ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า 62
ไม่มีผู้นั้น หรือผู้อื่น ในปฏิจจสมุปบาท
ครั้งหนึ่ง ที่พระเชตวัน พราหมณ์คนหนึ่งได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ แล้วได้ทูลถามว่า
"ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ! ผู้นั้นกระทำ ; ผู้นั้นเสวย (ผล) ดังนั้นหรือพระเจ้าข้า?"
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสตอบว่า "ดูก่อนพราหมณ์! คำกล่าวที่ยืนยันลงไปด้วยทิฏฐิว่า 'ผู้นั้นกระทำ ผู้นั้นเสวย (ผล)' ดังนี้
นี้เป็นส่วนสุด (ไม่ใช่สายกลาง) ที่หนึ่ง" "ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! ก็ผู้อื่นกระทำ ผู้อื่นเสวย (ผล) หรือพระเจ้าข้า?"
ดูก่อนพราหมณ์! คำกล่าวที่ยืนยันลงไปด้วยทิฏฐิว่า "ผู้อื่นกระทำ ผู้อื่นเสวย (ผล)" ดังนี้ : นี้เป็นส่วนสุด (ไม่ใช่สายกลาง) ที่สอง.
ดูก่อนพราหมณ์! ตถาคต ย่อมแสดงธรรมโดยสายกลาง ไม่เข้าไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือตถาคต ย่อมแสดงดังนี้ว่า
เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย
เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ...ฯลฯ...ฯลฯ...
เพราะมีชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ความอาการอย่างนี้.
เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว จึงมีความดับแห่งสังขาร เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ...ฯลฯ…..ฯลฯ... เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้" ดังนี้.
พราหมณ์นั้น กล่าวสรรเสริญพระธรรมโอวาทนั้นแล้ว ประกาศตนเป็นอุบาสกผู้รับนับถือพระพุทธศาสนา จนตลอดชีวิต ดังนี้ แล.
|