(เนื้อหาพอสังเขป)
พระมหาโกฏฐิกะ ถามข้อสงสัย กับพระสารีบุตร
จักษุ เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของรูป รูปเป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของจักษุ
หู เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของเสียง เสียง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของหู
จมูก เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของกลิ่น กลิ่นเป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของจมูก ฯลฯ
..... หรือ
พระสารีบุตร ตอบว่า
จักษุเป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของรูป รูปเป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของจักษุ หามิได้ ความพอใจรักใคร่เกิดขึ้น
เพราะอาศัยจักษุและรูปทั้งสองนั้น
เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวในจักษุและรูปนั้น
หูเป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของเสียง เสียงเป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของหู หามิได้ ความพอใจรักใคร่เกิดขึ้น เพราะอาศัยหูและเสียงทั้งสองนั้น เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวในหู และเสียงนั้น
........
โคดำ กับ โคขาว เขาผูกติดกันด้วยสายทาม หรือด้วยเชือก เส้นเดียวกัน หากจะมีบุคคลใดกล่าวว่า โคดำเกี่ยวเนื่องกับ โคขาวโคขาว เกี่ยวเนื่องกับโคดำดังนี้ บุคคลนั้นกล่าวชอบหรือ
ดูกรท่านโกฏฐิกะ จักษุจักเป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของรูป หรือรูปจักเป็น เครื่องเกาะเกี่ยวของจักษุ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อความสิ้นทุกข์โดย ชอบ ย่อมไม่ปรากฏ แต่เพราะจักษุไม่เป็นเครื่องเกาะ เกี่ยวของรูป รูปก็ไม่เป็น เครื่องเกาะเกี่ยวของจักษุ ความพอใจรักใคร่เกิดขึ้นเพราะอาศัยจักษุและรูป ทั้งสองนั้น เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวในจักษุและรูปนั้น เพราะฉะนั้นการอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อความ สิ้นทุกข์โดยชอบจึงปรากฏ
ดูกรท่านโกฏฐิกะ พระเนตรของพระผู้มีพระภาคมีอยู่แท้ พระองค์ก็ทรงเห็นรูปด้วยพระเนตร แต่พระองค์ไม่มีความพอใจรักใคร่เลย พระองค์ทรงมีจิตหลุดพ้นดีแล้ว
พระโสตของพระผู้มีพระภาค มีอยู่แท้... พระนาสิกของพระผู้มีพระภาคมีอยู่แท้ ….พระนาสิกของพระผู้มีพระภาคมีอยู่แท้ …พระชิวหาของพระผู้มีพระภาคมีอยู่แท้ ....พระกายของพระผู้มีพระภาคมีอยู่แท้ ...พระมนัสของพระผู้มีพระภาคมีอยู่แท้ แต่พระองค์ไม่มีความพอใจรักใคร่ พระองค์ทรงมีจิตหลุดพ้นแล้ว
|