อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคนำ (ตอน1) หน้า 260 ทุกข์ เพราะยึดถือสิ่งที่ยึดถือไม่ได้ ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่น้ำ ซึ่งมีกำเนิดแต่ภูเขา ไหลไปทางต่ำสิ้นระยะไกล มีกระแสเชี่ยวจัด ถ้าหากหญ้ากาสะก็ตาม หญ้ากุสะก็ตาม หญ้าปัพพชะก็ตาม หญ้าวีรณะก็ตาม หรือต้นไม้ก็ตาม เกิดอยู่ที่ฝั่งทั้งสองของแม่น้ำนั้นไซร้ หญ้าหรือ ต้นไม้เหล่านั้นก็จะพึงย้อย ลงปก ฝั่งทั้งสองของแม่น้ำนั้น บุรุษผู้หนึ่ง ถูกกระแสแห่งแม่น้ำนั้นพัดมา ถ้าจะจับหญ้ากาสะ ก็ตาม หญ้ากุสะก็ตาม หญ้าปัพพชะก็ตาม หญ้าวีรณะก็ตาม หรือต้นไม้ก็ตามสิ่งเหล่านั้น ก็จะพึงขาดหลุดไป (เพราะกระแสเชี่ยวจัดของแม่น้ำ) บุรุษผู้นั้นย่อมถึงการพินาศเพราะการทำเช่นนั้น อุปมานี้ฉันใด ภิกษุ ท. ! อุปไมยก็ฉันนั้น คือบุถุชนผู้ ไม่ได้ยินได้ฟัง ไม่ได้เห็นเหล่าพระอริยเจ้า ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ถูกแนะนำในธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ได้เห็นเหล่าสัตบุรุษ ไม่ฉลาดใน ธรรมของสัตบุรุษ ไม่ถูกแนะนำในธรรมของสัตบุรุษ ย่อมตามเห็นพร้อมซึ่ง รูป โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีรูป หรือตามเห็นพร้อมซึ่งรูป ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีอยู่ในรูป รูปนั้นย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง บุถุชนนั้น ย่อมตามเห็นพร้อมซึ่ง เวทนา โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีเวทนา หรือตามเห็นพร้อมซึ่งเวทนา ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีอยู่ในเวทนา เวทนานั้นย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุบ้าง บุถุชนนั้น ย่อมตามเห็นพร้อมซึ่ง สัญญา โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีสัญญา หรือตามเห็นพร้อมซึ่งสัญญา ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีอยู่ในสัญญา สัญญานั้นย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุบ้าง บุถุชนนั้น ย่อมตามเห็นพร้อมซึ่ง สังขารทั้งหลาย โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีสังขาร หรือตามเห็นพร้อมซึ่งสังขารทั้งหลาย ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีอยู่ในสังขารทั้งหลาย สังขารทั้งหลายเหล่านั้นย่อมแตกสลายแก่เขาเขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุบ้าง บุถุชนนั้น ย่อมตามเห็นพร้อมซึ่ง วิญญาณ โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีวิญญาณ หรือตามเห็นพร้อมซึ่งวิญญาณ ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีอยู่ในวิญญาณ วิญญาณนั้น ย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุแล