(เนื้อหาพอสังเขป)
อุคค คฤหบดี ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ พร้อมถวาย ภัตตาหาร ของขบฉันท์ และสิ่งของเช่น ก็เตียง มีเท้าทำเป็นรูปสัตว์ร้าย ลาดด้วยผ้าโกเชาว์ ลาดด้วยขนแกะสีขาว เครื่องลาดที่มีสัณฐานเป็นช่อดอกไม้ เครื่องลาด อย่างดี ทำด้วยหนังชะมด เครื่องลาดมีเพดาน เครื่องลาดใหญ่ มีหมอนข้างทั้งสองของข้าพระองค์เป็นที่พอใจ และ ข้าพระองค์ก็ย่อมทราบดีว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ควรแก่พระผู้มีพระภาค เตียงไม้จันทน์ของข้าพระองค์นี้ มีราคาเกินกว่า แสน กหาปณะ ขอพระผู้มีพระภาคทรงอาศัยความอนุเคราะห์ รับเตียง ของข้าพระองค์นั้นเถิด
พระผู้มีพระภาค ทรงอาศัยความอนุเคราะห์รับแล้ว
ทรงอนุโมทนาด้วยอนุโมทนียกถาดังต่อไปนี้ ผู้ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ผู้ใดย่อมให้เครื่อง นุ่งห่ม ที่นอนข้าว น้ำ และปัจจัยมีประการต่างๆ ด้วยความพอใจ ในท่านผู้ประพฤติตรง สิ่งของที่ให้ไป แล้วนั้น ย่อมเป็นของที่บริจาคแล้ว สละแล้วไม่คิดเอาคืน ผู้นั้นเป็นสัปบุรุษทราบชัดว่า พระอรหันต์เปรียบด้วยนาบุญบริจาค สิ่งที่บริจาคได้ยากแล้ว ชื่อว่าให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจดังนี้ ฯ
ต่อมาไม่นาน อุคคคฤหบดี ก็ได้ทำกาละ และเข้าถึงหมู่เทพ ชื่อ มโนมยะ หมู่หนึ่ง
ครั้งนั้น อุคคเทพบุตรมีวรรณงาม เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว ยังพระวิหารเชตวัน ทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มี พระภาค ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคจึงตรัสถามว่า ดูกรอุคคะ ตามที่ท่านประสงค์สำเร็จแล้วหรือ
อุคคเทพบุตรกราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ตามที่ข้าพระองค์ประสงค์สำเร็จแล้วพระเจ้าข้า
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาค ได้ตรัสกะ อุคคเทพบุตร ด้วยพระคาถา ความว่า ผู้ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ
... ผู้ให้ของที่เลิศ ย่อมได้ของที่เลิศ
... ผู้ให้ของที่ดีย่อมได้ของที่ดี
.... และผู้ให้ของที่ประเสริฐ ย่อมเข้าถึงสถานที่ประเสริฐ
นรชนใดให้ของที่เลิศ ให้ของที่ดี และให้ของที่ประเสริฐ
นรชนนั้นจะบังเกิด
ณ ที่ใดๆ ย่อมมีอายุยืน มียศ ดังนี้ ฯ
|