เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  สุขสูตร ... สุข ทุกข์ เกิดจากอะไร 510
 
  เนื้อหาในพระสูตรนี้พอสังเขป

ปริพาชก ถามพระสารีบุตรว่า อะไรหนอเป็นเหตุให้เกิดสุข อะไรหนอเป็นเหตุให้เกิดทุกข์
พระสารีบุตร ตอบว่า
นัยยะ 1 : การเกิด เป็นเหตุ ให้เกิดทุกข์ การไม่เกิดเป็นเหตุให้เกิดสุข (การไม่เกิดขึ้นของความโกรธ)
นัยยะ 2 : ความไม่ยินดี เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ความยินดีเป็นเหตุให้เกิดสุข (เช่น ยินดีในอาหารน้อย ยินดีในความสันโดษ ยินดีในเรือนว่าง)
 
 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ หน้า 107

สุขสูตรที่ ๑



            [๖๕] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรอยู่ที่นาลกคาม แคว้นมคธ ครั้งนั้นแล ปริพาชก ชื่อว่า สามัณฑกาณิ เข้าไปหาท่านพระสารีบุตร ถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับ ท่าน พระสารีบุตร ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามท่านพระสารีบุตรว่า

ดูกรท่านพระสารีบุตร อะไรหนอเป็นเหตุให้เกิดสุข อะไรหนอเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ฯ ท่านพระสารีบุตรตอบว่า

ดูกรท่านผู้มีอายุ การเกิดเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ การไม่เกิดเป็นเหตุให้เกิดสุข

ดูกรผู้มีอายุ เมื่อมีการเกิด เป็นอันหวังได้ทุกข์นี้คือ ความหนาว ความร้อนความหิว ความระหาย อุจจาระ ปัสสาวะ สัมผัสไฟ สัมผัสท่อนไม้ สัมผัสศาตรา ญาติก็ดี มิตรก็ดี มาประชุมพร้อมกัน ย่อมโกรธเคืองเขา ดูกรผู้มีอายุ เมื่อมีการเกิด เป็นอันหวังได้ทุกข์นี้

ดูกรผู้มีอายุ เมื่อไม่มีการเกิด เป็นอันหวัง ได้สุขนี้ คือ ความไม่หนาว ความไม่ร้อน ความไม่หิว ความไม่ระหาย ไม่ต้องอุจจาระ ไม่ต้องปัสสาวะ ไม่ต้องสัมผัสไฟ ไม่ต้องสัมผัสท่อนไม้ ไม่ต้องสัมผัสศาตรา ญาติก็ดี มิตรก็ดี มาประชุมพร้อมกัน ย่อมไม่โกรธเคืองเขา ดูกรท่านผู้มีอายุ เมื่อไม่มีการเกิด เป็นอันหวังได้สุขดังนี้ ฯ

....................................................................................................
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ หน้า 107
สุขสูตรที่ ๒

            [๖๖] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรอยู่ที่นาลกคาม แคว้นมคธ ครั้งนั้นแล ปริพาชกชื่อว่า สามัณฑกาณิ เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระสารีบุตร ครั้นผ่าน การปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว นั่งที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามท่านพระสารีบุตร ว่า

ดูกรท่านพระสารีบุตรในธรรมวินัยนี้ อะไรหนอเป็นเหตุให้เกิดสุข อะไรเป็นเหตุให้เกิด ทุกข์ ฯ

ท่านพระสารีบุตรตอบว่า ดูกรท่านผู้มีอายุ ในธรรมวินัยนี้ ความไม่ยินดีแล เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ความยินดีเป็นเหตุให้เกิดสุข

ดูกรผู้มีอายุ เมื่อมีความไม่ยินดี เป็นอันหวังได้ ทุกข์นี้ คือ
บุคคลผู้มีความไม่ยินดี แม้เดินอยู่
ก็ไม่ประสบความสุข ความสำราญ บุคคลผู้มีความไม่ยินดีแม้ยืนอยู่ ... แม้นั่งอยู่ ... แม้นอนอยู่... แม้อยู่ในบ้าน... แม้อยู่ในป่า... แม้อยู่ที่โคนไม้... แม้อยู่ในเรือนว่างเปล่า... แม้อยู่ในที่แจ้ง... แม้อยู่ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ก็ย่อมไม่ประสบความสุขความสำราญ ดูกรผู้มีอายุ เมื่อมีความไม่ยินดี ก็เป็นอันหวังได้ ความทุกข์นี้

ดูกรผู้มีอายุ เมื่อมีความยินดี ก็เป็นอันหวังได้ ความสุขนี้ คือ
บุคคลผู้มีความยินดี แม้เดินอยู่ ก็ย่อมประสบ ความสุขความสำราญ  บุคคลผู้มีความยินดีแม้ยืนอยู่.... แม้นั่งอยู่ ... แม้นอนอยู่ ... แม้อยู่ในบ้าน ... แม้อยู่ในป่า ... แม้อยู่ที่โคนไม้... แม้อยู่ในเรือนว่างเปล่า... แม้อยู่ในที่แจ้ง... แม้อยู่ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ก็ย่อมประสบความสุขความสำราญ ดูกรผู้มีอายุ เมื่อมีความยินดี ก็เป็นอันหวังได้ความสุขนี้ ฯ


 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์