เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
 จูฬกัมมวิภังคสูตร สัตว์ทั้งหลาย มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด
719
 
(เนื้อหาพอสังเขป)

ดูกรมาณพ สัตว์ทั้งหลาย มีกรรมเป็น ของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็น กำเนิด
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ ให้เลว และประณีต ฯ

1. เป็นผู้ทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง
 เหี้ยมโหด ไม่เอ็นดูเหล่าสัตว์ เมื่อ
1.1 เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก 
1.2 แต่ถ้ามาเป็นมนุษย์  จะเป็นคนมีอายุสั้น 

2. ผู้เว้นขาด จากปาณาติบาต มีความละอาย ถึงความเอ็นดู อนุเคราะห์สัตว์
2.1 เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ 
2.2 หาก เป็นมนุษย์ จะเป็นคนมีอายุยืน 
--------------------------------------------------------------------------------------------

3. เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาตรา
3.1 เขาตายไป จะเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรม
3.2 ถ้ามาเป็นมนุษย์  จะเป็นคนมีโรคมาก 

4. ไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ 
หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาตรา 
4.1 เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ 
4.2 ถ้ามาเป็นมนุษย์เกิด จะเป็นคนมีโรคน้อย
--------------------------------------------------------------------------------------------

5. เป็นคนมักโกรธ แค้นเคือง ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ โกรธเคือง พยาบาท มาดร้าย
 
5.1  เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
5.2 ถ้ามาเป็น มนุษย์ จะเป็นคนมีผิวพรรณทราม

6. เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่มากด้วยความแค้นเคือง ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย 
6.1 เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ 
6.2 ถ้ามาเป็นมนุษย์  จะเป็นคนน่าเลื่อมใส 
--------------------------------------------------------------------------------------------

7. มีใจริษยาย่อมริษยา 
มุ่งร้าย ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ไม่บูชาคนที่บูชาของคนอื่น 
7.1 เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก 
7.2 ถ้ามาเป็นมนุษย์เกิด เป็นคนมีศักดาน้อย 

8. เป็นผู้มีใจไม่ริษยา ย่อมไม่ริษยา ไม่มุ่งร้าย ไม่ผูกใจอิจฉาใน ลาภสักการะ
8.1 เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติ โลกสวรรค์ 
8.2 ถ้ามาเป็นมนุษย์  จะเป็นคนมีศักดามาก 
--------------------------------------------------------------------------------------------

9. ไม่เป็นผู้ให้ข้าว
 น้ำ ผ้า ที่นอน ที่อาศัยแก่สมณะหรือพราหมณ์ 
9.1 เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก 
9.2 หากเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นคนมีโภคะน้อย 

10. เป็นผู้ให้ข้าว น้ำ ผ้าที่นอน ที่อยู่อาศัย แก่สมณะหรือพราหมณ์ 
10.1 เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
10.2  ถ้ามาเป็นมนุษย จะเป็นคนมีโภคะมาก 
--------------------------------------------------------------------------------------------

11. เป็นคนกระด้างเย่อหยิ่ง 
ไม่กราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ไม่สักการะคนที่ควรสักการะ
11.1 เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก 
11.2 ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนเกิดในสกุลต่ำ

12. เป็นคนไม่กระด้าง ไม่เย่อหยิ่ง กราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ เคารพคนที่ควรเคารพ 
12.1 เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ 
12.1  ถ้ามาเกิดเป็นมนุษย์ เกิดณ ที่ใดๆในภายหลัง จะเป็นคนเกิดในสกุลสูง
--------------------------------------------------------------------------------------------

13.ไม่เป็นผู้เข้าไปหาสมณะ
ไม่สอบถามว่าอะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ 
13.1 เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคต วินิบาต นรก 
13.1  ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีปัญญาทราม

14. เป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์ แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล 
14.1 เขาตายไป จะเข้าถึง สุคติโลกสวรรค์
14.2  ถ้ามาเป็นมนุษย์  จะเป็นคนมีปัญญามาก 
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ด้วยประการฉะนี้แล 

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุสั้น ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุสั้น 
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุยืน ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุยืน

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโรคมาก
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีผิวพรรณทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีผิวพรรณทราม

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเป็นผู้น่าเลื่อมใส ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนน่าเลื่อมใส

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดาน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดาน้อย
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดามาก

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะน้อย
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะมาก

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลต่ำ ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลต่ำ
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดใน สกุลสูง ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลสูง

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญาทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญาทราม
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญามาก

