เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  อัสสาทะชั้นเลิศของเวทนา 576
 
(เนื้อหาพอสังเขป)
รสอร่อย(อัสสาทะ)ของเวทนา มีในทุกขั้นตอนของสมาธิระดับฌาน ตั้งแต่ ฌาน 1 - 4
เรากล่าว อัสสาทะ ของเวทนาทั้งหลายว่า มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง

 
 
 

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคนำ (ตอน1) หน้า 184

อัสสาทะชั้นเลิศของเวทนา (รสอร่อยของเวทนา)


ภิกษุ ท. ! อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมบรรลุฌานที่หนึ่ง ซึ่งมีวิตกวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่
 
ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมบรรลุฌานที่หนึ่ง ซึ่งมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่ 
ในสมัยนั้น เธอย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ตนเอง ย่อมไม่คิด แม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ผู้อื่น และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิด ความเดือดร้อนแก่ ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย

ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวยเวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย
ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลายว่า มีการไม่ทำ ความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง


ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุ เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้ ย่อมบรรลุฌานที่สอง อันเป็นเครื่องผ่องใสในภายใน นำให้เกิดสมาธิมีอารมณ์อันเดียวแห่งใจ ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุข อันเกิดแต่สมาธิ แล้วแลอยู่

ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้ ย่อมบรรลุฌานที่สองอันเป็นเครื่องผ่องใสในภายใน นำให้เกิดสมาธิมีอารมณ์อันเดียวแห่งใจ ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุข อันเกิดแต่สมาธิแล้วแลอยู่ ในสมัยนั้นเธอย่อมไม่คิดแม้ในทาง ที่จะให้ เกิดความเดือดร้อน แก่ ตนเอง ย่อมไม่คิดแม้ในทาง ที่จะให้เกิดความเดือดร้อน แก่ผู้อื่น และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ตนเองและ ผู้อื่นทั้งสองฝ่าย

ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวยเวทนาอันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย.
ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ(รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลายว่า มีการไม่ทำ ความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง


ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุ เพราะความจางคลายไปแห่งปีติเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมบรรลุฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริย เจ้าทั้งหลายกล่าวว่า “ผู้ได้บรรลุฌานนี้ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้ แล้วแลอยู่. 

ภิกษุ ท. ! ในสมัยใดภิกษุ เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ สัมปชัญญะเสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมบรรลุฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้า ทั้งหลายกล่าวว่า “ผู้ได้บรรลุฌานนี้ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้ แล้วแลอยู่  ในสมัยนั้น เธอย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ตนเอง ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ผู้อื่น และย่อมไม่คิดแม้ในทาง ที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย

ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวยเวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย
ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลายว่า มีการไม่ทำ ความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง


ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุ, เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน ย่อมบรรลุฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์ไม่สุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่

ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะละสุขเสียได้และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะ ความดับหายไปแห่งโสมนัส และโทมนัสในกาลก่อน ย่อมบรรลุฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์ ไม่สุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่ ในสมัยนั้น เธอ ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ตนเอง ย่อมไม่คิดแม้ในทาง ที่จะ ให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ผู้อื่น และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความ เดือดร้อนแก่ ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย

ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวยเวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย 
ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า มีการไม่ทำ ความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่งแล

 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์