อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคนำ (ตอน1)
หน้า 99
การรู้อริยสัจควรแลกเอา แม้ด้วยการถูกแทงด้วยหอก
วันละ ๓๐๐ ครั้ง ๑๐๐ ปี
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีอายุร้อยปี พึงกล่าวกะบุรุษผู้มีชีวิตร้อยปี อย่างนี้ว่า “เอาไหมล่ะ ท่านบุรุษผู้เจริญ ! เขาจักแทงท่าน ด้วยหอก ร้อยเล่ม ตลอดเวลาเช้า ร้อยเล่มตลอดเวลาเที่ยง ร้อยเล่มตลอดเวลาเย็น
ท่านบุรุษ-ผู้เจริญ ! เมื่อเขาแทงท่านอยู่ด้วยหอกสามร้อยเล่มทุกวัน ๆ จนมีอายุร้อยปี มีชีวิตอยู่ร้อยปี โดยล่วงไปแห่งร้อยปีแล้ว ท่านจักรู้เฉพาะซึ่งอริยสัจทั้งสี่ ที่ท่านยัง ไม่รู้เฉพาะแล้ว” ดังนี้
ภิกษุ ท. ! กุลบุตรผู้รู้ซึ่งประโยชน์ ควรจะตกลง ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สังสารวัฏนี้มีเบื้องต้น และที่สุดอันบุคคลไปตามอยู่รู้ไม่ได้แล้ว ดังนั้น เบื้องต้นและที่สุด แห่งการประหาร ด้วยหอกด้วยดาบด้วยหลาวด้วยขวาน ก็จะไม่ ปรากฏนี้ฉันใด
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็เป็นฉันนั้น เรากล่าวการรู้เฉพาะซึ่งอริยสัจทั้งสี่ว่าเป็นไปกับด้วยทุกข์
กับด้วยโทมนัส ก็หามิได้ แต่เรากล่าว การรู้เฉพาะซึ่งอริยสัจทั้งสี่ ว่าเป็นไปกับด้วย สุขกับด้วย โสมนัสทีเดียว
อริยสัจสี่ อย่างไรเล่า? สี่อย่างคือ อริยสัจคือทุกข์อริยสัจคือเหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ อริยสัจคือความดับ ไม่เหลือแห่งทุกข์ อริยสัจคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือ แห่งทุกข์
ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงประกอบโยคกรรมอันเป็นเครื่องกระทำ ให้รู้ว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ เหตุให้เกิดขึ้น แห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้ ความดับไม่เหลือ แห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้ ทางดำเนินให้ถึงความดับ ไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้” ดังนี้
พุทธวจนปิฎก เล่มที่ ๑๑ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๕๑๙
สัตติสตสูตร
ว่าด้วยการตรัสรู้อริยสัจ ๔
[๑๗๑๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีอายุร้อยปี พึงกล่าว อย่างนี้ กะผู้มีชีวิตอยู่ร้อยปีว่า มาเถิด บุรุษผู้เจริญ ชนทั้งหลาย จักเอาหอกร้อยเล่ม ทิ่มแทงท่าน ในเวลาเช้า ...ในเวลาเที่ยง ... ในเวลาเย็น
ท่านนั้นถูกเขาเอาหอกสามร้อยเล่ม ทิ่มแทงอยู่ทุกวันๆ มีอายุร้อยปีมีชีวิตอยู่ร้อยปี จักตรัสรู้ อริยสัจ ๔ ที่ยังไม่ได้ตรัสรู้โดยล่วงร้อยปีไป
กุลบุตรผู้เป็นไปในอำนาจแห่งประโยชน์ควรจะรับเอา ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะว่าสงสารนี้มีเบื้องต้นที่สุดอันบุคคลไปตามอยู่รู้ไม่ได้แล้ว เบื้องต้น ที่สุด แห่งการประหารด้วยหอก ดาบ หลาว และขวานย่อมไม่ปรากฏ ฉันใด
ก็ข้อนี้พึงมีได้ฉันนั้นว่า ก็เราไม่กล่าวการตรัสรู้อริยสัจ ๔ พร้อมด้วยทุกข์ โทมนัส แต่เรากล่าวการตรัสรู้อริยสัจ ๔ พร้อมด้วยสุข โสมนัส
อริยสัจ ๔ เป็นไฉน? คือ ทุกขอริยสัจฯลฯ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียร เพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑
สัตติสตสูตร
ว่าด้วยการตรัสรู้อริยสัจ ๔
[๑๗๑๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีอายุร้อยปี พึงกล่าว อย่างนี้ กะผู้มีชีวิตอยู่ร้อยปีว่า มาเถิด บุรุษผู้เจริญ ชนทั้งหลาย จักเอาหอกร้อยเล่ม ทิ่มแทงท่าน ในเวลาเช้า ...
ในเวลาเที่ยง ... ในเวลาเย็น
ท่านนั้นถูกเขาเอาหอกสามร้อยเล่ม ทิ่มแทงอยู่ทุกวันๆ มีอายุร้อยปี
มีชีวิตอยู่ร้อยปี จักตรัสรู้ อริยสัจ ๔ ที่ยังไม่ได้ตรัสรู้โดยล่วงร้อยปีไป
กุลบุตรผู้เป็นไปในอำนาจ แห่งประโยชน์ควรจะรับเอา ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะว่าสงสารนี้มีเบื้องต้นที่สุดอันบุคคลไป ตามอยู่รู้ไม่ได้แล้ว เบื้องต้น ที่สุด แห่งการประหารด้วยหอก ดาบ หลาว และขวานย่อมไม่ปรากฏ
ฉันใด
ก็ข้อนี้พึงมีได้ฉันนั้นว่า ก็เราไม่กล่าวการตรัสรู้อริยสัจ ๔ พร้อมด้วยทุกข์ โทมนัส
แต่เรากล่าวการตรัสรู้อริยสัจ ๔ พร้อมด้วยสุข โสมนัส
อริยสัจ ๔ เป็นไฉน? คือ ทุกขอริยสัจ
ฯลฯ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึง
กระทำความเพียร
เพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
|