 
 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๔ หน้า ๒๘๗ -๒๙๒


จูฬกัมมวิภังคสูตร



                [๕๘๒]  พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสดังนี้ว่า  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคน ในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง เป็นคน เหี้ยมโหด  มีมือเปื้อนเลือดหมกมุ่นในการประหัตประหาร  ไม่เอ็นดู ในเหล่าสัตว์ มีชีวิต  เขาตายไป  จะเข้าถึงอบาย  ทุคติวินิบาต  นรก  เพราะกรรมนั้น  อันเขา  ให้พรั่งพร้อม  สมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไป  ไม่เข้าถึงอบาย  ทุคติ  วินิบาต  นรกถ้ามาเป็นมนุษย์  เกิด  ณ  ที่ใดๆ  ในภายหลัง  จะเป็นคนมีอายุสั้น  ดูกรมาณพปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุสั้นนี้  คือ  เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง  เป็นคนเหี้ยมโหด  มีมือเปื้อนเลือด  หมกมุ่นในการประหัตประหาร  ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์มีชีวิต  ฯ

                [๕๘๓]  ดูกรมาณพ  ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม  ละปาณาติบาตแล้ว  เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต  วางอาชญา  วางศาตราได้  มีความละอาย  ถึงความเอ็นดู  อนุเคราะห์ด้วยความเกื้อกูล ในสรรพสัตว์และภูตอยู่  เขาตายไป  จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  เพราะกรรมนั้นอันเขา ให้พรั่งพร้อมสมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไป  ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  ถ้ามา เป็นมนุษย์เกิด  ณ  ที่ใดๆ  ในภายหลัง  จะเป็นคนมีอายุยืน  ดูกรมาณพปฏิปทา เป็นไปเพื่อมีอายุยืนนี้  คือ  ละปาณาติบาตแล้ว  เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต  วางอาชญาวางศาตราได้  มีความละอาย  ถึงความเอ็นดู  อนุเคราะห์ด้วยความ เกื้อกูลในสรรพสัตว์และภูตอยู่  ฯ

                [๕๘๔]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม  เป็นผู้มีปรกติ เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ  หรือก้อนดิน  หรือท่อนไม้  หรือศาตราเขาตายไป  จะเข้าถึงอบายทุคติ  วินิบาต  นรก  เพราะกรรมนั้น  อันเขาให้ พรั่งพร้อม  สมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไปไม่เข้าถึงอบาย  ทุคติ  วินิบาต นรก  ถ้ามาเป็นมนุษย์  เกิด  ณ  ที่ใดๆ  ในภายหลัง  จะเป็นคนมีโรคมาก  ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคมากนี้  คือ  เป็นผู้มีปรกติเบียดเบียนสัตว์ ด้วยฝ่ามือหรือ  ก้อนดิน  หรือท่อนไม้  หรือศาตรา  ฯ

                [๕๘๕]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม  เป็นผู้มีปรกติ ไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ  หรือก้อนดิน  หรือท่อนไม้  หรือศาตรา  เขาตายไป  จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  เพราะกรรมนั้น  อันเขาให้ พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไป  ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  ถ้ามาเป็นมนุษย์เกิด  ณ  ที่ใดๆ  ในภายหลัง  จะเป็นคนมีโรคน้อย  ดูกรมาณพ  ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคน้อยนี้  คือ  เป็นผู้มีปรกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ  หรือก้อนดินหรือท่อนไม้  หรือศาตรา  ฯ      

                [๕๘๖]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม  เป็นคนมักโกรธ  มากด้วยความแค้นเคือง  ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ  โกรธเคือง  พยาบาท  มาดร้าย  ทำความโกรธ  ความร้าย  และความขึ้งเคียด ให้ปรากฏ  เขาตายไป  จะเข้าถึงอบาย  ทุคติ  วินิบาต  นรกเพราะกรรมนั้น  อันเขาให้พรั่งพร้อมสมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไป  ไม่เข้าถึงอบาย  ทุคติ  วินิบาต  นรก  ถ้ามาเป็น  มนุษย์  เกิด  ณ  ที่ใดๆ  ในภายหลัง  จะเป็นคนมีผิวพรรณทราม  ดูกรมาณพปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีผิวพรรณทรามนี้  คือ  เป็นคนมักโกรธ  มากด้วยความ แค้นเคือง  ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ  โกรธเคือง  พยาบาท  มาดร้าย  ทำความโกรธ  ความร้าย  และความขึ้งเคียดให้ปรากฏ  ฯ

