พอใจในการพูดคำหยาบ ๑
พูดเพ้อเจ้อด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดเพ้อเจ้อ ๑
พอใจในการพูดเพ้อเจ้อ ๑
อยากได้ของผู้อื่นด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการอยากได้ของผู้อื่น ๑
พอใจในการอยากได้ของผู้อื่น ๑
มีจิตคิดปองร้ายด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการปองร้าย ๑
พอใจในการปองร้าย ๑
มีความเห็นผิดด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเห็นผิด ๑
พอใจในความเห็นผิด ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓๐ ประการนี้แล เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ใน นรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้ ฯ
ธรรม ๓๐ ประการ (กุศลกรรมบถ ๓๐)
ถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓๐ ประการ (กุศลธรรมบถ ๓๐) เป็นผู้ถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เขานำมาประดิษฐานไว้ ธรรม ๓๐ ประการเป็นไฉน คือ
เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑
พอใจในการเว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑
เว้นขาดจากการลักทรัพย์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการลักทรัพย์ ๑
พอใจในการเว้นจากการลักทรัพย์ ๑
เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกามด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ๑
พอใจในการเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ๑
เว้นขาดจากการพูดเท็จด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดเท็จ ๑
พอใจในการเว้นจากการพูดเท็จ ๑
เว้นขาดจากการพูดส่อเสียดด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดส่อเสียด ๑
พอใจในการเว้นจากการพูดส่อเสียด ๑
เว้นขาดจากการพูดคำหยาบด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดคำหยาบ ๑
พอใจในการเว้นจากการพูดคำหยาบ ๑
เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ๑
พอใจในการเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ๑
ไม่อยากได้ของผู้อื่นด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการไม่อยากได้ของผู้อื่น ๑
พอใจในการไม่อยากได้ของผู้อื่น ๑
มีจิตไม่ปองร้ายด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการไม่ปองร้าย ๑
พอใจในการไม่ปองร้าย ๑
มีความเห็นชอบด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเห็นชอบ ๑
พอใจในการเห็นชอบ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓๐ ประการนี้แล เป็นผู้ถูกเชิญมาไว้ใน สวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เขานำมาประดิษฐานไว้ ฯ
ธรรม ๔๐ ประการ (กุศลกรรมบถ ๔๐)
ถูกทอดทิ้งไว้ในนรก
[๒๐๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔๐ ประการ (อกุศลธรรมบถ ๔๐) เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ ในนรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้ ธรรม ๔๐ ประการเป็นไฉน คือ
เป็นผู้ฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการฆ่าสัตว์ ๑
พอใจในการฆ่าสัตว์ ๑
กล่าวสรรเสริญการฆ่าสัตว์ ๑
ลักทรัพย์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการลักทรัพย์ ๑
พอใจในการลักทรัพย์ ๑
กล่าวสรรเสริญการลักทรัพย์ ๑
ประพฤติผิดในกามด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการประพฤติผิดในกาม ๑
พอใจในการประพฤติผิดในกาม ๑
กล่าวสรรเสริญการประพฤติผิดในกาม ๑
พูดเท็จด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดเท็จ ๑
พอใจในการพูดเท็จ ๑
กล่าวสรรเสริญการพูดเท็จ ๑
พูดส่อเสียดด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดส่อเสียด ๑
พอใจในการพูดส่อเสียด ๑
กล่าวสรรเสริญ การพูดส่อเสียด ๑
พูดคำหยาบด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดคำหยาบ ๑
พอใจในการพูดคำหยาบ ๑
กล่าวสรรเสริญการพูดคำหยาบ ๑
พูดเพ้อเจ้อด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการพูดเพ้อเจ้อ ๑
พอใจในการพูดเพ้อเจ้อ ๑
กล่าวสรรเสริญการพูดเพ้อเจ้อ ๑
อยากได้ของผู้อื่นด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการอยากได้ของผู้อื่น ๑
พอใจในการอยากได้ของผู้อื่น ๑
กล่าวสรรเสริญการอยากได้ของผู้อื่น ๑
มีจิตปองร้ายด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการปองร้าย ๑
พอใจในการปองร้าย ๑
กล่าวสรรเสริญการปองร้าย ๑
มีความเห็นผิดด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในความเห็นผิด ๑
พอใจในความเห็นผิด ๑
กล่าวสรรเสริญความเห็นผิด ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลายบุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔๐ ประการนี้แล เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ใน นรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้ ฯ
ธรรม ๔๐ ประการ (กุศลกรรมบถ ๔๐)
ถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔๐ ประการ(กุศลธรรมบถ ๔๐) เป็นผู้ถูกเชิญมาไว้ ในสวรรค์ ธรรม ๔๐ ประการเป็นไฉน คือ
เป็นผู้เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑
พอใจในการเว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑
กล่าวสรรเสริญการเว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑
เว้นขาดจากการลักทรัพย์ด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการลักทรัพย์ ๑
พอใจในการเว้นจากการลักทรัพย์ ๑
กล่าวสรรเสริญการเว้นจากการลักทรัพย์ ๑
เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกามด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ๑
พอใจในการเว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม ๑
กล่าวสรรเสริญการเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ๑
เว้นขาดจากการพูดเท็จด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดเท็จ ๑
พอใจในการเว้นจากการพูดเท็จ ๑
กล่าวสรรเสริญการเว้นจากการพูดเท็จ ๑
เว้นขาดจากการพูดส่อเสียดด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดส่อเสียด ๑
พอใจในการเว้นจากการพูดส่อเสียด ๑
กล่าวสรรเสริญการเว้นจากการพูดส่อเสียด ๑
เว้นขาดจากการพูดคำหยาบด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดคำหยาบ ๑
พอใจในการเว้นจากการพูดคำหยาบ ๑
กล่าวสรรเสริญการเว้นจากการพูดคำหยาบ ๑
เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ๑
พอใจในการเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ๑
กล่าวสรรเสริญการเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ๑
ไม่อยากได้ของผู้อื่นด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการไม่อยากได้ของผู้อื่น ๑
พอใจในการไม่อยากได้ของผู้อื่น ๑
กล่าวสรรเสริญการไม่อยากได้ของผู้อื่น ๑
มีจิตไม่ปองร้ายด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในการไม่ปองร้าย ๑
พอใจในการไม่ปองร้าย ๑
กล่าวสรรเสริญการไม่ปองร้าย ๑
มีความเห็นชอบด้วยตนเอง ๑
ชักชวนผู้อื่นในความเห็นชอบ ๑
พอใจในความเห็นชอบ ๑
กล่าวสรรเสริญความเห็นชอบ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔๐ ประการนี้แล เป็นผู้ถูกเชิญมาไว้ ในสวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เขานำมาประดิษฐานไว้ ฯ
|