เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
 ธาตุสังยุตต์ (รวม 10 พระสูตร) ความแตกต่างแห่งธาตุเป็นไฉน รูปธาตุ จักขุธาตุ วิญญาณธาตุ 705
 
(เนื้อหาพอสังเขป)

สูตรที่ ๑ ธาตุสูตร ...ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน
จักขุธาตุ รูปธาตุ จักขุวิญญาณธาตุ (ตา- รูป- วิญญาณทางตา)
โสตธาตุ สัททธาตุ โสตวิญญาณธาตุ (หู -เสียง-วิญญาณทางหู)
ฆานธาตุ คันธธาตุ ฆานวิญญาณธาตุ (จมูก-กลิ่น-วิญญาณทางจมูก)
ชิวหาธาตุ รสธาตุ ชิวหาวิญญาณธาตุ (ลิ้น-รส-วิญญาณทางลิ้น)
กายธาตุ โผฏฐัพพธาตุ กายวิญญาณธาตุ (กาย-สัมผัส-วิญญาณทางกาย)
มโนธาตุ ธรรมธาตุ มโนวิญญาณธาตุ (มโน-ธรรมรมณ์-มโนวิญญาณ)
นี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ ฯ (รวม18 ธาตุ)

สูตรที่ ๒ สัมผัสสสูตรความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ก็ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน
จักขุสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุธาตุ
โสตสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยโสตธาตุ
ฆานสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยฆานธาตุ
ชิวหาสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยชิวหาธาตุ
โผฏฐัพพะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยกายธาตุ
มโนสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยมโนธาตุ
...............ฯลฯ....................

 
 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๖ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๓๗

ธาตุสังยุตต์

๑. ธาตุสูตร (18 ธาตุ)

          [๓๓๓] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงความต่างแห่งธาตุแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงตั้งใจฟัง จงกระทำไว้ในใจให้ดี เราจักกล่าว ณ บัดนี้ ภิกษุเหล่านั้นทูลรับ พระผู้มี พระภาคว่า อย่างนั้นพระเจ้าข้า ฯ

          [๓๓๔] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน
จักขุธาตุ รูปธาตุ จักขุวิญญาณธาตุ (ตา- รูป- วิญญาณทางตา)
โสตธาตุ สัททธาตุ โสตวิญญาณธาตุ (หู -เสียง-วิญญาณทางหู)
ฆานธาตุ คันธธาตุ ฆานวิญญาณธาตุ (จมูก-กลิ่น-วิญญาณทางจมูก)
ชิวหาธาตุ รสธาตุ ชิวหาวิญญาณธาตุ (ลิ้น-รส-วิญญาณทางลิ้น)
กายธาตุ โผฏฐัพพธาตุ กายวิญญาณธาตุ (กาย-สัมผัส-วิญญาณทางกาย)
มโนธาตุ ธรรมธาตุ มโนวิญญาณธาตุ (มโน-ธรรมรมณ์-มโนวิญญาณ)
นี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ ฯ (รวม18 ธาตุ)

จบสูตรที่ ๑
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๒. สัมผัสสสูตร

          [๓๓๕] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน จักขุธาตุ โสตธาตุ ฆานธาตุ ชิวหาธาตุ กายธาตุ มโนธาตุ นี้เราเรียกว่าความต่างแห่งธาตุ ฯ

          [๓๓๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน
จักขุสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุธาตุ
โสตสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยโสตธาตุ
ฆานสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยฆานธาตุ
ชิวหาสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยชิวหาธาตุ
โผฏฐัพพะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยกายธาตุ
มโนสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยมโนธาตุ
ความต่างแห่งผัสสะ บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุอย่างนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๒
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๓. โนสัมผัสสสูตร

          [๓๓๗] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ หามิได้
ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน จักขุธาตุ ฯลฯ
มโนธาตุ นี้เราเรียกว่าความต่างแห่งธาตุ ฯ

          [๓๓๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ หามิได้ เป็นไฉน

จักขุสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุธาตุ
จักขุธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุสัมผัส หามิได้ ฯลฯ

มโนสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยมโนธาตุ
มโนธาตุบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยมโนสัมผัส หามิได้

ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ หามิได้ อย่างนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๓
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๔. เวทนาสูตร

          [๓๓๙] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ
ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน จักขุธาตุ ฯลฯ
มโนธาตุ นี้เราเรียกว่าความต่างแห่งธาตุ ฯ

          [๓๔๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ เป็นไฉน
จักขุสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุธาตุ
จักขุสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุสัมผัส ฯลฯ

มโนสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยมโนธาตุ
มโนสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยมโนสัมผัส
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ อย่างนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๔
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๕. โนเวทนาสูตร

          [๓๔๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนาหามิได้
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะหามิได้
ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน จักขุธาตุ ฯลฯ
มโนธาตุ นี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ ฯ

          [๓๔๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนาหามิได้

ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะหามิได้ เป็นไฉน
จักขุสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุธาตุ
จักขุสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุสัมผัส
จักขุสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุสัมผัสสชาเวทนา หามิได้
จักขุธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยจักขุสัมผัส หามิได้ ฯลฯ
มโนสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยมโนธาตุ
มโนสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยมโนสัมผัส
มโนสัมผัสบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยมโนสัมผัสสชาเวทนา หามิได้
มโนธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยมโนสัมผัสหามิได้

ภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนา หามิได้
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะหามิได้อย่างนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๕
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๖. พาหิรธาตุสูตร

          [๓๔๓] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงความต่างแห่งธาตุแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงตั้งใจฟัง ...

ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน รูปธาตุ สัททธาตุ คันธธาตุ รสธาตุ โผฏฐัพพธาตุ   ธรรมธาตุนี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ ฯ

จบสูตรที่ ๖
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๗. สัญญาสูตร

          [๓๔๔] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ
ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉนรูปธาตุ ฯลฯ
ธรรมธาตุ นี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ ฯ

          [๓๔๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ เป็นไฉน

รูปสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปธาตุ
รูปสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปสัญญา
รูปฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปสังกัปปะ
รูปปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปฉันทะ
รูปปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปปริฬาหะ ฯลฯ

ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมธาตุ 
ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสัญญา
ธรรมฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสังกัปปะ
ธรรมปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมฉันทะ
ธรรมปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริฬาหะ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ อย่างนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๗
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๘. โนสัญญาสูตร

          [๓๔๖] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ฯลฯ

ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนา หามิได้
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ หามิได้
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ หามิได้
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ หามิได้
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา หามิได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งธาตุ เป็นไฉน รูปธาตุ ฯลฯ ธรรมธาตุนี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ ฯ

          [๓๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น  เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ฯลฯ
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนาหามิได้
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะหามิได้
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะหามิได้
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญาหามิได้ เป็นไฉน

ภิกษุทั้งหลาย
ความหมายรู้ในรูปบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปธาตุ ฯลฯ
ความหมายรู้ในธรรมบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมธาตุ
ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสัญญา ฯลฯ
ธรรมปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริฬาหะ
ธรรมปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริเยสนาหามิได้
ธรรมฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริฬาหะหามิได้
ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมฉันทะหามิได้
ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสังกัปปะหามิได้
ธรรมธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสัญญาหามิได้
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ฯลฯ

ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนาหามิได้ ฯลฯ
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญาหามิได้ อย่างนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๘
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๙. ผัสสสูตร

          [๓๔๘] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่าง แห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนา
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ
ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนา

ดูกรภิกษุทั้งหลายก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน รูปธาตุ ฯลฯ ธรรมธาตุ นี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ ฯ

          [๓๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ฯลฯ
ความต่างแห่ง ลาภะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนาเป็นไฉน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
รูปสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปธาตุ
รูปสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปสัญญา
รูปผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปสังกัปปะ
รูปสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปสัมผัส
รูปฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปสัมผัสสชาเวทนา
รูปปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปฉันทะ
รูปปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปปริฬาหะ
รูปลาภะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปปริเยสนา ฯลฯ

ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมธาตุ
ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสัญญา
ธรรมสัมผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสังกัปปะ
ธรรมสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสัมผัสสะ
ธรรมฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสัมผัสสชาเวทนา
ธรรมปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมฉันทะ
ธรรมปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริฬาหะ
ธรรมลาภะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริเยสนา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ฯลฯ
ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนาอย่างนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๙
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๑๐. โนผัสสสูตร

          [๓๕๐] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย

ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น  เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนา
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ
ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนา
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งลาภะหามิได้
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนาหามิได้
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะหามิได้
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะหามิได้
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนาหามิได้
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะหามิได้
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญาหามิได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน รูปธาตุ ฯลฯธรรมธาตุ นี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ ฯ

          [๓๕๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนา
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ
ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนา
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งลาภะหามิได้
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะหามิได้
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะหามิได้
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนา หามิได้
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่ง สังกัปปะหามิได้
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา หามิได้ เป็นไฉน
รูปสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยรูปธาตุ ฯลฯ
ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมธาตุ
ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสัญญา ฯลฯ

ธรรมปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริฬาหะ
ธรรมลาภะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริเยสนา
ธรรมปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมลาภะหามิได้
ธรรมปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริเยสนาหามิได้
ธรรมฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมปริฬาหะหามิได้
ธรรมสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมฉันทะหามิได้
ธรรมสัมผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสัมผัสสชาเวทนาหามิได้
ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสัมผัสสะหามิได้
ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยธรรมสังกัปปะหามิได้
ธรรมธาตุบังเกิดขึ้ เพราะอาศัยธรรมสัญญาหามิได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนา
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ
ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนา
ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งลาภะหามิได้
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนาหามิได้
ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะหามิได้
ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะหามิได้
ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนาหามิได้
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะหามิได้
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้
ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้น เพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญาหามิได้ อย่างนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๑๐

จบนานัตตวรรคที่ ๑




 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์