                [๕๘๗]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม  เป็นคนไม่มักโกรธ  ไม่มากด้วยความแค้นเคือง  ถูกเขาว่ามากก็ไม่ขัดใจ  ไม่โกรธเคือง  ไม่พยาบาท  ไม่มาดร้าย  ไม่ทำความโกรธ  ความร้าย  และความ  ขึ้งเคียดให้ปรากฏ  เขาตายไป  จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  เพราะกรรมนั้น  อันเขาให้พรั่งพร้อม  สมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไป  ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  ถ้ามาเป็นมนุษย์  เกิด  ณ  ที่ใดๆ  ในภายหลัง  จะเป็นคนน่าเลื่อมใส  ดูกรมาณพ ปฏิปทา เป็นไปเพื่อเป็นผู้น่าเลื่อมใสนี้  คือ  เป็นคนไม่มักโกรธ  ไม่มากด้วย ความแค้นเคือง  ถูกเขาว่ามากก็ไม่ขัดใจ  ไม่โกรธเคือง  ไม่พยาบาท  ไม่มาดร้าย  ไม่ทำความโกรธ  ความร้าย  ความขึ้งเคียดให้ปรากฏ  ฯ

                [๕๘๘]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม  มีใจริษยาย่อมริษยา  มุ่งร้าย  ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ  ความเคารพ  ความนับถือ  การไหว้  และการบูชาของคนอื่น  เขาตายไป  จะเข้าถึงอบาย  ทุคติวินิบาต  นรก  เพราะกรรมนั้น  อันเขาให้พรั่งพร้อม  สมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไปไม่เข้าถึงอบาย  ทุคติ  วินิบาต  นรก  ถ้ามาเป็นมนุษย์เกิด  ณ  ที่ใดๆ  ในภายหลังจะเป็นคนมีศักดาน้อย  ดูกรมาณพ  ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดาน้อยนี้  คือ  มีใจ  ริษยา  ย่อมริษยา  มุ่งร้าย  ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ  ความเคารพ  ความนับถือการไหว้  และการบูชาของคนอื่น  ฯ

                [๕๘๙]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม   เป็นผู้มีใจไม่ริษยา  ย่อมไม่ริษยา  ไม่มุ่งร้าย  ไม่ผูกใจอิจฉาใน ลาภสักการะ  ความเคารพ  ความนับถือ  การ ไหว้  และการบูชาของคนอื่น  เขาตายไป  จะเข้าถึงสุคติ  โลกสวรรค์  เพราะกรรมนั้น  อันเขาให้พรั่งพร้อม  สมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไปไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  ถ้ามาเป็นมนุษย์  เกิด  ณ  ที่ใดๆ  ในภายหลัง  จะเป็นคนมีศักดามาก  ดูกรมาณพ  ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดา มากนี้  คือ  มีใจไม่ริษยา  ย่อมไม่ริษยา  ไม่มุ่งร้าย  ไม่ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ  ความเคารพ  ความนับถือการไหว้  และการบูชาของคนอื่น  ฯ

                [๕๙๐]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม  ย่อมไม่เป็นผู้ให้ข้าว  น้ำ  ผ้า  ยาน  ดอกไม้  ของหอม  เครื่องลูบไล้  ที่นอน  ที่อาศัย  เครื่องตามประทีปแก่สมณะหรือพราหมณ์  เขาตายไป  จะเข้าถึงอบาย  ทุคติวินิบาต  นรก  เพราะกรรมนั้น  อันเขาให้พรั่งพร้อม  สมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไปไม่เข้าถึงอบาย  ทุคติ  วินิบาต  นรก  ถ้ามาเป็นมนุษย์  เกิด  ณ  ที่ใดๆ  ในภายหลังจะเป็นคนมีโภคะน้อย  ดูกรมาณพ  ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะน้อยนี้  คือ  ไม่ให้ข้าวน้ำ  ผ้า  ยาน  ดอกไม้  ของหอม  เครื่องลูบไล้  ที่นอน  ที่อยู่อาศัย  เครื่องตามประทีปแก่สมณะหรือพราหมณ์  ฯ

                [๕๙๑]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม ย่อมเป็นผู้ให้ข้าว  น้ำ  ผ้า  ยาน  ดอกไม้  ของหอม  เครื่องลูบไล้  ที่นอน ที่อยู่อาศัย  เครื่องตามประทีปแก่สมณะหรือพราหมณ์  เขาตายไป  จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เพราะกรรมนั้น  อันเขาให้พรั่งพร้อมสมาทานไว้อย่างนี้  หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  ถ้ามาเป็นมนุษย  เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโภคะมาก  ดูกรมาณพ  ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะมากนี้ คือ ให้ข้าว  น้ำ ผ้า  ยาน  ดอกไม้  ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย  แก่สมณะหรือพราหมณ์  ฯ

