ม. ม. ๑๓/๖๐๑-๖๐๕/๖๕๕-๖๕๗
การตามรู้ซึ่งความจริง (สจฺจานุโพโธ)
(ตามรู้ความจริง ๑๒ ประการ และต้องเสพคบให้มาก เจริญให้มาก จึงจะถือว่าบรรลุถึง ซึ่งความจริง)
“ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ !
การตามรู้ซึ่งความจริง (สจฺจานุโพโธ)
มีได้ ด้วยการกระทำเพียงเท่าไร ?
บุคคลชื่อว่าตามรู้ซึ่งความจริงด้วยการกระทำเพียงเท่าไร ? ข้าพเจ้าขอถามพระโคดมผู้เจริญถึงการตามรู้ซึ่งความจริง”
ภารท๎วาชะ ! ได้ยินว่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านหรือในนิคมแห่งใดแห่งหนึ่ง.
คหบดีหรือคหบดีบุตร ได้เข้าไปใกล้ภิกษุนั้นแล้วใคร่ครวญดูอยู่
ในใจเกี่ยวกับ ธรรม ๓ ประการ คือ
ธรรมเป็นที่ตั้งแห่ง โลภะ
ธรรมเป็นที่ตั้งแห่ง โทสะ
ธรรมเป็นที่ตั้งแห่ง โมหะ
เมื่อเขาใคร่ครวญดูอยู่ซึ่งภิกษุนั้น ย่อมเล็งเห็นว่า
เป็นผู้บริสุทธิ์จากธรรม อันเป็นที่ตั้ง แห่งโลภะ ต่อแต่นั้นเขาจะพิจารณาใคร่ครวญภิกษุนั้นให้ยิ่งขึ้นไปในธรรมทั้งหลาย อันเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ…ในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งโมหะ…เมื่อเขาใคร่ครวญดู อยู่ซึ่งภิกษุนั้นย่อมเล็งเห็นว่า เป็นผู้บริสุทธิ์จากธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ.... ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งโมหะ
ลำดับนั้น เขา
(๑) ปลูกฝัง ศรัทธา ลงไปในภิกษุนั้น ครั้นมีศรัทธาเกิดแล้ว
(๒) ย่อม เข้าไปหา ครั้นเข้าไปหาแล้ว
(๓) ย่อม เข้าไปนั่งใกล้ ครั้นเข้าไปนั่งใกล้แล้ว
(๔) ย่อม เงี่ยโสตลง ครั้นเงี่ยโสตลง
(๕) ย่อม ฟังซึ่งธรรม ครั้นฟังซึ่งธรรมแล้ว
(๖) ย่อม ทรงไว้ซึ่งธรรม ครั้นทรงไว้ซึ่งธรรมแล้ว
(๗) ย่อม ใคร่ครวญ ซึ่งเนื้อความแห่งธรรมทั้งหลายอันตนทรงไว้แล้ว เมื่อใคร่ครวญ ซึ่งเนื้อความแห่งธรรมอยู่
(๘) ธรรมทั้งหลาย ย่อมทนต่อความเพ่งพินิจ เมื่อการทนต่อการเพ่งพินิจของธรรมมีอยู่
(๙) ฉันทะ ย่อมเกิดขึ้น ผู้มีฉันทะเกิดขึ้นแล้ว
(๑๐) ย่อม มีอุตสาหะ ครั้นมีอุตสาหะแล้ว
(๑๑) ย่อม พิจารณาหาความสมดุลย์แห่งธรรม ครั้นมีความสมดุลย์แห่งธรรมแล้ว*
(๑๒) ย่อม ตั้งตนไว้ในธรรมนั้น เขาผู้มีตนส่งไปแล้วอย่างนี้อยู่ ย่อมกระทำให้แจ้ง ซึ่งปรมัตถสัจจะ(ความจริงโดยจริงความหมายสูงสุด) ด้วยนามกายด้วย ย่อม แทงตลอดซึ่งธรรมนั้น แล้วเห็นอยู่ด้วยปัญญา ด้วย
*ความพอดี ความเป็นปกติในการเจริญภาวนา ไม่เคร่งครัด เหมือนจับนกแบบพอดี
ภารท๎วาชะ !
การตามรู้ซึ่งความจริง ย่อมมี ด้วยการกระทำเพียงเท่านี้
บุคคลชื่อว่าย่อมตามรู้ซึ่งความจริง ด้วยการกระทำเพียงเท่านี้
และเราบัญญัติการตามรู้ซึ่งความจริง ด้วยการกระทำเพียงเท่านี้
แต่ว่านั่นยังไม่เป็นการตามบรรลุถึงซึ่งความจริง
การตามบรรลุถึงซึ่งความจริง(สจฺจานุปตฺติ)
“ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ !
การตามบรรลุถึงซึ่งความจริง
(สจฺจานุปตฺติ) มีได้ ด้วยการกระทำเพียงเท่าไร ?
บุคคลชื่อว่าย่อมตามบรรลุถึง
ซึ่งความจริง ด้วยการกระทำเพียงเท่าไร ?
ข้าพเจ้าขอถามพระโคดมผู้เจริญ
ถึงการตามบรรลุถึงซึ่งความจริง”
ภารท๎วาชะ ! การเสพคบ การทำให้เจริญการกระทำให้มาก ซึ่งธรรมทั้งหลาย เหล่านั้นแหละ (ทั้ง ๑๒ ข้อข้างต้น) เป็นการตามบรรลุถึงซึ่งความจริง
ภารท๎วาชะ !
การตามบรรลุถึงซึ่งความจริง
ย่อมมีด้วยการกระทำเพียงเท่านี้
บุคคลชื่อว่าย่อมตามบรรลุถึงซึ่งความจริง ด้วยการกระทำเพียงเท่านี้
และเราบัญญัติการตามบรรลุถึงซึ่งความจริง ด้วยการกระทำเพียงเท่านี้.
ม. ม. ๑๓/๖๐๑-๖๐๕/๖๕๕-๖๕๗.
|