เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  กามคุณ ๕ อย่าง.. รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส หาใช่กามไม่ 512
 
กามคุณ5 คือ
รูปทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วย จักษุ เสียงทั้งหลาย อันจะถึงรู้แจ้งได้ด้วย โสตะ กลิ่นทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วย ฆานะ รสทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วย ชิวหา โผฏฐัพพะทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วย กาย
แต่อารมณ์เหล่านี้หาใช่กามใม่ ความกำหนัด ไปตาม อำนาจความตริตรึก (สงฺกปฺปราค) นั่นแหละคือ กามของคนเรา

 
 
 

อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น หน้า ๓๐๗

กามคุณ ๕ อย่าง



ภิกษุทั้งหลาย ! ที่เรากล่าวว่า “กาม นิทานสัมภวะแห่งกาม เวมัตตตาแห่งกาม วิบากแห่งกาม นิโรธแห่งกาม ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง” นั้น เรากล่าวหมายถึงกามไหนกันเล่า ?

ภิกษุทั้งหลาย ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ คือ
        รูปทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วย จักษุ....
        เสียงทั้งหลาย อันจะถึงรู้แจ้งได้ด้วย โสตะ....
        กลิ่นทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วย ฆานะ....
        รสทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วย ชิวหา....
        โผฏฐัพพะทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วย กาย
อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะอันน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัย แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่,

ภิกษุทั้งหลาย ! อารมณ์ ๕ อย่างเหล่านี้ หาใช่กามไม่
ห้าอย่างเหล่านี้ เรียกกันในอริยวินัยว่า กามคุณ

(คาถาจำกัดความตอนนี้)
ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก (สงฺกปฺปราค) นั่นแหละคือกามของคนเรา อารมณ์อันวิจิตรทั้งหลายในโลกนั้นหาใช่กามไม่ ความกำหนัดไปตามอำนาจ ความ ตริตรึก นั่นแหละคือกามของคนเรา อารมณ์อันวิจิตรก็มีอยู่ในโลก ตามประสาของมัน เท่านั้น ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงนำออกเสียซึ่ง ฉันทะ ในอารมณ์อันวิจิตรเหล่านั้น ดังนี้

ภิกษุทั้งหลาย ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? นิทานสัมภวะแห่งกาม คือ ผัสสะ

ภิกษุทั้งหลาย ! เวมัตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! เวมัตตตาแห่งกาม คือความใคร่ (กาม)ในรูปารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ๆ ความใคร่ในสัททารมณ์ก็อย่างหนึ่งๆ ความใคร่ในคันธารมณ์ก็อย่างหนึ่งๆ ความใคร่ใน รสารมณ์ก็อย่างหนึ่งๆ ความใคร่ในโผฏฐัพพารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ
ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตาแห่งกาม

ภิกษุทั้งหลาย ! วิบากแห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลใคร่อยู่ซึ่งอารมณ์ (แห่งกาม) ใด เขากระทำอัตตภาพ อันเกิด จากกามนั้นๆ ให้เกิดขึ้น เป็นอัตตภาพมีส่วนแห่งบุญ ก็ดี มีส่วนแห่งอบุญ ก็ดี
ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งกาม

ภิกษุทั้งหลาย ! นิโรธ (ความดับ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! นิโรธแห่งกามย่อมมี เพราะนิโรธแห่งผัสสะ อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้นั่นแล เป็นปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม ปฏิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมา สังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

ภิกษุทั้งหลาย ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อม
        รู้ชัดซึ่งกาม อย่างนี้
        รู้ชัดซึ่งนิทานสัมภวะแห่งกาม อย่างนี้
        รู้ชัดซึ่งเวมัตตตาแห่งกาม อย่างนี้
        รู้ชัดซึ่งวิบากแห่งกาม อย่างนี้
        รู้ชัดซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้
        รู้ชัดซึ่งปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้

ในกาลนั้น อริยสาวกนั้นย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้ อันเป็นเครื่อง เจาะแทงกิเลส ว่าเป็นนิโรธแห่งกาม

 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์