                [๕๙๒]  ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นคนกระด้างเย่อหยิ่ง  ย่อมไม่กราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ไม่ลุกรับ คนที่ควรลุกรับ ไม่ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ไม่ให้ทางแก่คน ที่สมควร แก่ทาง ไม่สักการะคนที่ควรสักการะ ไม่เคารพคนที่ควรเคารพ ไม่นับถือคน ที่ควรนับถือไม่บูชาคนที่ควรบูชา เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต  นรก  เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึง อบาย ทุคต วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ  ที่ใดๆ ในภายหลัง  จะเป็นคนเกิดในสกุลต่ำ ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลต่ำนี้ คือ  เป็นคนกระด้าง เย่อหยิ่ง ย่อมไม่กราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ไม่ลุกรับคน ที่ควรลุกรับไม่ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ไม่ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง  ไม่สักการะคนที่ควรสักการะ ไม่เคารพคนที่ควรเคารพ ไม่นับถือคนที่ควรนับถือ  ไม่บูชาคนที่ควรบูชา  ฯ

                [๕๙๓]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม เป็นคนไม่กระด้าง ไม่เย่อหยิ่ง  ย่อมกราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้  ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ให้ทางแก่คน ที่สมควรแก่ทาง สักการะคนที่ควรสักการะ เคารพคนที่ควรเคารพ นับถือคน ที่ควรนับถือ บูชาคน ที่ควรบูชา เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรม นั้น  อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  ถ้ามาเกิดเป็นมนุษย์ เกิด ณ  ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนเกิดในสกุลสูง  ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีสกุลสูงนี้ คือ เป็นคนไม่กระด้าง  ไม่เย่อหยิ่ง ย่อมกราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ให้อาสนะ แก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง สักการะคนที่ควรสักการะ  เคารพคนที่ควรเคารพ นับถือคนที่ควรนับถือ  บูชาคนที่ควรบูชา  ฯ

                [๕๙๔]  ดูกรมาณพ  บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม  บุรุษก็ตาม ย่อมไม่เป็นผู้เข้าไปหาสมณะ หรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า  อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ  อะไรไม่ควรเสพอะไร เมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า  อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน เขาตายไป  จะเข้าถึงอบาย ทุคต วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม  สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก  ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง  จะเป็นคนมีปัญญาทราม ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญาทรามนี้ คือ ไม่เป็นผู้เข้าไปหาสมณะ หรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า อะไร เป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ  อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไร ไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ  ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน  ฯ

                [๕๙๕]  ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม ย่อมเป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า  อะไรเป็นกุศล อะไรเป็น อกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ  อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน  หรือว่าอะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน  เขาตายไป จะเข้าถึง สุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม  สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไปไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ  ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีปัญญามาก ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไป เพื่อมีปัญญามาก นี้ คือ เป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหณ์ แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษอะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่าอะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน  ฯ



[๕๙๖]  ดูกรมาณพ  ด้วยประการฉะนี้แล 
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุสั้น ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุสั้น 
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุยืน ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุยืน

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโรคมาก
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีผิวพรรณทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีผิวพรรณทราม 

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเป็นผู้น่าเลื่อมใส ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนน่าเลื่อมใส


ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดาน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดาน้อย
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดามาก

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะน้อย  ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะน้อย ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะมาก 

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลต่ำ ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลต่ำ
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดใน สกุลสูง ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลสูง

ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญาทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญาทราม
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญามาก 

ดูกรมาณพ สัตว์ทั้งหลาย มีกรรมเป็น ของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็น กำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ ให้เลว และประณีต  ฯ

[๕๙๗]  เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสแล้วอย่างนี้ สุภมาณพ โตเทยยบุตร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า แจ่มแจ้งแล้ว พระเจ้าข้า แจ่มแจ้งแล้ว พระเจ้าข้า พระโคดมผู้เจริญทรงประกาศธรรม โดยปริยายมิใช่น้อย เปรียบเหมือน  หงายของที่คว่ำ หรือเปิดของที่ปิด หรือบอกทางแก่คนหลงทาง หรือตามประทีป ในที่มืด ด้วยหวังว่าผู้มีตาดี จักเห็นรูปได้ฉะนั้น ข้าพระองค์นี้ ขอถึงพระโคดมผู้เจริญ พระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระโคดมผู้เจริญ จงทรงจำข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป  ฯ

จบ  จูฬกัมมวิภังคสูตรที่  ๕




 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์