เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
 อุปาทานสูตร ความพอใจ คือเชื้อแห่งอุปทานอุปมาเหมือนเชื้อไฟกองใหญ่ที่กำลังลุดโพลง ..                       ดับเชื้อไฟ....เท่ากับดับความพอใจ.. เท่ากับดับอุปาทาน 686
 
(เนื้อหาพอสังเขป)

ความพอใจคืออุปทาน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุ เห็นความพอใจเนืองๆ ในธรรมทั้งหลาย อันเป็นปัจจัยแห่งอุปาทานอยู่ ตัณหาย่อมเจริญ เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพ เป็นปัจจัย จึงมีชาติ เพราะชาติ เป็นปัจจัยจึงมีชรา และ มรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัส และ อุปายาส ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ฯ

อุปมา ตัณหา เหมือนเชื้อไฟ กองใหญ่
ความพอใจ เป็นปัจจัยแห่งอุปาทาน ตัณหาย่อมเจริญ
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปทาทาน

ดับเชื้อไฟ คือดับความพอใจ คือดับตัณหา คือดับอุปาทาน
เพราะอุปทานดับลง ภพย่อมดับ ชาติย่อม ชรามรณะ โสกะย่อมดับ
ความดับแห่งกองทุกข์ ทั้งมวลนี้ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้

 
 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๖สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๘๔


๒. อุปาทานสูตร


            [๑๙๖] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเห็นความพอใจเนืองๆ ในธรรมทั้งหลาย
อันเป็นปัจจัย แห่งอุปาทานอยู่ ตัณหาย่อมเจริญ
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัย จึงมีภพ
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
เพราะชาติ เป็นปัจจัยจึงมีชรา และ มรณะ
โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส
ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้
ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ฯ


            [๑๙๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฟกองใหญ่แห่งไม้สิบเล่มเกวียนบ้าง ยี่สิบ เล่มเกวียนบ้าง สามสิบเล่มเกวียนบ้าง สี่สิบเล่มเกวียนบ้าง พึงลุกโพลง บุรุษใส่ หญ้าแห้ง ใส่โคมัย แห้ง และใส่ไม้แห้ง ในไฟกองนั้นทุกๆ ระยะ ก็เมื่อเป็นอย่างนี้ ไฟกองใหญ่นั้น มีอาหารอย่างนั้นมีเชื้ออย่างนั้น พึงลุกโพลงตลอดกาลนาน แม้ฉันใด

            ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเห็นความพอใจเนืองๆ ในธรรมทั้งหลาย อันเป็น ปัจจัย แห่งอุปาทานอยู่ ตัณหาย่อมเจริญ ฉันนั้นเหมือนกันเพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ฯลฯ ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้

            [๑๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเห็นโทษเนืองๆ ในธรรมทั้งหลายอัน เป็นปัจจัย แห่งอุปาทานอยู่ ตัณหาย่อมดับไป เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับเพราะ อุปาทานดับ ภพจึงดับเพราะภพดับ ชาติจึงดับ เพราะชาติดับ ชราและมรณะ โสกปริเทวทุกข โทมนัสและอุปายาสจึงดับ ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลน ี้ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้

            [๑๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฟกองใหญ่แห่งไม้สิบเล่มเกวียนบ้าง ยี่สิบ เล่มเกวียนบ้าง สามสิบเล่มเกวียนบ้าง สี่สิบเล่มเกวียนบ้าง พึงลุกโพลง บุรุษไม่ใส่ หญ้าแห้ง ไม่ใส่ โคมัยแห้งและไม่ใส่ไม้แห่งในไฟกองนั้นทุกๆ ระยะ ภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อเป็นอย่างนี้ ไฟกองใหญ่นั้น ไม่มีอาหาร พึงดับไป เพราะสิ้นเชื้อเก่า และ เพราะไม่เติมเชื้อใหม่ แม้ฉันใด

            ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อเห็นโทษเนืองๆ ในธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่ง อุปาทานอยู่ ตัณหาย่อมดับฉันนั้นเหมือนกัน เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ ฯลฯ

 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์