|
ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า43
ปฏิจจสมุปบาท
คือธรรมอันเป็นธรรมชาติอาศัยกันแล้วเกิดขึ้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! เราจักแสดงซึ่งปฏิจจสมุปบาท (คือธรรมอันเป็นธรรมชาติอาศัยกันแล้วเกิดขึ้น) แก่พวกเธอทั้งหลาย. พวกเธอทั้งหลาย จงฟังซึ่งปฏิจจสมุปบาทนั้น, จงทำในใจให้สำเร็จประโยชน์, เราจักกล่าวบัดนี้...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ก็ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะย่อมมี.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย!
เพราะเหตุที่ พระตถาคตทั้งหลาย
จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, จะไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม,
ธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว;
คือความตั้งอยู่แห่ง ธรรมดา (ธัมมัฏฐิตตา),
คือความเป็นกฎ ตายตัวแห่งธรรมดา (ธัมมนิยามตา),
คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น (อิทัปปัจจยตา).
ตถาคต ย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ย่อมถึงพร้อมเฉพาะ ซึ่งธรรมธาตุนั้น;
ครั้นรู้พร้อมเฉพาะแล้ว ถึงพร้อมเฉพาะแล้ว, ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงาย ของที่คว่ำ; และได้กล่าวแล้ว ในบัดนี้ว่า
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ท่านทั้งหลายจงมาดู:
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะย่อมมี" ดังนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! เพราะเหตุดังนี้แล:
ธรรมธาตุใด ในกรณีนั้นอัน
เป็น ตถตา คือความเป็นอย่างนั้น,
เป็น อวิตถตา คือความไม่ผิดไปจากความเป็นอย่างนั้น,
เป็น อนัญญถตา คือความไม่เป็นไป โดยประการอื่น,
เป็น อิทัปปัจจยตา คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น;
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ธรรมนี้เราเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท (คือธรรมอันเป็นธรรมชาติ อาศัยกันแล้ว เกิดขึ้น).
|